เมื่อวันที่ 14 มีนาคมที่ผ่านมา Samsung ได้เปิดตัว Galaxy S4 ทั่วโลกที่นครนิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา (คุณ mk ได้ไปร่วมในงานครั้งนั้นด้วย) ผ่านมาเป็นเวลาเดือนเศษ วันนี้ (3 พฤษภาคม) ก็ได้เวลาเปิดตัวในเมืองไทยอย่างเป็นทางการ โดยงานแถลงข่าวจัดขึ้นที่โรงแรม W Hotel Bangkok ตรงถนนสาทร โดยใช้ชื่องานอย่างเป็นทางการว่า "Samsung Unpacked 2013 Bangkok" ซึ่งผมมีโอกาสได้ไปเก็บบรรยากาศและรายละเอียดต่างๆ ที่เกี่ยวข้องครับ
ต้องถือว่าจำนวนผู้มาร่วมงานเปิดตัวในครั้งนี้หนาแน่นอย่างมาก มีทั้งผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ของบริษัท ไทยซัมซุงอิเลคโทรนิคส์ จำกัด เอง ตัวแทนจำหน่าย ตัวแทนจากผู้ให้บริการโทรศัพท์ทั้งสามค่าย และสื่อมวลชน (เดินแทบจะไหล่ชนกัน)
Samsung เปิดงานด้วยวีดีโอโฆษณาที่อาจจะเคยผ่านตาหลายท่าน (วีดีโอดังกล่าว) จากนั้นพิธีกรเรียนเชิญ Mr.Yong Sung Jeon ซึ่งเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัท ไทยซัมซุงอิเลคโทรนิคส์ ขึ้นมากล่าวเปิด โดยเน้นย้ำว่า Galaxy S4 จัดว่าเป็นโทรศัพท์มือถือที่ทันสมัยที่สุดในเวลานี้ และเชื่อว่าจะทำให้ผู้ใช้งานสะดวกขึ้นมากกว่าเดิม ภายใต้แนวคิดการออกแบบ "Life Companion"
จากนั้นเป็นการเปิดตัวและสาธิตอย่างเป็นทางการโดย คุณวิชัย พรพระตั้ง รองประธานฝ่ายโทรคมนาคม ไทยซัมซุงอิเลคโทรนิคส์ โดยกล่าวว่า แนวทางการออกแบบของ Galaxy S4 นั้น เน้นย้ำถึงบทบาทของโทรศัพท์มือถือในระยะหลังที่มีบทบาทกับชีวิตมากยิ่งขึ้น ตลอดจนถึงการออกแบบที่ดีขึ้นด้วย
จากนั้นมีการสาธิตถึงคุณสมบัติต่างๆ เช่น Dual Camera, Smart Scroll, Smart Pause, Air View, S Translator หรือ S Health แต่สิ่งที่ถูกหยิบยกขึ้นมากล่าวเป็นพิเศษในงานมีหกอย่าง คือ Air Gesture ที่สามารถยกมือปัดรับโทรศัพท์ได้แม้ว่าจะทำอย่างอื่น (เช่น กำลังขับรถอยู่)
Group Play ที่กำหนดให้เครื่องหนึ่งเป็นเครื่องหลักในการจัดการ และให้ Galaxy S4 เครื่องอื่นๆ ทำงานตามที่กำหนดได้สูงสุด 8 เครื่อง สำหรับตัวอย่างสาธิตคือการเล่นเพลงจากเครื่องหลักไปยังเครื่องอื่นๆ หรือการแชร์เอกสารและแก้ไขไปพร้อมๆ กัน
Drama Shot ที่ถ่ายได้หลายๆ ภาพ และเลือกภาพที่ดีที่สุดมาได้ ตัวอย่างเช่นภาพที่เคลื่อนไหวด้วยความรวดเร็ว
Sound & Shot คือการถ่ายภาพและสามารถอัดเสียงไปพร้อมกับภาพได้ด้วย
Animated Photo ที่กำหนดให้เบื้องหลังเคลื่อนไหวได้ แต่ตัวคนที่ถูกโฟกัสจะเป็นภาพนิ่ง และอีกอันคือ Eraser Shot ที่จะลบภาพเคลื่อนไหวด้านหลัง (เช่น รถที่แล่นผ่านด้านหลัง) ได้
จากนั้นจึงมีการฉายหนังโฆษณาของ Galaxy S4 ที่จะออกอากาศทางโทรทัศน์ในไทย (ผมถ่ายมาอาจจะสั่นไหวบ้าง ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้)
จากนั้นก็เป็นการถ่ายภาพรวมระหว่างผู้บริหารและดารา (ชมพู่ อารยา) บนเวที
สำหรับช่วงถาม-ตอบ กับผู้บริหาร คำถามที่พอน่าสนใจมีดังนี้ครับ
รุ่นที่เอาเข้ามามี 4G หรือเปล่า ถ้าไม่มี มีแนวโน้มจะเอาเข้ามาหรือเปล่า เพราะผู้ให้บริการรายหนึ่งจะเปิดให้บริการแล้ว
