ตามที่เคยประกาศไว้ว่าผมได้รับคำเชิญมาร่วมงานเปิดตัว Galaxy S4 ที่นิวยอร์ก ตอนนี้งานแถลงข่าวเสร็จสิ้นไปแล้ว รายละเอียดต่างๆ ติดตามได้จากข่าว ซัมซุงเปิดตัว Galaxy S4 สมาร์ทโฟนตัวท็อปปี 2013, ใช้ซีพียูแปดคอร์ตัวแรกของโลก นะครับ
ตอนนี้ก็ได้เวลา hand-on หรือ "ลองจับ" เครื่องจริงที่มีให้ทดสอบหลังงาน อย่างไรก็ตามเครื่องมีจำกัดและคนเยอะมาก (เท่าที่ทราบคือเชิญแขกสามพัน) ต้องตบตีกับสื่อต่างชาติอยู่พอสมควรกว่าจะได้ทดสอบเป็นเวลาสั้นๆ ครับ นั่นแปลว่าหลายๆ คำถามที่ฝากเอาไว้ก็ยังไม่ได้คำตอบ ต้องรอทดสอบตอนเครื่องรีวิวอีกทีหนึ่ง
หมายเหตุ: ภาพทั้งหมดอยู่บน Flickr ถ้าภาพไหนเล็กไป กดเข้าไปดูภาพใหญ่กันเองได้เลยนะครับ
ใครๆ ก็ว่ามันเหมือนกับ S III ซึ่งผมก็เห็นด้วยทุกประการ เข้าใจว่างานนี้ซัมซุงจงใจให้เหมือน ถ้าดูไกลๆ นี่แยกได้ยากมาก (เดี๋ยวมีรูปเทียบ)
ตัวเครื่องใช้ดีไซน์ inspired by nature แบบเดิมเป๊ะ สิ่งที่เปลี่ยนไปคือรายละเอียด จุดที่สำคัญที่สุดคือวัสดุซึ่งยังเป็นพลาสติกมันลื่นเหมือนเดิม แต่เปลี่ยนไปจากเดิมที่เป็นพลาสติกเรียบๆ ไม่มีลวดลาย (สำหรับสีขาว) ก็เพิ่ม texture สะท้อนแสงอยู่ภายใต้ผิว (คล้ายกับ Nexus 4) แต่จับแล้วก็ยังลื่นเรียบเป็นผิวเดียวกัน ไม่ใช่แบบ S II ที่ยังพอมีความขรุขระบ้าง
texture ที่ว่านี้ต้องเล็งมุมสะท้อนกับแสงด้วยนะครับ บางมุมถ้าแสงตกกระทบไม่ดีก็มองไม่เห็น และ texture นี้ใช้กับทั้งสองสีคือขาวกับเทา เพียงแต่สีเทาจะมีลาย brushed metal แบบเดิม (S III) ด้วย มองปกติหนึ่งลาย มองสะท้อนแสงก็เห็นสองลายซ้อนกัน
ความบางของตัวเครื่องบางลงเล็กน้อย ดูด้วยสายตาแทบไม่รู้สึก ขอบด้านข้างของเครื่องเป็นโลหะ (หรือวัสดุที่ทำให้ดูเหมือนโลหะ) มีเหลี่ยมมุมมากกว่า S III จับแล้วกระชับมือกว่าเดิมเล็กน้อย
ด้านข้างของเวอร์ชันสีเทา
สีเทา ด้านหน้า+ขอบข้าง
ขอบด้านบน
ในงานมีคนเอามือถือหลากหลายยี่ห้อมาวางเปรียบเทียบ ผมก็ฉวยโอกาสยืนอยู่แถวสองถ่ายภาพมาฝากกัน
เริ่มจาก S III vs S4 พี่น้องร่วมท้องเดียวกัน แยกได้ยากมากถ้าดูไกลๆ (S4 ด้านซ้าย)
ด้านหลัง มุมนี้ไม่สะท้อนแสง เลยหน้าตาดูเหมือนกันเป๊ะ (S4 ด้านขวา)
อีกภาพ สังเกตขอบหน้าจอของ S4 (ด้านขวา) จะเล็กกว่า S III อยู่ประมาณหนึ่ง
เทียบกับ Note II แล้ว S4 ยังเล็กกว่าพอสมควร
Note II อีกภาพ อันนี้ใส่เคสของซัมซุงทั้งคู่
ภาพที่หลายคนรอดูคือ Note II vs S4 vs iPhone 5
ปิดท้ายด้วย HTC One vs S4 แบบไม่วางคู่กันเป๊ะเท่าไร
จอของ S4 ละเอียดมาก ผมพยายามมองหาเม็ดพิกเซลด้วยสายตาก็พบว่าไม่สำเร็จ อย่างไรก็ตามมีเวลาลองน้อยมากๆ ครับ ต้องขอทดสอบอีกครั้งในรีวิวแบบละเอียด ตอนนี้ลองดูภาพที่ถ่ายมาจากหน้าจอกันไปก่อน
ที่จับต้องได้ชัดเจนที่สุดคือเคส flip cover แบบใหม่ที่เจาะช่องใสให้ดูหน้าจอได้ด้วย
