ช่วงนี้ผมกำลังยุ่งๆ อาจจะไม่ค่อยได้เขียนข่าวเท่าไร เอารีวิวที่เขียนไว้ซักพักแล้ว (แต่เพิ่งจะได้อัพโหลดรูป) ไปอ่านเล่นๆ ก่อนละกันครับ
ปี 2006 นักพัฒนาหลักบางส่วนของ Azureus โปรแกรม BitTorrent ชื่อดังได้ร่วมกันก่อตั้ง Azureus, Inc. โดยมีเป้าหมายเพื่อแย่งเค้กวิดีโอออนไลน์ชิ้นโต สิ่งที่ Azureus, Inc. ทำอย่างเป็นรูปธรรม คือ branch ใหม่ของ Azureus ใน CVS ที่ SourceForge โดยใช้ชื่อว่า "azureus3" (เวอร์ชันล่าสุดของ Azureus คือ 2.5.0.2)
ชุมชนผู้ใช้ผู้พัฒนา Azureus ต่างสงสัยว่าบริษัทกำลังทำอะไรกันแน่ จะเปลี่ยน Azureus ไปเป็นซอฟต์แวร์ปิดหรือเปล่า จะมีอะไรหมกเม็ดกับบรรดาค่ายหนังหรือไม่ จนมาปลายปี 2006 บริษัท Azureus, Inc. ได้เปิดเผยรายละเอียดของ "Zudeo" ชื่อที่แท้จริงของ Azureus3
Zudeo คือบริการครบวงจรสำหรับการแลกเปลี่ยนวิดีโอความละเอียดสูงผ่านอินเทอร์เน็ต ตั้งแต่ตัวโปรแกรมไคลเอนต์ (Azureus3 ซึ่งจริงๆ แล้วคือ Azureus 2.5 กับ UI ใหม่แบบสวยๆ ที่มาครอบไว้อีกชั้น), แคตตาล็อกวิดีโอบนเว็บ, ระบบซื้อขายวิดีโอที่มี DRM (ใช้ DRM ของ Windows Media) และพื้นที่ฝากไฟล์สำหรับวิดีโอที่ผู้ใช้อัพโหลดขึ้นมา พูดง่ายๆ มันคือบริการ BitTorrent ครบวงจรที่ถูกกฎหมายนั่นเอง (ทุกไฟล์สามารถดาวน์โหลดได้จาก Azureus เวอร์ชันเก่าๆ เหมือนปกติ และซอร์สโค้ด Zudeo ก็อยู่บน SourceForge)
Zudeo เป็นหนึ่งในผู้เล่นจำนวนมากที่เข้ามาช่วงชิงตลาดขนาดมหึมาอันนี้ คู่แข่งรายอื่นๆ ก็มีทั้ง YouTube, Joost, BitTorrent Inc. รวมไปถึง iTunes Stores
ต้นเดือนเมษายน 2007 บริษัท Azureus, Inc. ได้ประกาศเปลี่ยนชื่อจาก Zudeo เป็น "Vuze" โดยให้เหตุผลว่าชื่อ Zudeo ใกล้เคียงกับคู่แข่งรายอื่นในตลาดเดียวกัน
และนี่คือรีวิว Vuze เวอร์ชัน 3.0 Beta
เนื่องจาก Vuze คือคอร์ Azureus กับหน้าตาใหม่ซึ่งอิงกับเว็บ ดังนั้นแพลตฟอร์มใดๆ ที่ Azureus ทำงานได้ Vuze ก็ตามไปด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตามปัจจุบันระบบปฏิบัติการที่ Vuze สนับสนุนคือวินโดวส์และแมค (ลินุกซ์กำลังทำอยู่) สิ่งสำคัญอีกจุดคือระบบ DRM สำหรับวิดีโอที่วางขายใน Vuze นั้นเป็น Windows Media ซึ่งผมไม่แน่ใจว่าบนแมคจะทำอย่างไร (รีวิวนี้ทดสอบบน Windows XP)
การติดตั้งไม่มีอะไรพิสดาร ดาวน์โหลด Vuze จากเว็บไซต์ แล้วติดตั้งเหมือนโปรแกรมปกติ
แบรนดิ้งแบบเต็มๆ ที่ Azureus, Inc. ใช้คือ "Vuze by Azureus" เราจะยังเห็นคำว่า Azureus ปรากฎแทบทุกหนทุกแห่งในโปรแกรม แม้แต่ title bar (เวอร์ชันจริงอาจเปลี่ยนไปจากนี้) เมื่อเปิดโปรแกรมมาจะพบกับโปรแกรมดังภาพ
สังเกตบริเวณใต้แถบสีฟ้าตรงหัว จะเห็นแท็บ 4 อันซึ่งเป็นโหมดหลักของ Vuze
