สรอ. เปิด "บริการซอฟต์แวร์ออนไลน์ภาครัฐ" (G-SaaS) ให้หน่วยงานรัฐไทยใช้งาน

by mk
19 June 2013 - 05:26

กระทรวงไอซีทีร่วมมือกับสำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หรือ สรอ., สำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) และเขตอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ประเทศไทย ทำระบบ Government Software as a Service (G-SaaS) บริการซอฟต์แวร์ออนไลน์ภาครัฐ เป็นซอฟต์แวร์พื้นฐานจำนวน 11 โปรแกรมให้หน่วยงานภาครัฐใช้งาน

ซอฟต์แวร์ออนไลน์ภาครัฐที่ให้บริการบริการจะมี 11 กลุ่ม โดย 3 กลุ่มแรกสามารถให้บริการได้ทันทีคือ

  1. Saraban as a Service บริการระบบสารบรรณกลางอิเล็กทรอนิกส์สำหรับหน่วยงานภาครัฐ โดย EGA กำหนดมาตรฐานของระบบสารบรรณอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ทางด้านนี้ 4 รายใหญ่ของไทยสามารถเชื่อมระบบเอกสารถึงกันได้ ระบบนี้เปิดให้หน่วยงานรัฐลองใช้งานฟรี 1 ปี
  2. SMS as a Service บริการส่งข้อความ(SMS) ผ่านเว็บไซต์ เพื่อการประชาสัมพันธ์หรือติดต่อสื่อสารภายในหน่วยงาน รวมถึงการแจ้งข่าวประชาสัมพันธ์ให้กับประชาชน
  3. Conference as a Service ระบบห้องประชุมเสมือน พัฒนาต่อมาจาก GIN Conference เพื่อเป็นการประชุมทางไกลผ่านเครือข่ายภาครัฐ

    สำหรับซอฟต์แวร์ที่อยู่ระหว่างการศึกษาและทดสอบ จำนวน 8 ชนิดจะประกอบด้วย

  4. Office on Cloud ซึ่งเป็นบริการซอฟต์แวร์ออฟฟิศเพื่อการสร้างเอกสาร ตารางคำนวณ รวมถึงงานนำเสนอ ซึ่งจะสนับสนุนการทำงานได้จากทุกที่ทุกเวลา

  5. Personal Storageระบบบริการจัดเก็บข้อมูลภาครัฐ
  6. Government Website as a Serviceระบบเว็บไซต์ภาครัฐ
  7. Conference as a Service ในระดับขั้นสูงหรือ Premium
  8. SMART IVR (Interactive Voice Response)
  9. Streaming as a Service
  10. Antivirus (Client Security for GIN)
  11. Private Instant Messaging

ที่ผ่านมาทาง EGA หรือ สรอ. ได้เปิดบริการประเภท Infrastructure as a service (G-IaaS) หรือพวกโครงสร้างพื้นฐาน ไม่ว่าจะเป็นระบบ ฐานข้อมูล และอื่นๆ ตามด้วย Platform as a service (G-PaaS) ที่เกี่ยวพันกับระบบปฏิบัติการต่างๆ ถือเป็นสิ่งที่หน่วยงานรัฐยอมรับได้ในระดับหนึ่งแล้ว เป้าหมายที่ ICT และ EGA ได้ดำเนินการต่อในครั้งนี้คือ การเป็น Software as a service (G-SaaS) หรือบริการซอฟต์แวร์ออนไลน์ภาครัฐที่จะเป็นทางเลือกให้ภาคราชการไทยได้มีโอกาสเลือกใช้ซอฟต์แวร์ที่ทำงานผ่าน Government Cloud Service (G-Cloud) เชื่อมต่อกับโครงสร้างบริการอื่นที่มีอยู่ใน GIN ของ EGA และทุกอย่างอยู่บนมาตรฐานเดียวกัน ทำให้การเชื่อมต่อการทำงานของโปรแกรม ข้อมูล และเครือข่ายเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน

