โตชิบา M100-1241T เครื่องคอมพิวเตอร์เอนกประสงค์ที่เน้นการใช้งานทั่วไป ด้วยหน้าจอขนาด 14 นิ้ว น้ำหนักประมาณ 2.26 กิโลกรัม เบากว่ามาตรฐานของโน้ตบุ๊กขนาดนี้เล็กน้อย ด้วยซีพียู Intel T2250 กับชิปเซ็ต Intel GM945 โน้ตบุ๊กตัวนี้คงเหมาะกับการใช้งานทั่วไปมากกว่ากว่าที่จะใช้เล่นเกมหรือการ ในตอนนี้ตลาดบ้านเราโตชิบาน่าจะเป็นเจ้าแรกๆ ที่เลือกจะแถมวินโดวส์แท้ให้กับเครื่องทุกระดับราคาซึ่งนับเป็นเหตุผลหลักของการเลือกซื้อครั้งนี้
เครื่องที่ผมได้มา มาพร้อมกับเมาส์โตชิบาหนึ่งตัว, Thumbdrive ขนาด 2GB และกระเป๋าสองใบ เมื่อได้จับเป็นครั้งแรกจากความรู้สึกของคนที่ไม่เคยจับโน้ตบุ๊กเบากว่าสามกิโลอย่างผมคือมันเบามาก ทำให้สามารถแบกไปมาในบ้านได้อย่างไม่ลำบากเกินไปนัก
การออกแบบของโน้ตบุ๊กตัวนี้ นอกจากแนวโค้งมนซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของโตชิบาแทบทุกรุ่นแล้ว ก็นับว่ามันไม่แตกต่างจากโน้ตบุ๊กทั่วไปแต่อย่างใด ด้วยสีดำและไม่มีสีอื่นให้เลือกแต่อย่างใด แน่นอนว่าหากคุณเลือกโน้ตบุ๊กตัวนี้มาใช้งานแล้วล่ะก็ เหตุผลในการเลือกของคุณไม่น่าจะมีความเท่ห์รวมอยู่ด้วย
หน้าจอกระจกที่ผมไม่เคยใช้งาน ไม่สะท้อนอย่างน่ากลัวเท่าที่ผมคิด ความละเอียด 1280x800 นับเป็นความละเอียดมาตรฐานที่ไม่แตกต่างจากเครื่องอื่นๆ แสงที่ได้จากหน้าจอค่อนข้างสม่ำเสมอกันดีเมื่อใช้งานปรกติ จากการทดสอบในห้องมืดมีแสงรั่วจากด้านล่างค่อนข้างมากซึ่งในการใช้งานทั่วไปก็ยอมรับได้
เรื่องที่น่าสนใจคือฝาพับของหน้าจอที่โตชิบามีชื่อเสียงมาตั้งแต่สมัยผมยังไม่เคยใช้โน้ตบุ๊ก จนวันนี้มาซื้อรุ่นประหยัดก็ยังพบว่าไม่เสียชื่อที่สร้างไว้แต่อย่างใด จอไม่มีการโยกคลอนให้เห็นในการใช้งานปรกติ มุมมองภาพของจอภาพกว้างพอสมควร จากที่ลองกะๆ ดูด้วยตัวเองคือมุมมองซ้ายขวาอย่างละ 45 องศานั้นแทบมองไม่เห็นความแตกต่างจากการมองปรกติ ส่วนมุมมองที่กว้างกว่านั้นยังคงใช้กับงานเอกสารทั่วไปได้ แต่หากเป็นการมองภาพถ่ายหรืองานที่ต้องการความแม่นของสีอื่นๆ คงเริ่มไม่เหมาะ การปรับระดับความสว่างทำได้แปดระดับผ่านการกดปุ่มฟังก์ชั่น ความรู้สึกส่วนตัวคือการปรับมืดที่สุดไม่มืดเท่าโน้ตบุ๊กตัวอื่นๆ ที่ผมใช้งานมา แม้ปรกติจะไม่ค่อยได้ใช้งานที่ความสว่างระดับนั้น แต่เวลาที่ใช้งานบนรถผมมักปรับจอให้มืดที่สุดเพื่อประหยัดพลังงานเสมอๆ