ส่วนแท็บสุดท้าย Advanced ก็เอาใจคนชอบแบบดั้งเดิม
หลายคนอาจจะพอเดาได้ว่าหน้าจอที่เราจะใช้บ่อยสุดคือ Browse ถ้าเรากดเข้าไปที่วิดีโอซักอันหนึ่ง ก็จะเข้าไปที่หน้ารายละเอียดของวิดีโอนั้นๆ ดังภาพ
สังเกตไอคอน HD สีฟ้า เพราะ Vuze เน้นลูกค้า HD เป็นพิเศษ
สิ่งที่เราทำได้ในหน้านี้ก็ครบถ้วนตามเว็บสมัยใหม่ทั่วไป เช่น แท็ก, ให้คะแนนวิดีโอ ซึ่งจะคำนวณค่าเฉลี่ยของคะแนนทั้งหมดมาแสดง, เขียนคอมเมนต์, ส่งเข้าบริการบนเว็บอื่นๆ อย่าง Digg, del.icio.us หรือ Reddit รวมถึงลิงก์ของไฟล์ .torrent ซึ่งมีแบบเป็น magnetic link ด้วยเช่นกัน
จุดชี้เป็นชี้ตายของบริการแบบนี้อยู่ที่จำนวนและคุณภาพของวิดีโอ Vuze ได้มีฟีเจอร์ Channel มาให้ในตัว ซึ่ง Channel ส่วนใหญ่จะเป็นช่องของ Vuze เองเอาวิดีโอมารวมเป็นหมวดหมู่ ส่วนเจ้าของลิขสิทธิ์วิดีโอรายใหญ่ที่ Vuze เซ็นมาได้ ตอนนี้ยังมี BBC เพียงรายเดียว ซึ่งขนซีรีย์ดังๆ มาครบ เช่น Doctor Who เป็นต้น
Vuze จัดชนิดเนื้อหาเพียงแค่ 2 แบบ คือวิดีโอกับออดิโอ แต่ผมก็เหลือบไปเห็นของแปลกๆ อย่างไดรเวอร์ซาวน์การ์ด X-Fi ที่คนอัพโหลดบอกว่าหาไม่ได้จากเว็บของ Creative โผล่มาด้วย
ถ้าใครดู screenshot ละเอียดหน่อย อาจสนใจช่อง Sexy (เชื่อว่าจะเป็นช่องยอดนิยมสูงสุดของ Vuze) เราจัดให้
สังเกตว่าวิดีโอบางอันจะ "ขายหรือเช่า" เท่านั้น
บางวิดีโอจะมี screenshot แถมมาด้วย ถ้าคลิกจะเห็นภาพขนาดจริง พร้อมฟีเจอร์ slideshow ในตัว
ผมลองดาวน์โหลดวิดีโอมาทดสอบ เมื่อคลิกที่ปุ่ม Download จะเจอไดอะล็อกที่แสดงความคืบหน้าในการดาวน์โหลดไฟล์ .torrent ดังภาพ
จากนั้นวิดีโอจะไปโผล่ในรายการ Currently Downloading ของหน้า Home (ได้ความเร็วสูงสุดประมาณ 30 kB/s บน ADSL ความเร็ว 512 Kbps)
และเมื่อดาวน์โหลดเสร็จ ก็ย้ายไปอยู่ในส่วนของ Last Download ซึ่งเราสามารถจัดการกับไฟล์เหล่านี้ได้ ไม่ว่าจะเป็นเล่น, ลบ, หรือโหวตให้คะแนน วิดีโอพวกนี้จะปล่อย leech ให้คนอื่นเหมือนกับโปรแกรม BitTorrent ทั่วไป (แต่เท่าที่ลอง วิดีโอดังๆ อย่างเทรลเลอร์ Spiderman 3 แทบไม่ดึงจากเครื่องเราไปเลย)
สังเกตปุ่ม Play ข้างล่างนะครับ Vuze จะไปเรียก Media Player ของระบบมาเล่นไฟล์วิดีโอให้ ซึ่งตรงนี้จะแตกต่างกับ Joost หรือ Democracy Player ที่รวมระบบ playback มาให้ในตัว แต่ Vuze จะทำเฉพาะการกระจายเนื้อหาเพียงอย่างเดียว
วิดีโอส่วนมากเปิดให้ดาวน์โหลดได้ฟรี ซึ่งในระยะยาวแล้วไม่เป็นผลดีต่อทั้ง Vuze และค่ายหนังเจ้าของวิดีโอ อนาคต Vuze จะอยู่หรือจะไปขึ้นกับว่าหารายได้จากการขายวิดีโอได้มากเพียงใด ผมจึงทดสอบการซื้อวิดีโอ โดยเลือกเอาจากช่องยอดนิยม Sexy เช่นเคย
