ทาง Acer ประเทศไทยส่ง Iconia A700 ซึ่งเป็นแท็บเล็ตตัวท็อปสุดของ Acer ในขณะนี้มาให้ผมทดสอบ เนื่องจาก Blognone เคยรีวิวแท็บเล็ตของ Acer ไปแล้วหลายตัว (A500, A200, A510) บทความนี้จึงเป็นมินิรีวิวสั้นๆ เฉพาะประเด็นที่น่าสนใจเท่านั้นนะครับ
A700 เป็นแท็บเล็ตตัวท็อปสุดของ Acer ในตอนนี้ ขุมพลังภายในเป็น Tegra 3 1.3GHz และแบตเตอรี่ 9,800 mAh (เท่ากับ A510) แต่อัพเกรดจอภาพขึ้นมาเป็น IPS Full HD ความละเอียด 1920x1200 เรียกว่ามีจุดขายอยู่ที่จอนั่นเอง
ตัวแท็บเล็ตใช้ฟอร์มมาตรฐานของ Acer ซึ่งไม่ต่างอะไรจากรุ่นพี่อย่าง A200 หรือ A510 มากนัก ขนาดของมันก็ใกล้เคียงกับ A500 (ตัวบนในภาพ) มาก น้ำหนักตามสเปกบอกว่า 665 กรัมสำหรับรุ่น Wi-Fi
พอร์ตที่ให้มาก็ตามมาตรฐานคือ Micro HDMI, Micro USB, Micro SD และช่องเสียบหูฟัง เท่าที่ทราบ Acer จะออกรุ่น A701 ที่เสียบซิมได้ตามมาด้วย
วัสดุด้านหลังเป็นยางขรุขระแบบเดียวกับ A200/A510 จับได้ถนัดมือพอสมควร ตำแหน่งของกล้องก็ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ
จุดที่น่าสนใจคงเป็นปลั๊ก เพราะใช้หัว Micro USB แบบพิเศษที่มีเขี้ยวเพิ่มเข้ามา ดังนั้นไม่สามารถนำไปใช้กับอุปกรณ์ตัวอื่นได้ และ A700 เองก็ชาร์จผ่านสาย Micro USB ทั่วไปไม่ได้เช่นกันครับ ตรงนี้ทำให้เสียความสะดวกของการแชร์ปลั๊กกันพอสมควรเลย
ผมพบว่าจอของ A700 สวยมาก แต่ก็มีปัญหาว่ามันสะท้อนแสงมากๆ ในสภาพแวดล้อมบางอย่างเช่นกัน ตรงนี้ทำให้การใช้งาน A700 จำกัดไม่น้อย
ว่าแล้วก็ลองเทียบกับจอของแท็บเล็ตตัวอื่นๆ เท่าที่หาได้ดูนะครับ เริ่มจากเทียบกับจอของ A500 (ตัวซ้าย) จะเห็นว่าคอนทราสต์ของ A700 ดีกว่ามากๆ (ตั้งความสว่างสูงสุดทั้งคู่) ส่วนเม็ดพิกเซลก็ละเอียดกว่าอย่างเห็นได้ชัดเจน
เทียบกับจอของ iPad 3 (รูปล่าง) ผมยังให้ A700 (รูปบน) เป็นรองนิดๆ แต่โดยรวมก็ถือว่าทำได้ดีเยี่ยมสำหรับจอแท็บเล็ตฝั่ง Android ครับ
A700 มาพร้อมกับ ICS 4.0.4 เวอร์ชันปรับแต่งเพิ่มเติมเล็กน้อย โดยรวมแล้วแทบไม่ต่างกับ A200 ซึ่งเขียนไว้ละเอียดแล้ว สิ่งที่เห็นชัดคือ Acer Ring ซึ่งไม่มีประโยชน์ในการใช้งานมากนัก และตัว toggle ตรง notification bar ที่ช่วยอำนวยความสะดวกได้มาก (เหมือนกับพวก Galaxy Tab)
ฟีเจอร์ใหม่ที่หาเจอคือ Browser เพิ่มปุ่ม QR Code มาให้สำหรับสร้าง QR Code จาก URL ไม่แน่ใจว่าได้ใช้จริงกันสักเท่าไร
แอพที่มากับเครื่อง
ตามสเปกบอกว่าเป็นกล้อง 5MP/1MP ไม่รู้จะทดสอบอย่างไร เอาเป็นว่าดูภาพกันเองดีกว่า พยายามถ่ายมาหลายๆ สภาพแสงเท่าที่เวลาอำนวย
มันถ่ายวิดีโอ 1080p ได้ด้วยนะครับแต่ไม่ได้ลองตรงนี้
เนื่องจากมันเป็น Tegra 3 น่าจะแรงพอตัว ผมเลยทดสอบง่ายๆ ด้วย Quadrant Standard ได้คะแนนออกมา 3239 คะแนน ยังตามหลังเพื่อนร่วมรุ่นอย่าง Transformer TF201 และ HTC One X อยู่พอสมควรเหมือนกัน
ผมใช้อยู่วันสองวันแล้วพบว่า
เรื่องแบตเตอรี่ที่โฆษณาว่าจุถึง 9,800 mAh นี่ไม่ได้ทดสอบอย่างจริงจัง เลยบอกไม่ได้ว่าเป็นอย่างไรบ้าง เช่นเดียวกับเรื่องการต่อออก HDMI ก็ไม่ได้ทดสอบครับ
ราคาขายรุ่น 32GB Wi-Fi อยู่ที่ 16,900 บาท โดยแถมเคสและฟิล์มมาให้ด้วย (ในกล่องมีสาย Micro HDMI to HDMI มาให้อยู่แล้ว) เท่าที่ใช้มายังไม่ค่อยประทับใจนัก คือไม่รู้สึกถึงความต่างจากแท็บเล็ต ICS ตัวอื่นๆ สักเท่าไร มีปัญหาเรื่องประสิทธิภาพที่น่าจะเกิดจากรอม และข้อเสียสำคัญคือร้อนมากครับ