และแล้วก็เดินมาถึงรุ่นที่ 4 กับตระกูลเรือธงต้นปีอย่าง Samsung Galaxy S ซึ่งฟีเจอร์ในรุ่นนี้ก็มีการปรับปรุงหลายอย่างพอสมควร จนทำให้มีประเด็นเรื่องฟีเจอร์ที่เยอะเกินไปตามมา ประกอบกับช่วงนี้เป็นช่วงที่ซัมซุงกำลังทำตลาด Galaxy S4 อย่างหนักอยู่ ผมคิดว่าน่าจะทันสำหรับรีวิวนี้พอสมควรครับ
เผอิญว่าเครื่องรีวิวที่ซัมซุงให้มา เค้าให้ S View Cover ที่เป็นอุปกรณ์เสริมมาด้วย ก็เลยขอรีวิวเจ้านี้ไปพร้อมๆ กันเลยนะครับ
รูปลักษณ์ภายนอกของ Galaxy S4 แทบไม่ต่างจาก Galaxy S3 มากนัก ถ้าไม่สังเกตกันในรายละเอียด เพราะว่ามันเหมือนกันแบบว่าแทบแยกกันไม่ออกเลยทีเดียวครับ
ด้านหน้าของตัวเครื่องไล่จากบนลงล่างจะประกอบไปด้วย Notification Led เซ็นเซอร์รับแสง ลำโพงหลัก กล้องหน้าความละเอียด 2 ล้านพิกเซล หน้าจอขนาด 4.99 นิ้ว ปุ่มกลับหน้าหลักทีเป็นปุ่มกด และปุ่มเมนูกับปุ่ม back ที่เป็นปุ่ม capacitive ที่จะเรืองแสงก็ต่อเมื่อกดไปโดนเท่านั้น
ด้านหลังจะประกอบไปด้วยกล้องหลักขนาด 13 ล้านพิกเซล ไฟแฟลช LED และลำโพงหลัก
ด้านบนจะประกอบไปด้วยพอร์ต 3.5 มม. สำหรับเสียบหูฟัง ไมโครโฟนตัวที่ 2 และช่อง IR Blaster สำหรับทำหน้าที่เป็นรีโมทคอนโทรล
ด้านล่างมีไมโครโฟนหลักและพอร์ต Micro USB ที่อยู่ลึกกว่าปกติ เพื่อให้เราสามารถใช้เล็บงัดฝาหลังออกมาได้
ด้านซ้ายเป็นปุ่มปรับเสียง
ด้านขวาเป็นปุ่ม Power
เมื่อถอดฝาหลังออกจะเห็นช่องใส่ MicroSD Card และช่องใส่ Micro SIM ที่ต้องถอดแบตออกก่อน
เวลาปิด S View Cover หน้าจอก็จะเหลือแค่นี้ ไว้สำหรับแสดงเวลาและข้อมูลต่างๆ รวมถึงใช้รับสายเข้าเท่านั้นครับ
ฝาหลัง + S View Cover
Galaxy S4 ถือว่าชนะในเรื่องซอฟต์แวร์ ถ้าเทียบกับตัวท็อปต้นปียี่ห้ออื่นๆ (เช่น HTC One, Sony Xperia Z) เพราะด้วยความที่มาพร้อม Android 4.2.2 ที่เป็นตัวล่าสุดในขณะนี้ ทำให้มีข้อได้เปรียบเรื่องความเสถียรภาพโดยรวมของระบบ เพราะตัวเลือกนักพัฒนาจะถูกซ่อนตั้งแต่เริ่มและทำให้ผู้ใช้ทั่วไปไม่สามารถเข้าถึงตัวเลือกนี้ได้ครับ
ส่วนลูกเล่นอื่นๆ ของ Galaxy S4 ที่เราจะได้ใช้บ่อยๆ แน่นอนเลยคือ S Health เพราะตัวนี้มีการเล่นกับ Pedometer ทำให้เราไม่ต้องไปหาแอพพลิเคชันสำหรับนับจังหวะการเดินตัวอื่นๆ และนอกจากนี้ด้วยความที่ Galaxy S4 มีตัวตรวจจับอุณหภูมิ และตัวตรวจจับความชื้น ก็ทำให้ S Health สามารถแสดงสภาพอากาศที่ค่อนข้างแน่นอนในช่วงเวลาปกติได้ด้วยครับ
ลูกเล่นอื่นๆ นอกนั้น ผมคิดว่าคงพอๆ กับ Galaxy S3 เพราะแอพพลิเคชันส่วนใหญ่แทบยกจากของ Galaxy S3 มาปรับปรุงให้เข้ากับ Galaxy S4 จึงไม่มีการปรับปรุงอะไรมากในจุดนี้ ก็เลยขอละเอาไว้ละกันนะครับ
Galaxy S4 ยังคงมีปัญหาเรื่องระบบเสียงพอสมควร เพราะด้วยความที่ลำโพงอยู่ด้านหลังตัวเครื่องทำให้เวลาวางบนวัสดุซับเสียง เสียงเบาลงจนแบบไม่ได้ยินเลยครับ
