ทดลองจับ Surface Pro, เป็นไปได้ที่ Microsoft จะใช้ Core Ivy Bridge รุ่นกินไฟ 7 วัตต์?

by nuntawat
10 January 2013 - 00:05

เว็บไซต์ The Verge ได้รับโอกาสทดลองเล่นเครื่อง Surface with Windows 8 Pro ก่อนการผลิตขายจริง สิ่งที่น่าสนใจมีดังนี้

  • มุมเอียงของแท็บเล็ตเมื่อกางขาตั้งออกจะอยู่ที่ 26 องศา แทนที่จะเป็น 22 องศาตาม Surface RT
  • ปากกาจะติดกับด้านข้างของตัวเครื่องด้วยแม่เหล็ก มีปุ่มสำหรับแทนการคลิกขวาของเมาส์ และมียางลบไว้ลบข้อมูลที่เขียนในแอพ ถึงไมโครซอฟท์พัฒนาปากกาเองไม่ใช่ของ Wacom แต่ก็ตอบสนองได้รวดเร็วและแม่นยำ นอกจากนั้นผู้ใช้สามารถรับรู้ได้ว่าดึงปากกาออกจากตัวเครื่อง
  • ระบบป้องกันฝ่ามือทำงานได้ดี ช่วยให้ผู้ใช้เขียนบนหน้าจอได้สะดวก
  • พอร์ตชาร์จไฟได้รับการปรับปรุงจาก Surface RT โดยมีความแข็งแรงมากขึ้นและผู้ใช้สามารถรับรู้ได้ว่าเสียบหัวชาร์จกับตัวเครื่อง
  • ผู้ทดสอบบอกว่า Microsoft ทำ Surface Pro ออกมาให้ใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย แต่ไม่สะดวกที่จะถือด้วยมือเดียวเนื่องด้วยน้ำหนัก (Surface Pro หนัก 900 กรัม ซึ่งหนักกว่า Surface RT อยู่ 225 กรัม) นอกจากนั้นจะถือแท็บเล็ตด้วยสองมือก็ยากหากติดปากกาอยู่ด้วย
  • คาดว่าแบตเตอรี่อยู่ได้ 5 ชั่วโมง ส่วนสายชาร์จนั้นยาวกว่าของ Surface RT เล็กน้อย และตัวชาร์จไฟมีพอร์ต USB ที่ผู้ใช้สามารถใช้ชาร์จอุปกรณ์อื่นอย่างโทรศัพท์มือถือได้
  • มีแถบระบายความร้อนรอบตัวเครื่อง มีพัดลมสองตัวซึ่งทำงานได้เงียบมากระบายความร้อนออกไปรอบตัวเครื่อง

ถึงผลการทดลองเล่น Surface Pro จะออกมาค่อนข้างดี แต่ The Verge สรุปว่ามันยังไม่ใช่โน้ตบุ๊กหรือแท็บเล็ตที่สมบูรณ์แบบ เนื่องจากยังใช้งานบนตักได้ยาก และดูน่าตลกขบขันเมื่อใช้แท็บเล็ตในแนวตั้งเนื่องด้วยหน้าจออัตราส่วน 16:9 แต่หากผู้ใช้ให้อภัยกับสองประเด็นที่กล่าวมาได้ก็ไม่ผิดหวังกับฮาร์ดแวร์ที่ได้รับการออกแบบมาอย่างสวยงามและประสิทธิภาพการทำงาน

ที่มา: The Verge

อีกข่าว หลังการเปิดตัวซีพียูตระกูล Ivy Bridge รุ่นกินไฟ 7 วัตต์ เว็บไซต์ ZDNet ก็ได้สอบถาม Microsoft ว่า Surface Pro จะได้ใช้ชิปดังกล่าวหรือไม่ (ซึ่งหากใช้ ระยะเวลาใช้งานต่อการชาร์จหนึ่งครั้งก็น่าจะนานกว่าชิปรุ่นเดิม ที่บริษัทระบุว่าระยะเวลาใช้งานเป็นครึ่งหนึ่งของ Surface RT เท่านั้น) Intel ก็ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม ส่วนMicrosoft บอกแต่เพียงว่าบริษัทตื่นเต้นกับวิวัฒนาการของซีพียู Intel Core และ Atom อย่างต่อเนื่อง และเชื่อว่าจะนำนวัตกรรมนี้ไปใช้กับรูปแบบเครื่อง (form factor) และรูปแบบการใช้งานใหม่ๆ เพื่อตอบสนองต่อความต้องการในอนาคต

ที่มา: ZDNet

Blognone Jobs Premium