นักวิจัยความปลอดภัยคาด RSA และ Diffie-Hellman จะไม่ปลอดภัยภายใน 5 ปี

by lew
7 August 2013 - 07:05

ทีมวิจัยความปลอดภัยจากบริษัท artemis นำเสนอความก้าวหน้าในวงการรหัสวิทยาในช่วงหลัง และคาดว่ากระบวนการแยกตัวประกอบตัวเลขขนาดใหญ่นั้นน่าจะมีการปรับปรุงประสิทธิภาพขึ้นอย่างมากภายในห้าปีข้างหน้า

กระบวนการแยกตัวประกอบเป็นกระบวนการสำคัญในการเข้ารหัสแบบกุญแจไม่สมมาตร RSA และการแลกเปลี่ยนกุญแจ (key exchange) แบบ Diffie Hellman โดย RSA นั้นประกาศ "ผลคูณ" ของเลขจำนวนเฉพาะสองจำนวนเป็นกุญแจสาธารณะ โดยเชื่อว่าการแยกตัวประกอบนั้นทำได้ยาก โดยยังไม่มีการพิสูจน์ว่าการแยกตัวประกอบนั้นเป็นงาน "ยาก" ในทางคณิตศาสตร์ จริงหรือไม่ และความเชื่อใจใน RSA ทุกวันนี้ก็มาจากความเชื่อว่ากระบวนการที่มีประสิทธิภาพนั้นยังไม่ถูกค้นพบ

ตัวอย่างงานวิจัยที่สำคัญในช่วงปีนี้คือ "Faster Index Calculus for the Medium Prime Case Application to 1175-bit and 1425-bit Finite Fields" โดย Antoine Joux ที่สามารถแยกตัวประกอบขนาดใหญ่ได้เป็นผลสำเร็ โครงสร้างความรู้ทางคณิตศาสตร์เหล่านี้เป็นเครื่องมือสำคัญให้นักวิจัยคนอื่นๆ นำไปต่อยอดได้ เมื่อเครื่องมือครบถ้วนการถอดรหัสก็สามารถทำได้ในเวลาไม่นาน

กระบวนการเข้ารหัสแบบใหม่อย่าง elliptic curve cryptography (ECC) ดูจะเป็นทางออกสำหรับวงการเข้ารหัส เมื่อถึงวันที่ RSA ไม่สามารถใช้งานได้ ภายใน NSA เองก็มีกระบวนการเข้ารหัส SuiteB ที่ใช้ ECC เป็นฐานสำหรับการเข้ารหัสเอกสารของราชการ และสำหรับภายใน NSA เองก็มี SuiteA ที่เชื่อกันว่าใช้ ECC เช่นกัน และทางฝั่งรัสเซียนั้นก็พัฒนามาตรฐานตัวเองบนฐานของ ECC แล้ว

ความน่ากลัวของการใช้งานระบบการเข้ารหัสที่อาจจะไม่ปลอดภัยในอนาคต คือ ผู้ร้ายอาจเก็บข้อมูลที่ดักฟังมาได้เอาไว้ในศูนย์ข้อมูลของตัวเอง เพื่อรอวันที่ข้อมูลเหล่านี้จะถูกถอดรหัสออกมา รวมถึงความเชื่อที่ว่าหน่วยงานรัฐบางหน่วยงานอาจจะเข้าถึงเทคนิคการถอดรหัสที่ยังไม่รับรู้กันในวงกว้างไปก่อนแล้ว

ที่มา - MIT Technology Review

Blognone Jobs Premium