รีวิว HTC Butterfly

by magnamonkun
16 January 2013 - 16:00

เมื่อปลายปี 2012 เอชทีซีได้เขย่าวงการสมาร์ทโฟนโลกอีกครั้ง ด้วยการส่ง HTC J Butterfly มือถือจอยักษ์ ความละเอียดสูงถึง 1080p ลงตลาดประเทศญี่ปุ่น ในฐานะตัวต่อจาก HTC J และในเวลาไม่นานก็ส่งมันกลับมาลงกับเครือข่าย Verizon Wireless ในชื่อ Droid DNA by HTC และด้วยความที่อุปกรณ์บางส่วนดันเป็น Universal Hardware ก็เลยทำให้มีข่าวของรุ่นวางขายทั่วโลกออกมาในระยะเวลาไล่ๆ กัน จนกระทั่งในที่สุด มันก็กลายเป็นรุ่นสำหรับวางขายทั่วโลก ในชื่อ HTC Butterfly

เอชทีซีประเทศไทยได้ส่งตัวเครื่อง HTC Butterfly มาให้ผมทดสอบเป็นเวลา 1 อาทิตย์กว่าๆ ครับ และช่วงนั้นพอดีผมต้องไปทำธุระที่ต่างจังหวัดด้วย ก็เลยได้ใช้งานแบบ On the way อย่างเต็มที่ รีวิวนี้คงไม่พูดยาวมากเหมือนตอนที่ผมรีวิว One X+ ไปเมื่อครั้งที่แล้วนะครับ ส่วนสเปคหาอ่านกันเองได้จากข่าวเก่าไม่ก็หน้าเว็บหลักของเอชทีซีครับ

ตัวเครื่องและลักษณะภายนอก

ตัวเครื่องของ HTC Butterfly ให้อารมณ์ที่แตกต่างกับ One X และ One X+ พอสมควร บอดี้ของ Butterfly ยังคงเป็นโพลีคาร์บอเนตเหมือนเดิม แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปคือตัวบอดี้เป็นแบบผิวมันแทนผิวด้านครับ (ระวัง!! มันเป็นรอยง่ายนะครับ)

ด้านหน้าของตัวเครื่องไล่จากบนลงล่างจะประกอบไปด้วย กล้องหน้า 2.1 ล้านพิกเซล ลำโพงสนทนาที่ซ่อน Notification LED ไว้ 1 ดวง เซนเซอร์รับแสง หน้าจอ SuperLCD 3 ขนาด 5 นิ้ว ความละเอียด 1920*1080 พิกเซล และปุ่มคำสั่ง 3 ปุ่มเช่นเดิม ทั้งหมดถูกครอบทับด้วยกระจก Gorilla Glass 2 (ถ้าแตกขึ้นมา... ไม่ต้องนึกถึงค่าซ่อมนะครับ อ่วมแน่ๆ)

ด้านหลังของตัวเครื่องไล่จากบนลงล่างก็จะประกอบไปด้วย กล้องหลัก 8 ล้านพิกเซล พร้อม LED Flash และข้างๆ ก็มี Notification LED ดวงที่ 2 ซ่อนอยู่ ด้านล่างก็จะมีลำโพงหลักที่เจาะรูเหมือนกับ One X/One X+ เปี๊ยบ

ด้านบนจะประกอบไปด้วย ไมโครโฟนตัวที่ 2 แจ็คหูฟังมาตรฐาน ปุ่ม Power/Wake และก็สล็อตสำหรับใส่ MicroSD Card รวมถึงถาด MicroSIM ที่ต้องเอาเข็มจิ้ม และงัด! ขึ้นมาอีกทีครับ (คนที่ต้องเปลี่ยนซิมบ่อยๆ นี่ลำบากพอสมควร) ทั้งหมดถูกปิดฝาเอาไว้อย่างแน่นหนา

ด้านขวามีปุ่มปรับระดับเสียงอยู่ ส่วนด้านซ้ายไม่มีอะไร ทั้งสองฝั่งเล่นสีด้วยแผ่นอลูมิเนียมเจาะรูตามสีเครื่องครับ คือสีดำกับสีแดงเล่นสีแดงเงิน ส่วนสีขาวเล่นสีเงิน