เวลาพับเคสเข้ากับตัวเครื่องจะแสดงข้อมูลบนหน้าจอดังภาพ (ไม่มีโอกาสลองโทรเข้า)
flip cover มุมอื่นๆ
อุปกรณ์เสริมทั้งหมด
ในงานมีโชว์การใช้จอยเกมกับ S4 แล้วเล่นออกทีวีด้วย แต่ไม่มีภาพติดมาครับอันนี้
ในงานเปิดตัว S4 ซัมซุงพูดถึงฮาร์ดแวร์น้อยมาก เน้นที่ซอฟต์แวร์อย่างเดียว แต่ตอนลองจับเครื่องจริงคนเยอะมาก เลยแทบไม่ได้ลองอะไรจริงจังมากนักนะครับ ขออภัยมา ณ ที่นี้
เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ เนื่องจากยังเป็น Android 4.2 ที่ออกมาหลายเดือนแล้ว เลยไม่มีอะไรที่น่าตื่นเต้นมากนัก ของใหม่ไปอยู่ในซอฟต์แวร์ของซัมซุงเองทั้งหมด
หน้า Settings เปลี่ยนไปใช้เป็นแบบ tab แล้ว (สงสัยยาวเกิน) แบ่งเป็น 4 tab ตามภาพ
มี Quick Toggles ของ Android 4.2 ด้วย ซึ่งซัมซุงก็จัดมาเต็มตามสไตล์ ไอคอนเพียบ
เลือกปรับไอคอนของ Quick Toggles ได้ด้วย
แอพกล้อง ทดสอบ Dual Camera ซึ่งเป็นจุดขายอีกข้อหนึ่ง ทำงานได้จริง ส่วนการใช้งานจริงจะมีประโยชน์แค่ไหนต้องรอดูกันต่อไป
Gallery หน้าตาเหมือนเดิมทุกประการ
แอพกลุ่มซัมซุงทั้งหมด จะเห็นว่าร้าน Samsung Apps เปลี่ยนไอคอนใหม่ด้วย
Story Book สมุดรวมภาพ ในเครื่องตัวอย่างให้ภาพมาแค่นี้ก็เลยได้แค่นี้ล่ะครับ
Samsung Link ตัวนี้ผมไม่แน่ใจว่าเอาไว้ทำอะไรกันแน่
S Translator ฟีเจอร์การแปลภาษา ผมลองพูดด้วยสำเนียงอังกฤษของตัวเอง แปลคำง่ายๆ เป็นภาษาสเปนได้ตรง เทสต์สองครั้งผ่านฉลุยทั้งสองรอบ
S Health ไม่ได้เล่นอะไรมาก แค่เปิดแอพขึ้นมาดูว่าหน้าตาเป็นอย่างไร ออกมาดีทีเดียว
แอพตัวที่ผมพบว่าน่าสนใจมากคือ Samsung Hub ที่รวม Hub ทุกอย่างกลายมาเป็นแอพตัวเดียว เน้นแนวคิด digital content แบบเดียวกับ Google Play เป๊ะๆ (มันคือ Google Play เวอร์ชันซัมซุงทำนั่นแล)
เข้าแอพไปหน้าแรกจะเจอไอคอนสีโมโนโทน 4 อัน เพลง วิดีโอ หนังสือ เกม
วิดีโอ
เพลง
หนังสือ
เกม
คีย์บอร์ดยัง swipe ได้เหมือนเดิม
ผมยัง "น่าจะ" มีโอกาสได้จับ S4 อีกสักรอบวันพรุ่งนี้ (ตอนค่ำๆ ตามเวลาเมืองไทย) ในช่วงสัมภาษณ์ซีอีโอของ Samsung Asia ดังนั้นถ้ามีคำถามอะไรก็ฝากไว้ได้ จะหาโอกาสทดสอบให้เท่าที่จะทำได้
ส่วนของฮาร์ดแวร์คงเป็นพัฒนาการจาก S III บนดีไซน์แบบเดิม (หลายคนแซวว่ามันคือ Galaxy S3S หรือ S3+) จุดที่แตกต่างอย่างรู้สึกได้คือวัสดุดีขึ้น เครื่องแน่นขึ้น แต่ความรู้สึกพรีเมียมยังไม่ถึงระดับเดียวกับ iPhone หรือ HTC One
ส่วนประเด็นด้านซอฟต์แวร์ระดับแอพ ซัมซุงจัดมาเต็มมากๆ อันนี้ยังไม่ได้ทดสอบจริงจังคงพูดยาก แต่ระหว่างงานแถลงข่าวผมก็มีคำถามกับซอฟต์แวร์หลายๆ ตัวว่าจะได้ใช้งานจริงๆ แค่ไหน โดยเฉพาะกลุ่ม digital content ที่อิงกับประเทศ และกลุ่มสั่งงานด้วยเสียงที่มีปัญหาเรื่องสำเนียงกับคนไทยแน่ๆ
ปิดท้ายว่าใครมีคำถามอะไรกับซีอีโอของ Samsung Asia ก็ฝากไว้ได้ครับ จะเก็บไปหาคำตอบให้เท่าที่ทำได้