ถ้าตัดเรื่องลำโพงอยู่ด้านหลัง … ใน Galaxy S4 ถือว่าเป็นโทรศัพท์ที่ให้เสียงค่อนข้างดีพอสมควร และเรายังสามารถปรับโทนเสียงได้ด้วยลูกเล่น SoundAlive (หรือ Equalizer นั่นแหละ) ข้อเสียมีเพียงอย่างเดียว คือลูกเล่น SoundAlive มีผลแค่ในแอพฯ Music Player ของซัมซุงเท่านั้นครับ
กล้องหลักของ Galaxy S4 มีขนาด 13 ล้านพิกเซล ซึ่งเท่ากับ Xperia Z แต่ไม่ได้ใช้เซ็นเซอร์แยกเหมือนของโซนี่ การให้แสงของกล้องถือว่าทำได้ดีพอสมควร แต่เรื่องการถ่ายภายในสภาวะแสงน้อยหรือว่าในที่มืดถือว่าแพ้ HTC One กับ Xperia Z ครับ เพราะภาพถ่ายออกมามืดพอสมควรครับ
แน่นอนว่าภาพตัวอย่างที่ผมถ่ายมามันมีสองขนาด คือภาพในอัตราส่วน 16:9 จะมีขนาด 9.6 ล้านพิกเซล ส่วนภาพขนาด 5:3 จะมีขนาด 13 ล้านพิกเซลเต็มครับ ซึ่งถือว่าแฟร์ๆ เพราะ Xperia Z ก็มีภาพสองขนาดเช่นกัน
รูปถ่ายทั้งหมดอยู่ใน SkyDrive เช่นเดิมครับ
การใช้งานของ Galaxy S4 ถ้าเป็นคนเคยใช้ซัมซุงมาก่อนหน้านี้ แทบไม่ต้องปรับตัวอะไรมาก เพราะการวางเมนูก็จะคล้ายๆ กันมากพอสมควร ส่วนความเร็วในการใช้งานถือว่าเร็วพอๆ กับตัวท็อปต้นปีในตลาดมาก ไม่ค่อยมีอะไรแตกต่างครับ (ยกเว้นเกม Despicable Me: Minion Rush ที่ภาพบน S4 จะสวยกว่าเพื่อน T__T)
ด้านการรับสัญญาณ GPS (ซึ่งใช้กับ Ingress) ตัวเครื่องสามารถจับ GPS ได้ค่อนข้างเร็วพอสมควร มีคลาดเคลื่อนบ้างเล็กน้อยครับ แต่กับการเอามาเล่น Ingress ยังไงก็คงต้องปิด Google Location อยู่ดี เพราะไม่งั้นตำแหน่งจะเพี้ยนไปจากเดิมพอสมควรครับ
ส่วนประสิทธิภาพโดยรวมของระบบ ผมเอา Benchmark มาให้ดูแทนก็แล้วกันครับ
AnTuTu Benchmark: 27754
Quadrant Standard: 12740
Vellamo HTML5: 2027
Vellamo Metal: 1055
Epic Cidatel (High Perfomance): 59.8
3DMark (Ice Storm Extreme): 5440
หมายเหตุ: คะแนนนี้เทสหลังอัพเดต OTA ตัวแรกสุดของรอมศูนย์ไทย
แบตเตอรี่ของ Galaxy S4 มีขนาดอยู่ที่ 2,600 mAh ผมใช้งานปกติ (ฟังเพลงทั้งวัน/ถ่ายรูปบ้าง/โทรบ้าง/เล่น Ingress บ้าง/บังคับจับ WCDMA ตลอดเวลา) แบตอยู่ได้วันต่อวัน แต่ถ้าไม่ค่อยได้ใช้อะไร ก็เหยียบเข้าช่วงกลางวันของวันที่ 2 ได้สบายครับ
สำหรับ Galaxy S4 คิดว่าน่าจะเป็นส่วนผสมที่ลงตัวของซัมซุงแล้ว เพราะดีไซน์รวมถึงตัว UI ก็แทบจะหลุดมาจาก S3 ทั้งนั้น แต่ความที่ใช้ Android 4.2 เป็นรุ่นแรกๆ ก็ถือว่าชนะค่ายอื่นไปหนึ่งจุดอย่างที่กล่าวมา และด้วยศักดิ์ศรีของความเป็นเจ้าตลาด ทำให้ซัมซุงทุ่มการพัฒนาทุกอย่างมาอยู่ที่ Galaxy S4 ตัวนี้
แต่สำหรับคนไทยคงจะคิดว่า Galaxy S4 มาช้าไปนิดนึงจริงๆ เพราะเปิดตัวหลังจากที่ค่ายทรูเปิด 4G 2100 MHz เพียงแค่ไม่กี่อาทิตย์ เลยทำให้บางส่วนไม่ค่อยอยากซื้อมาใช้งานเพราะติดเรื่อง 4G ค่ายทรู (จนต้องไปหาซื้อเครื่องนอกเอาแทน) แต่สำหรับคนที่ไม่อยากลอง 4G Galaxy S4 ก็ถือเป็นตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจในช่วงนี้ครับ