น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กล่าวในงานแถลงข่าวว่า

“การริเริ่มทำโครงการนำร่อง G-SaaS มีความจำเป็นอย่างมาก เนื่องจากหากปล่อยให้เกิด ตามธรรมชาติแล้ว บริการนี้จะไม่สามารถเกิดขึ้นได้เลย เพราะที่ผ่านมาหน่วยงานรัฐที่ใช้ซอฟต์แวร์ทั้งหลายหาใช่ผู้ที่พัฒนาซอฟต์แวร์เองแต่อย่างใด เป็นการจัดซื้อจัดจ้างผู้ให้บริการระบบ หรือ System Integrators หรือ SI มาจัดการให้ ซึ่งก็เป็นไปได้ที่จะมีการเลือกซอฟต์แวร์ไทยเข้ามาร่วมด้วยแต่ถือว่าน้อยมาก และที่ผ่านมา SI เหล่านั้นก็ต้องเป็นบริษัทขนาดใหญ่ที่มีประสบการณ์การทำงานร่วมกับหน่วยงานรัฐมานาน โอกาสที่จะให้ซอฟต์แวร์ไทยรายใหม่ๆ ได้แจ้งเกิดในเวทีภาครัฐเป็นไปได้น้อยมาก และที่สำคัญแต่ละหน่วยงานก็ต้องใส่ความต้องการในด้านการทำงานของตนเองเป็นหลัก และโอกาสที่จะให้ซอฟต์แวร์ของตนเองไปเชื่อมกับหน่วยงานภายนอกแทบจะไม่มีความเป็นไปได้เลย ภาคราชการไทยจึงเสียงบประมาณจำนวนมากไปกับระบบไอทีที่แม้จะมีความทันสมัย แต่ไม่สามารถนำประสิทธิภาพเหล่านั้นมาใช้ได้อย่างเต็มที่”

ดร.ศักดิ์ เสกขุนทด ผู้อำนวยการสำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) กล่าวในงานแถลงข่าวว่า

ในเบื้องต้น EGA จะยังไม่ลงไปสู่ซอฟต์แวร์เฉพาะทางที่เกี่ยวกับการทำงานของหน่วยงานที่เป็นลักษณะเฉพาะ

ในระบบ G-SaaS ทาง EGA จะทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางประสานการให้บริการและสร้างมาตรฐาน ให้กับหน่วยงานภาครัฐ ช่วยลดความซ้ำซ้อนและสามารถเข้าถึงข้อมูลได้จากทุกที่ อีกทั้งยังเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้กับหน่วยงานภาครัฐ เพียงแค่หน่วยงานนั้นแจ้งผ่านระบบจดหมายอิเล็กทรอนิกส์กลางเพื่อการสื่อสารในภาครัฐ (Mailgothai) ก็สามารถเข้ารับบริการที่ EGA เปิดให้บริการได้ทันที ทำให้หน่วยงานต่างๆ ได้ใช้ซอฟต์แวร์ที่ได้มาตรฐานกลางภาครัฐที่คัดเลือกโดย EGA, ลดขั้นตอนการจัดซื้อ, ลดค่าใช้จ่ายด้านเทคโนโลยีเสารสนเทศ, มีมาตรฐานความปลอดภัยของข้อมูลในการทำธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ในระดับภาครัฐกับภาครัฐ, สะดวกในการใช้งานได้จากทุกที่ ทุกเวลา และเป็นมาตรฐานเดียวในการติดต่อสื่อสาร

สำหรับภาคเอกชนที่เข้าร่วมจะเกิดประโยชน์คือ ผู้เข้าร่วมพัฒนาระบบงานด้าน e-Government ให้กับภาครัฐ ถือเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของบริษัท, เพิ่มโอกาสทางธุรกิจ และได้เปิดตลาดสู่ภาครัฐไปจนถึงระดับนานาชาติ, มีโอกาสนำข้อมูลภาครัฐไปพัฒนาบริการให้กับประชาชน ขณะที่ภาคประชาชนประชาชนจะได้รับบริการที่มีความสะดวก รวดเร็ว ทั่วถึง และเท่าเทียมไม่ว่าจะอยู่ที่ใดก็ตาม ทั้งในสถานที่ของหน่วยงานภาครัฐ หรือผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้จากทั่วโลก

ที่มา - อีเมลประชาสัมพันธ์ สรอ.

Blognone Jobs Premium