ด้านล่างมีไมโครโฟนหลัก และพอร์ต Micro USB ที่มีฝาปิดอย่างแน่นหนาเช่นกัน

หน้าจอ

ทุกครั้งเวลาที่เอชทีซีเปิดตัวมือถือตัวท็อปในแต่ละรุ่น มักจะมีเรื่องของจอมาให้เราได้ตื่นเต้นตลอดเวลา ครั้งนี้ก็เช่นกันที่เอชทีซีตัดสินใจยัดจอ 5 นิ้ว ความละเอียดในระดับ Full HD มาให้ชาวโลกได้ตื่นเต้นกันพอสมควร ความละเอียดต่อตารางนิ้วของ HTC Butterfly จะอยู่ที่ 440 พิกเซลต่อตารางนิ้ว ซึ่งถือได้ว่าละเอียดที่สุดในขณะนี้ (ถ้าไม่นับ HTC M7 ที่หน้าจอเล็กลงมาเลยกดความละเอียดได้สูงถึง 468 พิกเซลต่อตารางนิ้ว) สเกลของจออยู่ที่ 16:9 ดูหนังได้เนียนตาพอสมควร ด้วยความละเอียดของจอในระดับ Full HD แน่นอน App YouTube จึงรันโหมด 1080p ให้ตลอดเวลาครับ

ส่วนความละเอียดถามว่าแน่จริงขนาดไหน ลองอ่านข่าว หมดยุค Retina Display? เทียบกันชัดๆ กับจอ Full HD 1080p บน HTC J Butterfly ของคุณ super_lw ได้ครับ

ซอฟต์แวร์

ซอฟต์แวร์ของ HTC Butterfly คงไม่ต่างจาก One X และ One X+ มาก เพราะเป็น Android 4.1.1/Sense 4+ เหมือนกัน ดูเผินๆ เหมือนจะไม่มีอะไร แต่ที่จริง HTC Butterfly มีการแก้ไขข้อผิดพลาดของรอมจากตัว One X และ One X+ อยู่พอสมควร เพราะอย่างแรกเลยคือรอม 4.1 ของ One X และตัว One X+ ไม่สามารถใช้ Google Now ได้อย่างเต็มที่ (ถ้าจำได้ รีวิว One X+ ผมบ่นไว้ว่า Google Now ไม่ยอมพูด) มารู้ทีหลังว่ารอมโซนเอเชีย เอชทีซีไม่ได้ยัดตัวภาษาในโซน en-US มาให้ ดังนั้นใน Butterfly จึงใส่ภาษาโซนสหรัฐอเมริกามาให้ด้วยเพื่อให้ Talkback สามารถทำงานได้

ส่วนลูกเล่นอื่นๆ ทั้งหมด ก็ยังคงเหมือนกับฝั่ง One X+ ไม่เปลี่ยนแปลงครับ

แน่นอนว่า สามารถใช้งาน PlayStation Mobile ได้สมบูรณ์แบบด้วยครับ

เสียง

ระบบเสียงของ HTC Butterfly ยังคงใช้ Beats Audio เช่นเดิม แต่มีการปรับปรุงและแก้ไขเพิ่มเติมพอสมควรในหลายๆ เรื่อง อีกทั้งยังมี Amplifier แยกมาให้ด้วย เมื่อมองในแง่คุณภาพ ถือว่าทำการบ้านและปรับปรุงขึ้นมาจากรุ่นก่อนหน้านี้อย่างเห็นได้ชัดครับ

กล้อง

กล้องของ HTC Butterfly ยังคงใช้สเปคเดิมจาก HTC One X ครับ คือกล้องหลัก 8 ล้านพิกเซล เลนส์ f/2.0 มี BSI แต่ที่สำคัญกว่าคือกล้องหน้ามีการปรับปรุงมาอยู่ที่ 2 ล้านพิกเซล เลนส์กว้าง 88 องศา ทำให้สามารถเก็บภาพจากกล้องหน้าได้กว้างพอสมควร สิ่งที่เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัดคือการให้แสงของกล้องใน Butterfly ทำได้แย่กว่า One X และ One X+ พอสมควร ผมถ่ายภาพดินสีน้ำตาล ตัวกล้องประมวลผลออกมาออกแดงพอสมควร ก็ลองดูรูปตัวอย่างดู แล้วก็คิดกันเองนะครับ

