ไมโครซอฟท์เปิดเผยความสามารถใหม่ของบริการ Windows Azure ในชื่อว่า Big Compute ซึ่งเป็น virtual machine สำหรับรองรับการประมวลผลสมรรถนะสูง ในเบื้องต้น Big Compute จะรองรับเพียงแค่ระบบปฏิบัติการ Windows และจัดเตรียม virtual machine มาให้ 2 รุ่นด้วยกัน คือ รุ่นซีพียู 8 คอร์พร้อมแรม 60 กิกะไบต์ และรุ่นซีพียู 16 คอร์พร้อมแรม 120 กิกะไบต์ โดยขณะนี้ ไมโครซอฟท์ยังไม่เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับราคาบริการของ Big Compute
ไมโครซอฟท์เตรียมเซิร์ฟเวอร์ชุดใหม่สำหรับโฮสต์ virtual machine แบบ Big Compute ซึ่งเป็นเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้โปรเซสเซอร์ 8 คอร์ของอินเทล ตระกูล Xeon E5-2670 ความเร็ว 2.6 GHz มาพร้อมกับเครือข่าย InfiniBand ที่ความเร็ว 40 กิกะบิตต่อวินาที พร้อมผนวกเทคโนโลยี RDMA ทำให้คอมพิวเตอร์หลายเครื่องสามารถแชร์หน่วยความจำร่วมกันได้ ซึ่งเหมาะต่อการพัฒนาโปรแกรมเพื่อการประมวลผลแบบขนาน
เป็นที่น่าจับตามองว่า ไมโครซอฟท์รุกตลาดการประมวลผลสมรรถนะสูงที่ทำงานบนบริการแบบกลุ่มเมฆมากขึ้น ซึ่งเป็นการต่อกรกับคู่แข่งรายสำคัญนั่นคือ Amazon EC2 ที่เปิดตัวบริการรูปแบบคล้ายกันนี้มาได้ 2 ปีแล้ว (ข่าวเก่า) ทั้งนี้ ก่อนที่ไมโครซอฟท์จะเปิดตัว Big Compute ไมโครซอฟท์ได้ทดลองใช้บริการ Windows Azure ในการติดตั้ง virtual machine รุ่น 16 คอร์จำนวน 504 เครื่องที่ทำงานร่วมกันเสมือนเป็นระบบเดียวกัน โดยไมโครซอฟท์เรียกระบบนี้ว่า Faenov จากนั้นไมโครซอฟท์วัดสมรรถนะการประมวลผลของ Faenov ได้ 151.3 เทราฟลอป ซึ่งจัดได้ว่ามีสมรรถนะระดับซูเปอร์คอมพิวเตอร์ ทำให้ Faenov คว้าอันดับที่ 165 ใน TOP500 ครั้งล่าสุด (ข่าวเก่า) เป็นบทพิสูจน์หนึ่งว่าไมโครซอฟท์มีความพร้อมในการให้บริการ Big Compute บน Windows Azure ซึ่งคาดว่าพร้อมจะออกสู่ตลาดในปีหน้า
ที่มา - HPCwire