แม้แต่บริษัทที่ได้ขึ้นชื่อว่ามีสวัสดิการเป็นเลิศจนใครๆ ก็ใฝ่ฝันอยากจะเข้าทำงานอย่างกูเกิล ก็ยังมีด้านมืดเกี่ยวกับ "งานที่ไม่มีใครอยากทำ" และการปฏิบัติต่อพนักงานสัญญาจ้างที่เป็นปัญหาเช่นกัน
อดีตพนักงานสัญญาจ้างของกูเกิลรายหนึ่งได้ออกมาเปิดเผยว่า หลังเรียนจบด้านรัฐศาสตร์ เขาได้รับการชักชวนจากรีครูเตอร์ของกูเกิลทางโซเชียลมีเดีย ให้เข้าทำงานเป็นพนักงานสัญญาจ้างกับกูเกิลในทีมตรวจสอบคอนเทนท์ผิดกฎหมาย ถึงแม้ว่าจะเป็นพนักงานสัญญาจ้าง แต่เขาก็ได้รับสวัสดิการอย่างดีเท่าที่เด็กจบใหม่คนหนึ่งจะได้รับ พ่อแม่ของเขาต่างภูมิใจที่ลูกชายได้เข้าทำงานในบริษัทใหญ่ระดับกูเกิล ทุกอย่างดูเหมือนจะไปได้สวย หากงานของเขาไม่ใช่การต้องนั่งดูภาพถ่ายและวิดิโอลามกอนาจารกว่า 15,000 ภาพตลอดทั้งวัน
ทีมตรวจสอบคอนเทนท์ผิดกฎหมายของกูเกิลต้องผลัดเปลี่ยนกันมอนิเตอร์เว็บไซต์บริการต่างๆ ของบริษัทตลอด 24 ช.ม. พวกเขาต้องอยู่กับภาพถ่ายและวิดิโออาชญากรรมในรูปแบบต่างๆ ที่ถูกอัพโหลดขึ้น YouTube เช่น การกระทำอนาจารเด็ก การฆ่าตัวตาย และอื่นๆ อีกมากมายที่โหดร้ายจนไม่อาจบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้ ในขณะที่พวกเขาก็ยังคงสภาพเป็นแค่พนักงานสัญญาจ้าง และพนักงานประจำก็ไม่ต้องมาทำหน้าที่เหมือนพวกเขา
พนักงานกะกลางคืนต้องทนอยู่กับภาพสะเทือนจิตใจเหล่านี้ตั้งแต่ 4 ทุ่มถึง 8 โมงเช้า ชายคนดังกล่าวเล่าว่าเพื่อนร่วมงานหญิงคนหนึ่งของเขาเสียช่วงเวลาของชีวิตไปหนึ่งปี ส่วนตัวเขาเองกูเกิลจัดหาจิตแพทย์จากรัฐมาให้ที่บริษัท เขาต้องเข้ารับการบำบัดจิตใจหลังจากเห็นภาพธรรมดาๆ ของพ่อลูกคู่หนึ่งเป็นภาพที่มีเนื้อหาไปทางอนาจาร กูเกิลจ่ายค่าพบจิตแพทย์ของรัฐให้เขาเพียงครั้งเดียว แล้วบอกให้เขาออกจากงานเพื่อหาจิตแพทย์ส่วนตัวและจ่ายค่ารักษาหลังจากนั้นเองเนื่องจากเขาไม่ได้เป็นพนักงานประจำของบริษัท
dailynewsagency สรุปเรื่องนี้ไว้ว่า บริษัทใหญ่อย่างกูเกิลก็ยังหนีไม่พ้นที่จะปฏิบัติต่อพนักงานสัญญาจ้างดุจดังชิ้นส่วนของอะไหล่ที่รอวันเปลี่ยนเมื่อ "ชำรุด" ประเด็นด้านมืดของงานไอทีอันเกี่ยวข้องกับสวัสดิภาพการทำงานของพนักงานควรจะถูกหันมามองและใส่ใจพูดถึงกันให้มากขึ้น
ที่มา-BuzzFeed
และ dailynewsagency