ช่วงนี้แท็บเล็ตราคาถูกจากจีนเริ่มบุกเข้ามาในประเทศไทยมากขึ้นเรื่อยๆ หนึ่งในแบรนด์ที่หลายคนคุ้นหูอย่าง ScoPad (ที่ทำแท็บเล็ตให้กับรัฐบาล) ก็ร่วมเล่นในตลาดนี้เช่นกัน โดยมี Advice เป็นผู้จัดจำหน่าย และศูนย์บริการให้ จนถึงตอนนี้มีเปิดตัวมาแล้ว 3 รุ่นไล่จากรุ่นเล็กไปใหญ่คือ Twister, Hercules และ Spectrum
รุ่นที่ทีมงานได้มารีวิวคือรุ่นกลางรหัส SP0718 หรือรุ่น Hercules ที่มาพร้อมกับสเปคดูอัลคอร์ หน้าจอ 7" ที่ขายราคา 2,990 บาท ว่าแล้วก็พูดถึงสเปคหลักๆ ของเจ้า Scopad Hercules กันก่อนเลย ดังนี้ครับ
เกริ่นกันไปพอสมควรก็พูดถึงตัวเครื่องกันเลย
เริ่มกันที่แพคเกจของเจ้า ScoPad Hercules มาแนวเดียวกับแท็บเล็ตรุ่นอื่นๆ เป็นกล่องแบบสวมที่เปิดด้วยการยกฝาบนขึ้น ด้านในมีตัวแท็บเล็ต อแดปเตอร์ สาย micro USB หูฟัง และหนังสือคู่มือครับ
ตัวเครื่อง Hercules ทรงจะคล้ายกับ iPad รุ่นแรกเอามาย่อส่วน ฝาหลังทั้งชิ้นเป็นอลูมิเนียม (แกะไม่ได้) และเป็นทรงเดียวกับแท็บเล็ตของโครงการรัฐบาลครับ ใช้งานมาสัปดาห์กว่า พบว่ามันทนทานมากๆ
หน้าจอของ Hercules เมื่อตอนแกะใหม่จะมีฟิล์มหนามาให้หนึ่งชั้น พอดึงออกจะยังมีฟิล์มกันรอยอีกชั้นครับ (ในรูปยังมีฟิล์มกันรอยอยู่)
ด้านบนของจอมีกล้องหน้าความละเอียด 2 ล้านพิกเซล (มองยากหน่อย) คุณภาพอยู่ในขั้นธรรมดา ค่อนไปต่ำ ถ้าจะใช้วิดีโอคอลต้องอยู่ในห้องแสงเยอะหน่อย การถ่ายภาพนิ่งทำได้ตามฟีเจอร์ แต่ไม่แนะนำเพราะว่ากล้องหน้าไม่มีระบบโฟกัสอัตโนมัติ และสปีดชัตเตอร์ก็ช้ามากครับ
พอร์ต และปุ่มต่างๆ ของตัวเครื่องจะมากองอยู่ตรงด้านบนขวา ไล่มาจนถึงขอบขวาบน ตามภาพเรียงจากซ้าย-ขวา เป็นพอร์ต micro USB, ปุ่ม back, ปุ่มปรับเสียง, ปุ่มเปิดปิดเครื่อง อีกฝั่งเป็นช่องเสียบ microSD และพอร์ต 3.5 มม.
