Review: adonit Jot Mini

by Ford AntiTrust
21 July 2012 - 16:27

วันนี้มาเล่าเรื่องการใช้งาน adonit Jot Mini ให้ฟังกันสักหน่อยนึง แต่ก่อนอื่นอยากให้ทราบก่อนว่า adonit Jot Mini เป็น 1 ใน 5 ของสินค้าในกลุ่ม adonit Jot (ณ. วันที่ 10 ก.ค. 2012)

ผมได้ adonit Jot Mini (ตัวสีฟ้าตรงกลางในรูปด้านล่าง) จากร้าน Gadgetrend สาขา The Nine ถ.พระราม 9

Jot Mini เปิดตัวในงาน CES 2012 เมื่อต้นปีที่ผ่านมาครับ และเริ่มวางขายประมาณเดือน ก.พ. มีผู้สนใจหาซื้อมาใช้เป็นจำนวนมากครับ เพราะแปลกใหม่ และแตกต่างจาก Stylus ตัวอื่นๆ ในท้องตลาด แต่จะแตกต่างอย่างไรเรามาดูกัน

วันนี้มาเล่าเรื่องการใช้งาน adonit Jot Mini ให้ฟังกันสักหน่อยนึง แต่ก่อนอื่นอยากให้ทราบก่อนว่า adonit Jot Mini เป็น 1 ใน 5 ของสินค้าในกลุ่ม adonit Jot (ณ. วันที่ 10 ก.ค. 2012)

ผมได้ adonit Jot Mini (ตัวสีฟ้าตรงกลางในรูปด้านล่าง) จากร้าน Gadgetrend สาขา The Nine ถ.พระราม 9

Jot Mini เปิดตัวในงาน CES 2012 เมื่อต้นปีที่ผ่านมาครับ และเริ่มวางขายประมาณเดือน ก.พ. มีผู้สนใจหาซื้อมาใช้เป็นจำนวนมากครับ เพราะแปลกใหม่ และแตกต่างจาก Stylus ตัวอื่นๆ ในท้องตลาด แต่จะแตกต่างอย่างไรเรามาดูกัน

ตัวเนื้องานนั้นวัสดุโดยรอบของด้ามปากกา Jot Mini ทำจากอลูมิเนียมขัดด้านทำให้จับกระชับมือดีแม้จะมีขนาดเล็ก ด้วยขนาดของ Jot Mini เพียง 5.5” ซึ่งเหมาะสำหรับพกพาใส่กระเป๋ากางเกงคู่กับมือถือตัวเก่งของท่าน หรือแม้แต่ Tablet รุ่นเล็กๆ เองก็ตามที พกคู่กันก็ดูไม่เป็นภาระเท่าไหร่

ตัวปากกานั้นมีฝาปิดที่สามารถหมุนเก็บที่ปลายอีกด้านนึงได้เป็นวัสดุชนิดเดียวกับตัวด้าม ทำให้รู้สึกเข้ากันได้ดีและแข็งแรงมาก

โดยตัวส่วนหัวของปากกา Jot Mini ที่สัมผัสกับหน้าจอนั้นจะมีแผนวงกลมใสยึดอย่างหลวมๆ ให้สามารถขยับได้กับตัวหัวปากกาที่เหมือนเข็มหมุนไว้ ซึ่งสามารถที่จะโยงไป-มาได้อิสระเพื่อให้แผ่นวงกลมตรงกลางยังคงสัมผัสบนตัวหน้าจอได้ในระนาบเดิมตลอดเวลาแม้จะเอียงตัวปากกาทำมุมเหมือนเราเขียนในสภาวะปรกติ

การออกแบบให้ตัวหัวปากกาที่มีแผ่นวงกลมใส โดยตรงกลางของแผ่นวงกลมใส่มีวัสดุคล้ายโลหะฝั่งอยู่เพื่อนำไปทำให้สนามแม่เหล็กไฟฟ้าบนจอ capasitive touch screen นั้นตกลงบริเวณที่เรานำไปสัมผัส โดยผมลองถอดแผ่นวงกลมดังกล่าวออกเหลือแต่หัวปากกาล้วนๆ จะไม่สามารถใช้งานกับหน้าจอ capacitive touch screen ได้

ซึ่งปลายปากกาเป็นเข็มหมุดแบบนี้นั้น ทำให้เรามองเห็นว่าเรากำลังสัมผัสหรืออยู่ในช่วงใดของหน้าจอในจุดที่เล็กที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งปรกติแล้ว stylus รุ่นที่มีขายโดยทั่วไปจะใช้การเรียนแบบนิ้วมือซึ่งจะมีหน้าสัมผัสและจุดที่ใหญ่คล้ายๆ นิ้วมือเรา แต่ด้วยการออกแบบของ Jot Mini นั้น ทำให้เราเขียนบนหน้าจอ capacitive touch screen ที่รับการสัมผัสบนจุดที่ใหญ่กว่าได้แม่นยำกว่าเดิมมาก ซึ่งเหมาะมากสำหรับการใช้งานที่ต้องการความแม่นยำในการเขียนสูงๆ เช่นกันวาดรูป รีทัชภาพต่างๆ ที่ต้องกรีดตัวแปรงทาสีบนช่องว่างแคบๆ ได้ดีขึ้น