ผู้บริหาร: ตอนนี้เราเอาเข้ามาเฉพาะรุ่นที่มีเพียง 3G เท่านั้นก่อน รุ่นที่มี 4G ยังไม่มีแผนนำเข้ามา
นำเข้ามาเพียงพอที่จะขายหรือไม่ จะเกิดของขาดตลาดหรือเปล่า
ผู้บริหาร: เราบอกไม่ได้สำหรับจำนวนเพราะเรานำเข้ามาทุกวัน เยอะมากจนเราไม่รู้ว่าจริงๆ มีกี่เครื่อง แต่ที่แน่นอนคือพร้อมจำหน่ายแล้วทั่วประเทศ ส่วนประเด็นเรื่องของขาดตลาดนั้นเกิดขึ้นในทุกประเทศ และพยายามที่จะจัดการให้สมดุล
มีการจัดการกับกระแสตอบรับในไทยอย่างไรก่อนงานเปิดตัววันนี้
ผู้บริหาร: เราสังเกตเสียงตอบรับจากโลกออนไลน์ตลอด มีการนำนักข่าวจากสื่อมวลชนบางสำนักไปงานเปิดตัวที่สหรัฐอเมริกา วันนี้ถือเป็นการเปิดตัวต่อสาธารณะอย่างเป็นทางการ ซึ่งก็ทำพร้อมๆ กับทุกประเทศทั่วโลก จริงๆ ในสัปดาห์นี้เราเปิดพร้อมกันหมดทั่วโลก แต่ว่ากำหนดวันขายในแต่ละสัปดาห์ต่างกันออกไป ของเราก็เป็นวันศุกร์
คิดอย่างไรบ้างกับตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่ของไทย โดยเฉพาะ Smartphone?
ผู้บริหาร: ต้องยอมรับว่า smartphone ในเมืองไทยเป็นของแพง ราคานี้มีเพียงคนบางกลุ่มที่เข้าถึงได้เท่านั้น ดังนั้นเราอยากจะให้มันเป็นเหมือนสิ่งที่คู่กับชีวิต (companion) จริงๆ
รอบการออกมือถือกลุ่ม flagship ที่ออกกันทุกๆ ปี คิดว่าเร็วไปหรือไม่ คนที่ใช้มือถือราคาสูง เขาเปลี่ยนมือถือกันเร็วแค่ไหน
ผู้บริหาร: เราเชื่อว่าการเปิดตัวทุกปี มันทำให้เราสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ที่ก้าวกระโดดได้ ตัวอย่างเช่น S Health, S Band เป็นต้น ส่วนรอบการเปลี่ยนมือถือ ตอนแรกๆ มันประมาณปีเศษๆ แต่มาเอาตอนนี้มันเหลือเพียงปีเดียว และการเปลี่ยนเพราะผู้บริโภคเชื่อว่าทำให้ชีวิตของเขาดีขึ้น เขาถึงเปลี่ยน ถ้ามันเหมือนเดิม คนก็คงไม่อยากจะเปลี่ยน สำหรับประเทศไทยของเรา การเปิดให้บริการ 3G บนคลื่น 2100 MHz อย่างเป็นทางการ มีผลอย่างมากในปีนี้
บริการหลังการขายจะเป็นอย่างไรบ้าง ดีขึ้นหรือเปล่า
ผู้บริหาร: เราพยายามที่จะทำให้ดีขึ้น ตัวอย่างที่ชัดเจนคือการเปิดศูนย์บริการใหม่ๆ เพิ่มขึ้น
การตลาดเป็นอย่างไรบ้าง การดึงดาราหรือคนที่มีชื่อเสียงมาทำการตลาดเป็นอย่างไรบ้าง
ผู้บริหาร: สำหรับเรื่องของดาราและคนมีชื่อเสียง อย่าไปเรียกว่าเป็นการเอามาทำการตลาดเลยครับ คือกลุ่มคนเหล่านี้เขาสนุกกับการเล่นสังคมออนไลน์ และเราเชื่อว่าสิ่งที่เรามีทำให้เขาสนุกได้มากกว่าเดิม เติมเต็มมากกว่าเดิม เพียงแต่เวลาพวกเขาพูดออกมามันมีผลกระทบมากกว่า สำหรับการตลาดจริงๆ ปีนี้เราก็จะทำงานเชิงรุกมากขึ้น และเน้นให้ครอบคลุมทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัดมากขึ้น เราเชื่อว่าเราเป็นอันดับหนึ่งในเมืองไทย และเราต้องการกระตุ้นให้คนใช้โทรศัพท์ไปไกลกว่าที่จะซื้อมาเพื่อนั่งคุยกันผ่านหน้าจออย่างเดียว
ทั้งนี้ในงานได้มีการนำเอา Galaxy Note 8.0 มาแสดงด้วย
ต้องขอบพระคุณ คุณ mk และ ไทยซัมซุงอิเลคโทรนิคส์ สำหรับโอกาสในครั้งนี้ อนึ่ง ภาพทั้งหมดจากในงานสามารถชมได้ที่นี่ ทั้งนี้ สามารถอ่านรีวิวลองจับเครื่องของคุณ mk ได้ที่นี่ครับ