นานๆ ทีผมก็จะเขียนเรื่องนี้ขึ้นมาเรื่อยๆ นะครับ เพื่อทำความเข้าใจกัน หลายคนที่นำบทความจาก Blognone ไปใช้อาจจะเจอผมไปโพสของให้แก้ไขรูปแบบการใช้งานบ้าง จนอาจจะดูน่ารำคาญสำหรับหลายๆ คนรอบนี้เลยมาแถลงไขกันว่าทำไมต้องมีเงื่อนไขที่กำหนดไว้
Q: ทำไมต้องบอก username แค่บอกว่าเอามาจาก Blognone ไม่พอหรือ? ต้องทำความเข้าใจว่าตัวเว็บ Blognone เองไม่ได้เป็นเจ้าของข่าว เราเป็นเพียงเว็บที่ให้บริการนำเสนอข่าวโดยมีข้อตกลงว่าข่าวที่นักเขียนแต่ละท่านเขียนมาลงเว็บเรานั้น สามารถนำไปใช้ได้ในรูปแบบสัญญาอนุญาต Creative Commons 2.5 (By) โดยตัวข่าวทั้งหมดยังคงเป็นสิทธิของเจ้าของข่าวโดยตรง ดังนั้นการที่มีคนนำข่าวของเราไปใช้งานโดยไม่บอกว่าข่าวนั้นเขียนโดยนักเขียนคนไหน เท่ากับว่าทาง Blognone ไปยึดเอาเครดิตที่นักเขียนคนนั้นควรได้มาเป็นของตัวเอง และการที่ท่านนำข่าวไปใช้โดยไม่บอกชื่อผู้เขียนก็เท่ากับเป็นการละเมิดสิขสิทธิของผู้เขียนข่าวโดยตรง
แม้ในตอนนี้ข่าวกว่าครึ่งในเว็บจะเขียนโดยเจ้าของเว็บสองคนก็ตามที แต่สัดส่วนตรงนี้กำลังลดลงอย่างต่อเนื่อง นักเขียนจำนวนมากเข้ามาร่วมเขียนข่าวกับเราโดยไม่เคยเห็นหน้าตากันมาก่อน ผมในฐานะหนึ่งในผู้ดูแลเว็บนี้จำเป็นต้องรักษาผลประโยชน์พึงได้ของผู้ที่เข้ามาร่วมเขียนข่าวกับเรา
Q: ทำไมต้องลิงก์กลับไปที่ตัวข่าว แค่ลิงก์กลับมาที่ Blognone ก็น่าจะพอแล้ว ประเด็นการให้ลิงก์กลับมีอะไรซับซ้อนกว่าการโปรโมทเว็บตามปรกติ เรื่องที่สำคัญกว่าคือ การที่ท่านนำข่าวของ Blognone ไปใช้งานนั้นอาจจะมีการดัดแปลงแก้ไขอื่นๆ เพิ่มเติม ซึ่งสามารถทำได้ แต่การลิงก์กลับมาที่ตัวข่าวโดยตรงจะเปิดโอกาสให้คนที่สนใจสามารถเข้ามาอ่านข่าวซึ่งนักเขียนที่ร่วมงานกับเราเป็นผู้เขียนมาได้โดยตรง นอกจากนี้หลายครั้งที่เนื้อข่าวมีการปรับปรุง หรือแก้ไขไปตามระยะเวลา ซึ่งมีอยู่เป็นระยะ ดังนั้นการที่ผู้อ่านจากที่อื่นจะมีโอกาสตรวจสอบความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ได้
ในโอกาสเดียวกันนี้ขอความร่วมมือสมาชิกที่ไปเจอข่าวจาก Blognone ที่นำไปใช้โดยไม่ทำตามเงื่อนไขเหล่านี้ช่วยแจ้งเว็บเหล่านั้นให้แก้ไขด้วยครับ
ส่งท้ายอีกหน่อยว่าแม้จะดูเรื่องมาก แต่ผมเองสนับสนุนการนำข่าวจาก Blognone ไปใช้งานในเว็บอื่นๆ เสมอมา เพียงแต่ขอให้ผู้ที่นำข่าวไปใช้งานเข้าใจนโยบายของเราก่อนการนำไปใช้งาน และให้ความร่วมมือเท่านี้ทั้ง Blognone และผู้ใช้งานข่าวของเราก็จะได้รับประโยชน์ร่วมกันครับ