สำหรับตัวแผ่นวงกลมใสที่หัวนั้นสามารถถอดเปลี่ยน และยังมีอะไหล่สำรองซึ่งต้องซื้อแยกต่างหากขาย จึงมั่นใจได้ว่าถ้าแผ่นวงกลมนี้หายไปก็ไม่ต้องซื้อด้ามใหม่ทั้งหมดแต่อย่างใด

ที่ด้านปลายด้ามอ้างแบบเป็น Clip สำหรับหนีบที่กระเป๋าเสื้อหรือกระเป๋ากางเกง แต่น่าจะเหมาะกับกระเป๋ากางเกงมากกว่า เพราะกระเป๋าเสื้อมันตื้นไป

ในกลุ่มของสินค้า adonit +Jot นั้นนอกจาก Jot Mini แล้วยังมี Classic, Pro, Flip และ Touch อีกด้วย (แต่ที่นำเข้ามาขายในไทยตอนนี้มี Pro, Mini และ Flip)

ข้อแตกต่างของทั้ง 5 รุ่นมีดังนี้

  • adonit Jot Classic (http://adonit.net/product/jot)

    รุ่นนี้เป็นรุ่นแรก ยังไม่มีลูกเล่นใดๆ นอกจากใช้เป็น stylus ที่วาดได้แม่นยำขึ้นและแปลกใหม่กว่าในท้องตลาด

  • adonit Jot Mini (http://adonit.net/product/jot-mini-2)

    สรุปง่ายๆ ว่าเป็นรุ่นขนาดย่อของ Jot Classic มี Clip หนีบกระเป๋าได้ พกพาสะดวก

  • adonit Jot Pro (http://adonit.net/product/jot-pro)

    รุ่นที่เพิ่มเติมคุณสมบัติจากรุ่น Classic ซึ่งลักษณะและรูปร่างไม่แตกต่างกันเท่าไหร่ น้ำหนักเพิ่มมากขึ้นเล็กน้อย
    - เพิ่ม MAGNETIC CLING (แม่เหล็ก) เพื่อให้ดูดติดกับตัว Tablet หรือพื้นวัสดุที่เป็นโลหะได้
    - เพิ่ม RUBBER GRIP เพื่อให้จับถนัดมือมากขึ้น

  • adonit Jot Flip (http://adonit.net/product/jot-flip)

    รุ่นที่เพิ่มเติมคุณสมบัติจากรุ่น Classic
    - เพิ่มปากกาเข้ามาทำให้หน้าตานั้นแตกต่างจาก Classic อยู่พอสมควร และด้วยการเพิ่มปากกาเข้ามา ทำให้น้ำหนักเพิ่มมากขึ้นพอสมควร เพราะมีไส้ปากกาขนาดใหญ่อยู่ด้านใน
    - เพิ่ม MOBILE CLIP สำหรับใช้เหน็บที่ประเป๋าเสื้อ
    - เพิ่ม RUBBER GRIP เพื่อให้จับถนัดมือมากขึ้น

  • adonit Jot Touch (http://adonit.net/product/jot-touch)

    รุ่นล่าสุดที่เพิ่มเติมความสามารถจากรุ่น Classic เข้ามา
    - มีปุ่ม shortcut ที่ปากกา 2 ปุ่มสำหรับสั่งงาน App เพื่อเรียก shortcut บน App ขึ้นมาใช้โดยไม่ต้องเปลี่ยนตำแหน่งที่เรากำลังวางมือไปทัชส่วนของเมนูไปๆ มาๆ อีก โดยใช้การสั่งการผ่าน Bluetooth
    - ตัวปากกาทำงานด้วยแบตเตอร์รี่ภายใน ทำให้มี USB Charger เพิ่มเติมเข้ามาด้วย
    - ระบบ DAMPENING TIP ที่จะเพิ่มความยืดหยุ่นในการสัมผัส คล้ายๆ กับสปริงตัวเล็กๆ ทำให้ได้ความรู้สึกเหมือนเขียนอยู่บนกระดาษ

เว็บอ้างอิง http://www.adonit.net

ขอบคุณร้าน Gadgetrend สาขา The Nine ถ.พระราม 9 ที่ให้ลองตัวปากกา Jot Mini จนผมเสียเงินซื้อจนได้ ฮา …. ><”\

ราคาจำหน่าย (ณ.วันที่ 19 ก.ค. 2555)

  • adonit Jot Mini: 1,090 บาท
  • adonit Jot Pro: 1,190 บาท
  • adonit Jot Flip: 1,490 บาท
Blognone Jobs Premium