ด้วยกระแสความนิยมของอุปกรณ์พกพาที่ยังร้อนแรงต่อเนื่องมาหลายปี และรายการทีวียังคงเป็นเบอร์หนึ่งในการรับชมข่าวสาร ความบันเทิงของคนในยุคนี้ TrueVisions ผู้ให้บริการโทรทัศน์แบบบอกรับเป็นสมาชิกรายใหญ่ของไทยจึงถือโอกาสเปิดตัว TrueVisions Anywhere แอพสำหรับดูรายการทีวีของ TrueVisions บนอุปกรณ์พกพาอย่างเป็นทางการ โดยเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการไปเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา
หลายคนคงคุ้นชื่อของ TrueVisions Anywhere (หรือชื่อเดิม TrueVisions Anywhere player) มาตั้งแต่ช่วงปี 2011 แต่เนื่องจากมีเงื่อนไขบางอย่างบริการจึงยังไม่เป็นที่รู้จักในหมู่มาก แต่นับจากนี้เป็นต้นไป ลูกค้าเดิมของ TrueVisions จะสามารถใช้บริการนี้ได้โดยไม่มีข้อแม้อื่นๆ อีกแล้ว
สำหรับช่องรายการที่ดูได้ผ่าน TrueVisions Anywhere จะมีได้สูงสุด 120 ช่องแบ่งเป็นช่องฟรี 55 ช่อง และช่องตามแพคเกจหลักที่สมัครไว้ (แพคเกจสูงสุด Platinum HD ดูได้อีก 65 ช่อง) โดยตัวแอพมีฟีเจอร์เด่นๆ ดังนี้
ตัวแอพสามารถดาวน์โหลดได้ผ่านทาง App Store, Play Store หรือใช้งานผ่านเบราว์เซอร์ได้จากเว็บของ TrueVision เองครับ
ให้ดูฟีเจอร์เป็นข้อๆ อาจไม่เห็นภาพนัก ว่าแล้วเราก็ไปลองดูตัวแอพจริงๆ ว่าหน้าตาเป็นอย่างไร ทำงานแบบไหนกัน
อนึ่งตัวแอพที่ทดสอบยังเป็นรุ่น beta อาจมีบางฟีเจอร์ที่ต่างจากรุ่นจริงครับ
แว่บแรกที่เปิดเข้ามาในแอพ สิ่งแรกที่จะพบก็คือหน้าจอรายการที่เปิดไว้ล่าสุด ซึ่งทีมพัฒนาบอกว่าตั้งใจทำแบบนี้เพื่อให้ได้ประสบการณ์ใช้งานเหมือนดูจากทีวีให้มากที่สุดครับ โดยสิ่งที่เพิ่มเข้ามาคือสัญลักษณ์ที่มุมด้านล่างทั้งสอง มุมล่างซ้ายเป็นโลโก้ของ TrueVisions Anywhere ที่ไว้ระบุว่าเป็นช่องในแพคเกจของ TrueVisions ส่วนมุมขวาล่างไว้บอกความละเอียดของสัญญาณในขณะนั้นครับ
ความละเอียดจะมีทั้งหมด 5 ระดับไล่ตั้งแต่ เสียงอย่างเดียว > ต่ำ > ปานกลาง > สูง > HD (หรือต้นฉบับสำหรับบางช่องที่ยังไม่ HD) ซึ่งที่ความละเอียดสูงสุดใช้อินเทอร์เน็ตประมาณ 4Mbps ก็สามารถดูได้แบบลื่นไหลแล้ว ส่วนการใช้งานในความละเอียดทั่วไปอยู่ที่ราว 2Mbps ครับ
วิธีการเปลี่ยนช่องในแอพนอกจากในเมนูแล้ว สามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยการปาดนิ้วจากขอบจอ (ได้ทั้งซ้ายและขวา) ซึ่งจะบอกรายละเอียดคร่าวๆ ว่าช่องนั้นคือช่องอะไร แสดงรายการอะไรอยู่