วิดีโอชิ้นแรกที่ลองมีปัญหาซะแล้ว "not available in Thailand" ไม่เป็นไร ลองใหม่
ถ้าวิดีโอนั้นสามารถซื้อได้ Vuze จะตรวจสอบว่าระบบของเราพร้อมสำหรับการดูวิดีโอนั้นหรือเปล่า สิ่งจำเป็นคือ Windows XP SP2 และ Windows Media Player 10 ขึ้นไป ถ้าเงื่อนไขผ่านเราต้องติดตั้ง codec WVC1 สำหรับเล่นไฟล์ติด DRM เพิ่มอีกเล็กน้อย
เมื่อพร้อมแล้วก็ถึงขั้นการจ่ายเงิน รับทั้งเครดิตการ์ดและ PayPal (จากนี้ผมก็ไม่ได้ลองจ่ายเงินจริง ถ้าใครอยากอ่านก็ต้องสปอนเซอร์แล้วล่ะ)
ฟีเจอร์เด็ดอีกอย่างที่ Vuze หวังจะช่วยจุดกระแสผู้ใช้ คือเราสามารถอัพโหลดวิดีโอของตัวเองไปเก็บไว้ที่เซิร์ฟเวอร์ของ Vuze ได้ (และ Vuze จะทำตัวเป็น tracker ให้ด้วยเสร็จสรรพ) จุดขายคือระบบอัพโหลดแสนสะดวกในตัวโปรแกรม
เข้าไปที่แท็บ Publish จะมีขั้นตอนบอกชัดเจน ว่าต้องทำอะไรบ้าง
วิดีโอที่จะอัพโหลดขึ้น Vuze บังคับต้องมี screenshot กำกับในขนาดที่กำหนดด้วย ผมมีวิดีโอในเครื่องไม่เยอะเลยหาไฟล์เล็กๆ อัพโหลดเล่นๆ ซักอัน สุดท้ายเลือกได้เทรลเลอร์ของ Joe the Sea-cret Agent ที่ไม่รู้ว่าจะได้ดูเมื่อไร ส่วน screenshot ก็แอบลักไก่ขยายขนาดเอา
การอัพโหลดก็ใช้ผ่านระบบ BitTorrent โดยเหมือนเรา seed ให้ Vuze เป็นผู้รับเพียงรายเดียว ระหว่างรออัพโหลดบนเว็บของ Vuze จะบอกให้เสร็จว่าอีกกี่นาที วิดีโอนี้จะพร้อมให้คนอื่นดาวน์โหลดต่อ (ผลงาน)
Vuze เป็นบริการวิดีโอออนไลน์ที่มีเป้าหมายชัดเจนและแตกต่างจากคู่แข่งพอสมควร คือเน้นขายวิดีโอเป็นชิ้น (ต่างจาก Joost ที่เหมือนทีวี) ผู้ใช้ได้ไฟล์วิดีโอมาเก็บไว้ในเครื่อง ดูซ้ำได้ (ต่างจาก YouTube) ใช้เทคโนโลยี P2P ในการส่งข้อมูล (ต่างจาก iTunes ที่เป็นการดาวน์โหลดตรง) มีโปรแกรมไคลเอนต์ของตัวเอง (ต่างจาก BitTorrent, Inc.) และเน้น HD เป็นพิเศษ
อย่างไรก็ตามอย่างที่เขียนไปแล้ว จุดชี้เป็นชี้ตายอยู่ที่เนื้อหาแบบมีลิขสิทธิ์ถูกต้องว่า Vuze จะไปหามาได้แค่ไหน ปัจจุบันสถานการณ์ยังไม่ชี้ชัดว่าใครเป็นผู้ชนะ ผู้เล่นแต่ละรายต่างมีพันธมิตรต่างกันออกไป เช่น Apple มี Disney กับ Paramount, Joost มี Viacom ส่วน Vuze เองเพิ่งมีแค่ BBC จุดนี้ก็ขึ้นกับฝีมือเจรจาของ Vuze เองแล้ว
จุดชี้เป็นชี้ตายอีกอันคือเรื่องความเร็วในการเชื่อมต่อ Vuze อ้างว่าถ้าคุณมีความเร็วเชื่อมต่อระดับ 300 KBps (B นะครับไม่ใช่ b) จะสามารถดูวิดีโอคุณภาพดีวีดีแบบสตรีมได้ ซึ่งในบ้านเรากว่าจะไปถึงจุดนั้นก็คงอีกนาน ตอนนี้ได้แต่ใช้วิธีโหลดทิ้งไว้แล้วค่อยตามมาดูทีหลัง
ตอนหน้าจะเป็นเรื่องของว่าที่แชมป์อย่าง Joost ซึ่งขึ้นอยู่กับว่าผมจะมีแรงเขียนก่อน หรือ Joost 1.0 จะออกก่อน