คีย์บอร์ดนับเป็นจุดที่ผู้ที่จะเลือกโน้ตบุ๊กรุ่นนี้ควรระวัง เนื่องจากคีย์บอร์ดค่อนข้างต่างจากยี่ห้ออื่นๆ พอสมควร โดยเฉพาะการที่ปุ่ม Grave Accent มาวางไว้ข้างๆ ALT นั้นนับว่าเป็นข้อเสียของผู้ใช้ชาวไทยค่อนข้างชัดเจน เนื่องจากหากคุณเปลี่ยนภาษาด้วยปุ่ม Grave Accent คุณจะหาปุ่มเปลี่ยนภาษาไม่เจอ แต่หากคุณใช้ปุ่ม ALT+SHIFT คุณจะกดพลาดได้ตัว % มาแทนการเปลี่ยนภาษาเสมอๆ ที่เป็นกันหลายยี่ห้อคือปุ่ม Windows นั้นถูกย้ายขึ้นไปอยู่มุมบนขวา ตรงนี้อาจสร้างความสับสนในการใช้งานครั้งแรกๆ ได้ จุดที่ผมไม่ให้อภัยจริงๆ คือปุ่ม TAB ที่ค่อนข้างเล็กมาก (สงสัยคนออกแบบจะไม่ได้เขียน Python) ผมไม่เคยใช้โน้ตบุ๊กโตชิบามาก่อน แต่จากการใช้งานมาสองวันพบว่าสัมผัสคีย์บอร์ดค่อนข้างแปลก คือคือเหมือนจะมีจังหวะกดสองจังหวะแบบชัตเตอร์กล้องถ่ายรูป ทำให้การใช้งานช่วงแรกๆ ออกจะแปลกๆ จะกดพลาดอยู่บ่อยๆ แต่เมื่อใช้งานไปพบว่าสัมพัสแบบนี้ดูน่าจะรับมือคนพิมพ์แรงๆ ได้ดี มีการโฆษณาว่าคีย์บอร์ดนี้ทนการทำน้ำหกใส่ได้ช่วงเวลาหนึ่ง ทำให้มีเวลาเซฟงานก่อนที่เครื่องจะพัง -_-" ตรงนี้อาจจะเป็นผลทำให้คีย์บอร์ดมีสัมผัสแปลกๆ ที่ผมว่า ส่วนจะทนน้ำได้ดีแค่ไหนนั้นผมไม่กล้าลอง
อาจจะเป็นต้องการลดขนาดตัวเครื่อง touchpad ที่มากับโน้ตบุ๊กตัวนี้จึงค่อนข้างเล็ก เนื่องจากผมใช้มันเฉพาะเวลาฉุกเฉินจึงไม่ค่อยซีเรียสเท่าใหร่ แถมยังถือเป็นข้อดีเพราะไม่ค่อยเผลอไปโดนเวลาลืมปิด
ไม่รู้ว่าผมคิดไปเองรึเปล่า แต่ผมรู้สึกว่าพอร์ตต่างๆ ของโน้ตบุ๊กตัวนี้ออกไปทางแน่นกว่าปรกติแทบทุกพอร์ต นับแต่ USB ไปจนถึงพอร์ตหูฟัง ตรงนี้อาจจะมองในแง่ดีว่าอุปกรณ์ต่างๆ จะหลุดยาก แต่อีกทางหนึ่งก็ทำให้มันถอดเปลี่ยนอุปกรณ์ยากพอดู
ปุ่มเปิดปิด Wi-Fi นั้นเป็นแบบเลื่อนที่ออกจะเล็กและกลมกลืนกับตัวเครื่องไปซักหน่อย เล่นเอาผมหาไม่เจอตอนใช้งานครั้งแรก แต่โดยทั่วไปก็ใช้งานสะดวกดี การเชื่อมต่อมีเสถียรภาพ แต่เรื่องที่ผมไม่ชอบเลยคือ Bluetooth ที่นอกจากจะไม่สามารถใช้งานกับไดร์เวอร์มาตรฐานของวินโดวส์ได้แล้ว ยังไม่มีปุ่มเปิดปิดกับไฟแสดงสถานะเหมือน Wi-Fi พอร์ต USB สี่พอร์ตรอบตัวนับเป็นเรื่องดีกว่าการเอาไปกระจุกไว้ที่เดียวในสภาพการใช้งานจริง ที่เสียดายว่าไม่มีคือพอร์ต USB ด้านหน้าแบบ Acer ที่ผมชอบเอาไว้เสียบ Thumbdrive เสมอ
