กูเกิลบอกคำถามสัมภาษณ์งานยากๆ ไม่มีผลต่อการทำงาน แต่ช่วยให้คนสัมภาษณ์รู้สึกฉลาด

by mk
23 June 2013 - 11:10

หลายคนคงได้ยินชื่อเสียงของกระบวนการสัมภาษณ์งานกูเกิลที่มีคำถามสุดหินและประลองปัญญา ซึ่งก็ถือเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของกูเกิลที่ช่วยดึงดูดให้คนเก่งๆ อยากเข้ามาสัมภาษณ์งาน

แต่ Laszlo Bock รองประธานอาวุโสฝ่ายทรัพยากรบุคคลของกูเกิล ให้สัมภาษณ์ว่าจากสถิติของกูเกิลเอง (ที่บ้า big data เป็นทุนอยู่แล้ว) กลับพบว่าคำถามประลองปัญญาเหล่านี้ไม่มีความสัมพันธ์กับประสิทธิภาพของพนักงานที่รับเข้ามาแม้แต่น้อย (Bock ใช้คำว่า "เสียเวลาอย่างสิ้นเชิง" a complete waste of time) ประโยชน์ของมันมีแค่ให้ฝ่ายที่เป็นคนสัมภาษณ์รู้สึกฉลาดเท่านั้น

สิ่งที่ Bock บอกว่าสำคัญกับการสัมภาษณ์คือการสัมภาษณ์เชิงสังเกตพฤติกรรม (behavioral interview) โดยที่ฝ่ายทรัพยากรบุคคลของกูเกิลต้องเตรียมคำถามไว้ก่อน (structured) เพื่อให้ถามคำถามชุดเดียวกันกับผู้เข้าสัมภาษณ์ทุกคนและสามารถนำมาเปรียบเทียบได้ ตัวอย่างของคำถามลักษณะนี้คือ "จงยกตัวอย่างช่วงเวลาที่คุณแก้ปัญหายากๆ ได้" ซึ่งผู้ถามจะสังเกตว่าผู้ตอบมีท่าทีต่อปัญหาในสถานการณ์จริงอย่างไร และสังเกตผู้ตอบว่าปัญหาแบบไหนที่ผู้ตอบมองว่า "ยาก"

ข้อมูลอื่นๆ ที่ Bock เล่าในบทสัมภาษณ์ได้แก่

  • ไม่พบความสัมพันธ์ว่าผู้สัมภาษณ์งานคนไหนสามารถหาพนักงานเก่งๆ เข้าบริษัทได้เป็นพิเศษ ความสามารถของพนักงานที่รับเข้ามาไม่เกี่ยวข้องกับผู้สัมภาษณ์แม้แต่น้อย
  • ขนาดของทีมเฉลี่ยในกูเกิลอยู่ที่ 6 คนต่อทีม
  • ผู้นำที่ดีจะต้องสม่ำเสมอ (consistent) ยุติธรรม (fair) เพื่อให้ลูกทีมสามารถเดาวิธีคิดของผู้นำได้ เมื่อลูกทีมรู้สึกว่าผู้นำปฏิบัติตัวสม่ำเสมอ ก็จะรู้สึกว่าตัวเองมีอิสระในการทำงานเป็นอย่างมาก (เพราะเดาได้ว่าอะไรที่ผู้นำทีมอนุญาตให้ทำและไม่ให้ทำ)
  • กูเกิลเปิดให้พนักงานทุกคนให้คะแนนหัวหน้างานของตัวเองเป็นลำดับชั้นขึ้นไปเรื่อยๆ โดยแบ่งมิติที่ให้คะแนนเป็น 12-18 ด้าน แล้วแชร์กลับไปยังหัวหน้างานคนนั้นๆ ให้รับทราบ ระบบนี้ทำให้หัวหน้างานที่แย่อยู่ในบริษัทได้ยาก และคุณภาพของการบริหารคนของกูเกิลดีขึ้นมากในรอบ 3 ปีหลัง
  • เกรด (GPA) ในสมัยเรียนและคะแนนทดสอบ (test score) ของพนักงานไม่มีประโยชน์ใดๆ ในการพิจารณาการจ้างงาน ซึ่งตอนนี้กูเกิลเลิกขอ transcript และคะแนนทดสอบจากผู้สมัครงานไปแล้ว เว้นแต่ว่าจะเพิ่งจบการศึกษาเท่านั้น
  • เหตุผลที่เกรดกับคะแนนทดสอบไม่มีผลกับการทำงาน เป็นเพราะทักษะที่จำเป็นในตอนเรียนนั้นต่างไปจากทักษะในการทำงานที่กูเกิลอย่างสิ้นเชิง เมื่อเรียนจบเข้ามาทำงานกับกูเกิล 2-3 ปี พนักงานจะมีทักษะที่แตกต่างจนกลายเป็นอีกคนไปเลย
  • Bock ยังบอกว่าสภาพแวดล้อมในสถานศึกษานั้นเป็น "สภาพแวดล้อมจำลอง" คำถามที่อาจารย์ถามเราต้องการคำตอบแบบเจาะจงชัดเจน ในขณะที่ปัญหาในโลกจริงส่วนใหญ่ไม่มีคำตอบที่ชัดเจน ทักษะในการใช้ชีวิตในสถาบันการศึกษาจึงต่างกับโลกการทำงานจริง
  • สัดส่วนพนักงานกูเกิลที่ไม่ได้จบชั้นอุดมศึกษามากขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงหลัง ตอนนี้มีบางทีมในกูเกิลที่มีพนักงานไม่จบการศึกษาถึง 14%

ที่มา - The New York Times

Blognone Jobs Premium