ศาลแขวงใต้ของ New York ได้พิจารณาคดีที่รัฐบาลกลางสหรัฐอเมริกาฟ้อง Apple ฐานละเมิดกฏหมายป้องกันการผูกขาดโดยการรวมหัวกับสำนักพิมพ์หนังสือเพื่อกำหนดราคาอีบุ๊ก และมีคำตัดสินแล้วว่า Apple ผิดจริงตามข้อกล่าวหา
จากการเปิดตัวของ iPad พร้อม iBookstore ร้านขายอีบุ๊กของ Apple ในปี 2010 มีผลให้ราคาเฉลี่ยของอีบุ๊กเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก จากแต่เดิมที่ Amazon เป็นผู้ขายอีบุ๊กรายใหญ่โดยเฉลี่ยเล่มละ 9.99 ดอลลาร์ ราคาก็ปรับสูงขึ้นไปอยู่ในช่วง 12.99-14.99 ดอลลาร์
สาเหตุที่ราคาอีบุ๊กเพิ่มสูงขึ้นส่วนหนึ่งเป็นเพราะอำนาจการกำหนดราคาอีบุ๊กโดย Amazon ถูกลดลงเพราะ สำนักพิมพ์มีทางเลือกที่จะวางขายอีบุ๊กใน iBookstore และส่วนหนึ่งเป็นเพราะ Apple ยื่นเงื่อนไขให้เหล่าสำนักพิมพ์กำหนดราคาขายอีบุ๊กได้เองตามใจชอบภายใต้เงื่อนไขว่าจะไม่มีการขายผ่านช่องทางอื่นที่ราคาถูกกว่าการขายบน iBookstore
ใจความส่วนหนึ่งของความเห็นจาก Denise Cote ผู้พิพากษาคดีนี้ระบุอีกว่า "หากไม่มี Apple เป็นตัวตั้งตัวตีในการสมคบคิดครั้งนี้ มันจะไม่มีทางสำเร็จอย่างที่ได้เกิดขึ้นแล้วอย่างแน่นอน" ซึ่งแสดงให้เห็นว่า Cote มอง Apple เป็นตัวการหลักในเรื่องราวของคดีนี้ เนื่องจากผลการไต่สวนเปิดเผยว่า Apple ใช้วิธีการเปิดเผยราคาและเงื่อนไขข้อตกลงการขายอีบุ๊กที่สำนักพิมพ์แต่ละรายกำหนดไว้ให้รู้โดยทั่วกัน ซึ่งเท่ากับเป็นการเปิดช่องให้เหล่าสำนักพิมพ์ร่วมกันกำหนดราคากลางของอีบุ๊กได้แบบอ้อมๆ จนยังผลให้ราคาอีบุ๊กเพิ่มสูงขึ้นตามความต้องการของผู้ขาย เพราะปราศจากการแข่งขันกันระหว่างสำนักพิมพ์และผู้จัดจำหน่ายแต่ละราย
ทางด้าน Tom Neumayr ซึ่งเป็นโฆษกของ Apple ยืนยันว่าจะดำเนินการยื่นอุทธรณ์คดีนี้อย่างแน่นอน พร้อมทั้งกล่าวว่า "Apple ไม่ได้ทำอะไรผิดและจะเดินหน้าต่อสู้กับข้อกล่าวหาที่ไม่เป็นธรรมนี้ต่อไป" ทั้งยังให้เหตุผลด้วยว่า "การเปิดตัวของ iBookstore ในปี 2010 นั้นคือการเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้า ซึ่งช่วยเพิ่มการแข่งขันในธุรกิจ ทั้งยังเป็นการโค่นการผูกขาดตลาดธุรกิจสิ่งพิมพ์ของ Amazon ลงด้วย"