กสทช. ส่งหนังสือแจ้งโอเปอเรเตอร์รายใหญ่ทั้ง 5 รายแล้วว่า การกำหนดอายุของเงินที่เติมผ่านระบบพรีเพด ถือเป็นการฝ่าฝืนประกาศ กทช. เรื่อง มาตรฐานของสัญญาให้บริการโทรคมนาคม 2549 ที่ กสทช. ประกาศมานานแล้วและยังฝ่าฝืนกันอยู่
ดังนั้น กสทช. จะเริ่มใช้มาตรการทางปกครองคือปรับวันละ 100,000 บาท โดยเริ่มจากวันที่ 1 มิถุนายน 2555 เป็นต้นไป
ด้าน น.ส.บุญยืน ศิริธรรม ประธานสหพันธ์องค์กรผู้บริโภค ให้สัมภาษณ์ว่ายินดีที่ กสทช. เริ่มดำเนินการจริงจัง แต่ก็ควรจะทำมานานแล้ว และตัวเลขวันละ 100,000 บาทยังดูน้อยเกินไป
สำหรับผู้ที่ยังพบปัญหาลักษณะนี้อยู่ แจ้งไปทาง กสทช. ได้ที่สายด่วน 1200 (รายละเอียด)
Press Release จาก กสทช.
กสทช. สั่งปรับทางปกครองผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่กรณีปัญหาพรีเพด
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (เลขาธิการ กสทช.) กล่าวว่า ตามที่ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ประเภทเรียกเก็บค่าบริการล่วงหน้า หรือ พรีเพด ได้มีการจัดทำรายการส่งเสริมการขายในลักษณะบังคับให้ผู้ใช้บริการต้องใช้บริการภายในระยะเวลาที่กำหนด เช่น การกำหนดผู้ใช้บริการที่ซื้อบัตรเติมเงินเข้าระบบจำนวน ๓๐๐.-บาท จะต้องใช้บริการให้หมดภายใน ๓๐ วัน หากใช้ไม่หมดก็จะต้องซื้อบัตรเติมเงินเข้าระบบเพิ่มเติม มิฉะนั้นจะถูกยึดเงินที่เหลือ ซึ่งการให้บริการในลักษณะดังกล่าวเป็นการฝ่าฝืนประกาศ กทช. เรื่อง มาตรฐานของสัญญาให้บริการโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๔๙ ข้อ ๑๑ ซึ่งเลขาธิการ กสทช. และ กสทช. ได้มีคำสั่งและคำวินิจฉัยอุทธรณ์ให้ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทุกรายระงับการจัดทำรายการส่งเสริมการขายในลักษณะดังกล่าวอีกต่อไป แต่ปรากฏว่ายังคงมีการฝ่าฝืนเลขาธิการ กสทช. จึงมีหนังสือแจ้งเตือนเป็นครั้งสุดท้ายให้ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทุกรายปฏิบัติให้ถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนดภายในวันที่ ๒๙ พฤษภาคม ๒๕๕๕ และหากมีการฝ่าฝืนต่อไปจะใช้มาตรการบังคับทางปกครองโดยการกำหนดค่าปรับทางปกครองให้ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่นั้นชำระรายวันจนกว่าจะระงับการจัดทำรายการส่งเสริมการขายในลักษณะดังกล่าว
เมื่อวันที่ ๓๐ พฤษภาคม ๒๕๕๕ ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการกำหนดค่าปรับทางปกครอง กรณี การบังคับให้ปฏิบัติตาม ข้อ ๑๑ ของประกาศ กทช. เรื่อง มาตรฐานของสัญญาให้บริการโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๔๙ ซึ่งคณะกรรมการฯ ได้พิจารณากำหนดค่าปรับทางปกครองดังกล่าว เมื่อวันที่ ๓๑ พฤษภาคม ที่ผ่านมา เป็นเงิน ๑๐๐,๐๐๐ บาท (หนึ่งแสนบาท) ต่อวัน โดยพิจารณาหลักเกณฑ์จากปัจจัยหลัก ๓ ประการ ได้แก่
๑. ผลกระทบต่อการประกอบกิจการโทรคมนาคม
๒. ผลกระทบต่อการกำกับดูแลการประกอบกิจการโทรคมนาคม
๓. ผลกระทบต่อประโยชน์สาธารณะ
และตามระดับความรุนแรงต่อ ว่า รุนแรงน้อย รุนแรงปานกลาง หรือรุนแรงมาก รวมถึงการกำหนดค่าปรับทางปกครองกรณีที่เคยเกิดขึ้นแล้วมาเทียบเคียง
นายฐากรฯ กล่าวต่อว่า เมื่อวานนี้ (๓๑ พฤษภาคม) ได้สั่งการให้สำนักงาน กสทช. ดำเนินการแจ้งกำหนดค่าปรับทางปกครอง ไปยังผู้ผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้ง ๕ ราย อันได้แก่ ๑. บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ๒. บริษัท ทรู มูฟ จำกัด ๓. บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ๔. บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) และ๕. บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) แล้ว และหากผู้ประกอบการไม่ดำเนินการให้เป็นไปตามประกาศ ก็จะพิจารณาว่าจะเพิ่มค่าปรับ หรือไม่ อย่างไรต่อไป ทั้งนี้ได้กล่าวย้ำว่า เรื่องปัญหาระบบพรีเพดนี้ เป็นเรื่องสำคัญ เพราะเป็นปัญหาความเดือดร้อนของผู้บริโภค และได้มีการดำเนินการตามกฎหมายมาโดยตลอด เพื่อให้เป้นการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืนต่อไป