ตั้งแต่ NVIDIA เริ่มเปิดเผย Shield ในงาน CES เมื่อต้นปี ก็มีเสียงตอบรับและข้อกังขาหลายอย่าง ทั้งเรื่องตลาดเกมในแพลตฟอร์มแอนดรอยด์ รีโมตเพลย์ที่ยังมีปัญหาทางเทคนิค ความล่าช้าของ Tegra 4 ที่ทำให้ต้องเลื่อนเปิดตัว หรือแม้แต่การลดราคา มาถึงวันนี้ NVIDIA Shield ตัวจริงมาถึง และได้อยู่ในมือของสำนักรีวิวหลายเจ้าแล้ว
เป้าหมายของ Shield คือการเป็นเครื่องเล่นเกมสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งเป็นเป้าหมายที่ท้าทายในสภาวะตลาดปัจจุบัน แม้แต่เป็นผู้เล่นรายใหญ่อย่าง Apple, Sony หรือ Nintendo ก็ประสบปัญหาของตัวเองทั้งนั้น แต่ด้วยความสำเร็จของ NVIDIA ในตลาดเกมบนพีซี บวกกับชิปและแบรนด์ Tegra ที่บุกตลาดมาแล้วถึงสี่รุ่น และแพลตฟอร์มแอนดรอยด์ที่เป็นระบบปฏิบัติการและสภาพแวดล้อมหลัก ที่จะผลักดันให้ Shield เป็นเครื่องเล่นเกมที่มีโอกาสประสบความสำเร็จได้ หากตลาดตอบรับดีพอ
รายละเอียดทางเทคนิค
สำนักรีวิวส่วนใหญ่ให้คะแนนฝั่งฮาร์ดแวร์ไปในทางดีมาก ตั้งแต่การออกแบบภายนอกของตัวเครื่องที่มีปุ่มกดแข็งแรงถนัดมือ ให้ความรู้สึกใกล้เคียงกับจอยของ Xbox 360 จอภาพคุณภาพดี แต่อาจจะเล็กและความละเอียดต่ำไปหน่อย สำหรับประสิทธิภาพของ Tegra 4 นั้นดีมาก โดย CPU สามารถแซงได้ทั้ง Exynos ใน Nexus 10 และ Snapdragon 800 และ GPU อยู่ในระดับเดียวกันกับ Snapdragon 800 (ทั้งนี้ต้องไม่ลืมว่า Tegra 4 ใน Shield มีเพดานความร้อนสูงกว่าโดยมีการติดพัดลมมาให้ด้วย) อีกทั้งยังมีแบตเตอรี่ยาวนานกว่าแทบเล็ตทั่วไปด้วย
ในด้านซอฟต์แวร์มาพร้อมกับ Android 4.2.1 ที่ใกล้เคียง Stock สามารถใช้งานแอพลิเคชันในแอนดรอยด์และ Play Store ได้ตามปกติ ส่วนที่เพิ่มคือการปรับแต่งใช้งานเฉพาะสำหรับฮาร์ดแวร์ Shield และ Shield Store ซึ่งเป็นศูนย์รวมเกมของ NVIDIA ในช่วงเปิดตัวนี้มีรายชื่อเกมอยู่ 131 เกมที่สนับสนุนการเล่นด้วยจอยซึ่งสามารถใช้ Shield เล่นได้ และมี 35 เกมที่ออกแบบมาสำหรับ Shield โดยเฉพาะ ซึ่งออกจะน้อยไปหน่อยแต่ก็ต้องเป็นเรื่องของอนาคตว่าจะมีการสนับสนุนอย่างไร
นอกจากเกมในแอนดรอยด์แล้ว คุณสมบัติเด็ดอีกอย่างคือการเล่นเกมจากเครื่องพีซีในบ้านผ่าน Shield ซึ่งต้องใช้พีซีที่มีการ์ด Geforce GTX 660 ขึ้นไปและควรใช้กับ Wi-Fi DualBand เพราะระบบต้องใช้การส่งภาพความละเอียด 720p ติดต่อกันตลอดเวลา ผลที่ได้ออกมาดีมากด้วยระบบ Wi-Fi ภายในของ Shield และการถอดรหัสภาพที่ทำได้เร็ว ทั้งการแสดงภาพและการตอบสนองที่มีความหน่วงต่ำมาก สามารถเล่นเกมได้จริง แม้จะยังมีเกมที่สนับสนุนไม่มากนักในขณะนี้ก็ตาม
ปัญหาในการใช้งานมีอยู่บ้าง โดยเฉพาะการใช้งานแอพลิเคชันทั่วไปที่มักจะต้องใช้นิ้วสัมผัสทำให้ไม่สามารถหยิบจับใช้งานได้อย่างถนัด เครื่องมีน้ำหนักมาก และเกมคุณภาพระดับให้ตัดสินใจซื้อยังมีน้อย แต่ก็ถือเป็นความพยายามที่ดีของ NVIDIA ที่จะสร้างแพลตฟอร์มเกมใหม่ให้กับเกมพกพา ในราคาค่าตัว 299$ ครับ