โน้ตบุ๊กรุ่นนี้มาพร้อมกับลำโพง harman/kardon ในตัว จากการทดลองพบว่าเสียงกลางและแหลมนั้นดีกว่าโน้ตบุีกในระดับราคาเดียวกันโดยทั่วไปจริง แต่จะหวังให้ฟังเพลงเพราะๆ คงไม่ได้เพราะเสียงทุ้มนั้นหายไปหมด ที่น่าทึ่งที่สุดคือช่องหูฟังด้านหน้า ที่เอามาทดสอบกับหูฟังของผมแล้วพบว่ากำลังขับสูงกว่าโน้ตบุ๊กทั่วไปอย่างน่าทึ่ง น่าเสียดายที่ตัวที่ผมใช้งานมี Ground Noise ที่หูซ้ายค่อนข้างมาก (เครมประกันได้ม่ะ) ทำให้ลดความสมบูรณ์ไปค่อนข้างเยอะ ให้ดีตอนไปรับเครื่องหาแผ่นซีดีดีๆ กับหูฟังดีๆ อีกคู่ไปลองด้วยจะดีมาก
เนื่องจากง่วงแล้ว ผมหักดิบง่ายๆ ด้วยการลง Windows Experience Index ให้ดูกันดื้อๆ โดยทั่วไปแล้วโน้ตบุ๊กในระดับนี้ก็มักไม่ได้ถูกใช้งานที่เน้นความแรงเท่าใหร่ โดยเฉพาะเกมที่ไม่ค่อยเหมาะ ดังนั้นประสิทธิภาพระดับนี้ก็น่าจะอยู่ในระดับพอสมควรกับระดับกลุ่มเป้าหมายของมันเอง
จุดที่น่าสงสัยคือผมมีปัญหากับดีเลย์ของเมาส์และคีย์บอร์ดค่อนข้างมาก ไม่แน่ใจว่าเป็นที่วิสต้าเองหรือตัวเครื่อง และสุดที่น่ารำคาญที่สุดคือ utility ที่ทางโตชิบาแถมมาให้เพื่อใช้งานกับปุ่มฟังก์ชั่นนั้นทำงานได้ช้ามาก
กลุ่มเป้าหมายของโน้ตบุ๊กตัวนี้น่าจะเป็นกลุ่มงานสำนักงาน เอกสาร และการใช้งานในบ้านระดับพื้นฐานเช่นการฟังเพลง ท่องอินเทอร์เน็ต ดูหนังมากกว่าจะเป็นการใช้งานอื่นๆ ที่ต้องการพลังประมวลผลสูงๆ โดยทั่วไปแล้วมันตอบสนองความต้องการได้ค่อนข้างดี โดยเฉพาะระบบเสียงที่เหนือกว่าโน้ตบุ๊กในระดับเดียวกันอย่างชัดเจน แต่การวางคีย์บอร์ดที่ไม่คุ้นมือคนทั่วๆ ไปน่าจะเป็นประเด็นที่ต้องระวังก่อนการตัดสินใจซื้อให้ดี อาจจะลองไปพิมพ์เล่นๆ ที่ร้านก่อนซักสิบนาทีว่ายอมรับได้หรือไม่ เพื่อการใช้งานในระยะยาวจะไม่เกิดปัญหา อีกจุดที่สำคัญที่มองข้ามไม่ได้คือโน้ตบุ๊กตัวนี้น่าจะเป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการใช้งานวิสต้าในราคาไม่แพงเกินไป ด้วยส่วนต่างจากยี่ห้ออื่นที่ไม่มากนัก สิ่งที่คุณได้คือวิสต้าแบบมีไลเซนส์ที่ปัญหากวนใจจากไมโครซอฟท์จะน้อยกว่า