ลองไปดูรูปขนาดเต็มเพิ่มเติมได้ที่ SkyDrive เช่นเคยครับ

การใช้งานและประสิทธิภาพ

HTC Butterfly ถือเป็นสมาร์ทโฟนที่ใช้ซีพียู Qualcomm Snapdragon S4 แบบ Quad-core ตัวแรกที่นำเข้ามาขายในประเทศไทย สิ่งที่แตกต่างจากพวกเลยก็คือประสิทธิภาพในการทำงาน เร็วขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทั้งการเข้า-ออก แอพพลิเคชั่นที่ค่อนข้างรวดเร็ว การเรนเดอร์วิดีโอต่างๆ ยังคงทำหน้าที่ของมันได้อย่างเต็มที่

ที่สำคัญคือตัวนี้สามารถใส่ Micro SD Card เพิ่มได้ จึงทำให้หายห่วงเรื่องหน่วยความจำสำรองที่หลายคนบ่นไว้กับ HTC One X แต่อย่างไรก็ตาม มันก็มาพร้อมหน่วยความจำในตัว 16 GB ซึ่งช่วยให้สามารถลงแอพพลิเคชั่นโดยใช้พื้นที่ตรงนี้ได้อย่างเต็มที่

เรื่องจุดเสียของ HTC Butterfly คงมีแค่จุดเดียวคือมันไม่รองรับ NFC และ 3G 900 MHz เพราะผมลองใส่ซิม AIS มันมองเห็นแค่ Edge และ GPRS เท่านั้นครับ

ส่วนเรื่องประสิทธิภาพ ก็คงต้องให้ดูจาก Benchmark เช่นเคยครับ

  • Quadrant Standard – 8000
  • Antutu Benchmark – 18402
  • Vellamo HTML5 – 1872
  • Vellamo Metal – 577

แบตเตอรี่

จุดนี้ถือเป็นจุดที่ด้อยที่สุดของ HTC Butterfly ก็เป็นได้ เพราะเบื้องต้น HTC Butterfly ใส่แบตฯ มาให้แค่ 2020 mAh ซึ่งหลายคนบ่นว่าใช้งานจริงจะพอหรือไม่ ก็อย่างที่หลายคนคิดครับ เล่นติดๆ กันเพียงแค่ชั่วโมงเดียว เจ้าเครื่องนี้ก็ซดแบตไปถึง 30% แล้ว... และเมื่อหลายวันก่อนผมลองเล่นแบบต่อเนื่องจาก กรุงเทพฯ ถึง อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา เพียงแค่ 3 ชม. กว่า ทำแบตจาก 95% เหลือเพียงแค่ 5% เท่านั้นครับ

สรุป

เมื่อมองกันเผินๆ Phablet ตัวแรกของเอชทีซีอย่าง HTC Butterfly คงไม่ต่างจาก One X และ One X+ มากนัก เพราะหลายๆ อย่างยังคงเหมือนๆ กันอยู่ แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปเลยคือ ความละเอียดหน้าจอในระดับ Full HD ที่ถือว่าเป็นค่ายแรกที่กล้าทำ ผลตอบแทนของมันก็คือความคมชัดของหน้าจอในแบบที่ ชัดมากๆ ชัดจนไม่เห็นความแตกต่างอะไรแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม ก็มีหลายๆ อย่างที่ยังไม่ลงตัว เพราะด้วยความละเอียดแบบก้าวกระโดดเช่นนี้ ทำให้แอพพลิเคชั่นหลายๆ ตัว แสดงผลเพี้ยนไปพอสมควร ถ้าไม่ติดอะไรมาก ตัวนี้ก็ถือว่าเป็นตัวท็อปที่น่าสนใจพอสมควรในช่วงนี้ แต่ถ้าไม่คิดอะไรมาก ก็อยากให้รออีกสักนิด เพราะอย่างน้อยๆ เราก็ยังไม่รู้ว่า HTC M7 จะเปิดตัวเป็นทางการเมื่อไหร่นั่นเองครับ

แต่ที่ผมรู้มาล่าสุดจากเว็บเพื่อนบ้านก็คือเอชทีซีประเทศไทย เอาตัวนี้มาขายแค่ 2,000 เครื่องเท่านั้นครับ ใครอยากได้ต้องตัดสินใจให้เร็วแล้วล่ะครับ

Blognone Jobs Premium