พลิกมาด้านหลังจะเห็นว่ามีสัญลักษณ์บอกด้วยว่าแต่ละปุ่มใช้ทำอะไรบ้าง
ด้านหลังของ Hercules เป็นอลูมิเนียมทั้งแผ่น ตรงกลางแปะแบรนด์ตามปกติ
ด้านบนขวามีลำโพงแบบโมโนหนึ่งจุด คุณภาพเสียงไม่ดีครับ เสียงไม่ดังเท่าไหร่ แต่มีไว้ดีกว่าไม่มี :P
ด้านล่างตัวเครื่องมีบอกว่าแท็บเล็ตชาร์จด้วยไฟ 5 โวลท์ 2 แอมป์ แต่ลองเสียบกับคอมทั่วไปก็ขึ้นชาร์จครับ แต่ช้าหน่อย
ลองถือเทียบกับฝ่ามือแล้ว ได้ประมาณนี้ครับ การใช้งานทั่วไปสามารถใช้มือนึงจับ และใช้งานอีกมือสบายๆ น้ำหนักไม่ได้เบามาก แต่ถือนานๆ ก็ไม่ได้เมื่อยอะไร
การใช้งานทั่วไปของ ScoPad Hercules ต้องบอกว่าทำได้ดีเกินราคา การใช้งานทั่วไปร่วมกับ Android 4.1 ลื่นไหลมาก สามารถใช้เล่นเกมกราฟิกจัดได้สบายๆ ด้วยอานิสงส์ของ Mali-400
หน้าจอ IPS LCD ของ Hercules นั้นให้มุมมองกว้างสมสเปค แต่ความสว่างค่อนข้างต่ำไปหน่อย ใช้กลางแดดแทบไม่ได้เลย และตัวรับสัมผัสหน้าจอ (digitizer) เมื่อใช้งานเกินสองนิ้วจะมีอาการเอ๋อๆ นิดหน่อย ส่วนสเปคจริงใช้ได้สูงสุด 5 นิ้วครับ
แบตเตอรี่ของ Hercules ไม่ทนทานมากนัก ตามสเปคบอกว่าความจุอยูที่ 3500 mAh ผมต่อเน็ตเปิดเว็บ เล่นเกมอยู่ในห้องได้ราวๆ 4-5 ชั่วโมง สำหรับใครที่เจอบั๊กเครื่องดับเองเพราะตัวเครื่องแจ้งว่าแบตหมด (ทั้งที่จริงๆ แบตยังเหลือ) ให้กดอัพเดตเฟิร์มแวร์ใหม่จากตัวเครื่องได้เลย
คีย์บอร์ดที่มากับเครื่องอย่าง Arch Thai Keyboard เรียกได้ว่าเข้าขั้นเลวร้าย แถมยังมีบั๊กที่ทำให้เปลี่ยนไปใช้คีย์บอร์ดอื่นไม่ได้ ทางแก้คือไปปิดการใช้งานคีย์บอร์ดที่ว่าได้ตรง Settings > Apps > All แล้วเลือก Disable ครับ ทีนี้เวลาเปลี่ยนคีย์บอร์ดก็จะไม่เด้งกลับมาที่คีย์บอร์ดของ Arch Thai หรือคีย์บอร์ด Stock แล้ว
ปัญหาอื่นที่เจอคือเซนเซอร์ในตัวเครื่องทำงานแปลกๆ เช่น Accelerometer ที่ดูจะไวเกินความเป็นจริง (สังเกตจากการลองเล่นเกมรถแข่งที่ต้องโยกเครื่องไปมา) หรือในบางแอพก็ไม่ทำงานเลย อันนี้ก่อนซื้อให้ลองก่อนครับ
ส่วนตัวซอฟต์แวร์อื่นๆ เป็น Android 4.1 แบบ stock ที่มีแอพเพิ่มมาให้อย่าง ApkInstller สำหรับลงแอพในเครื่องเอง ซึ่งเอาเข้าจริง สามารถโหลดแอพจาก Play Store ตามปกติได้ครับ (ไม่รู้ว่าใส่มาทำไมเหมือนกันแฮะ)
ปิดท้ายกันด้วยคะแนนผลทดสอบของเจ้า ScoPad Hercules ที่แรงน้องๆ แท็บเล็ตราคาเฉียดสองหมื่นอย่าง Transformer Prime เลยทีเดียว
ScoPad Hercules ยังมีจุดบกพร่องพอสมควร แต่เมื่อเทียบกับค่าตัว 2,990 บาท คงต้องบอกว่านี่เป็นแท็บเล็ตที่คุ้มค่ามากตัวหนึ่ง นอกจากสเปคแล้วยังได้ Android รุ่นเกือบล่าสุด และวัสดุที่ทนทานมากในระดับราคาเดียวกัน
ทางฝั่งฮาร์ดแวร์ผ่านไปแล้ว คงต้องรอดูบริการจากฝั่งผู้ขายว่าทำได้ดีแค่ไหน และการอัพเดตซอฟต์แวร์ต่อเนื่องหรือไม่อีกทีครับ
ข้อดี
ข้อเสีย