วิธีการเรียกเมนูในแอพทำได้โดยการแตะไปที่หน้าจอหนึ่งครั้ง จะปรากฏเป็นเมนูที่ด้านบน เริ่มกันที่เมนูแรกสุดทางซ้ายมือ มีไว้เพื่อแสดงช่องรายการ ซึ่งจะเรียงเลขแบบเดียวกับในแพคเกจหลักของ TrueVisions และสามารถปรับไปดูช่องเคเบิล (เช่น Gang Cartoon, Work Point TV) ได้ด้วยปุ่มเล็กๆ รูปทีวี ด้านขวามือครับ
สำหรับแถบสีชมพูๆ ที่ไม่ค่อยเท่ากันนั้น แท้จริงแล้วเอาไว้บอกว่ารายการที่กำลังฉายอยู่นั้นดำเนินไปได้เท่าไหร่แล้วครับ (ตอนแรกก็ไม่ได้สังเกตเหมือนกันแฮะ)
มาต่อกันที่เมนูถัดมา มีไว้แสดงผลผังรายการโดยเฉพาะ (ใช้ได้กับช่องของ TrueVisions เท่านั้น) ซึ่งนอกจากจะดูล่วงหน้าได้สูงสุด 7 วันแล้ว ยังสามารถกดที่รายการเพื่อดูย้อนหลังจากตรงหน้านี้ได้อีกด้วย
เมื่อกดไปที่รายการจะขึ้นเป็นภาพตัวอย่างซึ่งสามารถเลื่อนซ้าย-ขวา เพื่อดูผัง หรือกดเล่นเพื่อดูย้อนหลังได้ และถ้าหากกดที่ตัว i จะเป็นการเลือกดูผังเฉพาะรายการนั้นๆ ซึ่งสามารถดูย้อนหลังได้ 2 วันครับ (แน่นอนว่ากดเล่นได้เช่นกัน)
มาถึงเมนูที่สามสำหรับดูเนื้อหาแบบ On-demand เท่าที่สังเกตตอนนี้ส่วนมากจะเป็นแมตช์ฟุตบอล ไม่ก็ภาพยนตร์เกาหลีซะเยอะครับ พอกดเข้าไปก็จะแสดงรายละเอียดของเรื่องที่ว่าทั้งภาษาไทย และภาษาอังกฤษเลยทีเดียว
พอกดรับชมแล้วรอโหลดเพียงชั่วครู่ ตัวภาพยนตร์ก็จะเด้งขึ้นมาตรงกลางหน้าจอในความละเอียดของต้นฉบับ ซึ่งสามารถขยายเพื่อดูเต็มจอได้ครับ
เมนูสุดท้ายมีไว้สำหรับตั้งค่าแอพ โดยมีอยู่สามส่วนหลักๆ คือเลือกเสียงไทย/อังกฤษ เลือกขนาดของรายการที่จะแสดงบนหน้าจอในตอนแรก และการแสดงช่องรายการครับ
หลังจากลองเล่นแอพกันไปได้พอสมควรก็ปิดท้ายกันด้วยฟีเจอร์เด่นที่ทางทีมงานภูมิใจอย่าง Time shift ที่สามารถกรอรายการสดได้ย้อนหลังสองชั่วโมง เปิดใช้ด้วยการแตะที่หน้าจอหนึ่งครั้ง แล้วกดปุ่มขวาล่างสุด จะเห็นเป็นแถบเลื่อนดังนี้ครับ
พอเลื่อนย้อนหลังไป รายการก็จะย้อนกลับไปในเวลาที่เลือกไว้ ถ้าหากจะกลับมาดูสดต่อก็กดปุ่ม LIVE เท่านั้นเอง
ในงานเปิดตัว TrueVisions Anywhere ผู้บริหารย้ำชัดว่าแอพนี้จะเป็นกลยุทธ์ในการตอกย้ำความเป็นผู้นำในบริการโทรทัศน์แบบบอกรับเป็นสมาชิก และมีแผนจะปรับปรุงโครงข่ายให้รองรับผู้ใช้ได้มากขึ้นจากเดิมที่ 80,000 รายพร้อมกัน โดยคาดว่าในปีแรกจะมีผู้ใช้ประมาณ 350,000 ราย รวมถึงขยายบริการไปยังอุปกรณ์อื่นที่ไม่ใช่สมาร์ทดีไวซ์อีกด้วย
บริการ TrueVisions Anywhere นั้นจะมีค่าบริการเพิ่มเติมอยู่ที่เดือนละ 299 บาท แต่สำหรับลูกค้าเดิมที่ลงทะเบียนภายในวันที่ 31 พฤษภาคมนี้ ผ่านทางแอพบน App Store, Play Store หรือผ่านเว็บไซต์ True Visions จะได้สิทธิ์ใช้งานบริการฟรีเป็นเวลา 1 ปีครับ