สามบริษัทผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือในไทยได้รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2 ของปี 2556 ครบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว (ข่าวไตรมาส 1/2556) ช่วงไตรมาสที่ผ่านมาถือว่ามีความเคลื่อนไหวอยู่มากในอุตสาหกรรม ซึ่งสรุปในภาพรวมได้ดังนี้
จะเห็นว่าทั้งสามค่ายต่างงัดแผนการตลาดสู้เพื่อดึงผู้ใช้เข้าสู่เครือข่าย 2100MHz กันถ้วนหน้า และผลประกอบการประจำไตรมาสเป็นดังนี้ครับ
เอไอเอส
เอไอเอส มีผู้ใช้งานรวม 37.7 ล้านเลขหมาย เพิ่มขึ้น 548,000 เลขหมาย โดยมีผู้ใช้งาน 3G 2100MHz แล้ว 3.9 ล้านเลขหมาย หรือคิดเป็น 10% ของฐานลูกค้าทั้งหมด และมีรายได้ต่อเลขหมาย หรือ ARPU (Average revenue per user) อยู่ที่ 244 บาท ลดลง 2.8% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีที่แล้ว แต่เมื่อพิจารณา ARPU ของลูกค้ารายเดือน 3G ใหม่ กลับสูงถึง 792 บาทต่อเดือน เทียบกับลูกค้ารายเดือนในปีที่แล้วอยู่ที่ 676 บาทต่อเดือน
รายได้รวมในไตรมาสที่ผ่านมาอยู่ที่ 36,007 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.5% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีที่แล้ว โดยรายได้จากบริการเสียงยังคงลดลง ขณะที่บริการข้อมูลเพิ่มขึ้น 25% มีกำไรสุทธิ 9,195 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.5%
เอไอเอสประเมินว่าการวางโครงข่าย 3G 2100MHz จะทำได้เร็วกว่าแผนเดิมที่วางไว้ โดยตอนนี้ครอบคลุมแล้ว 60 จังหวัด และจะสามารถครอบคลุมตัวเมืองทั้ง 77 จังหวัดได้ภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งครึ่งปีแรกบริษัทใช้เงินลงทุนไปแล้ว 12,000 ล้านบาท และจากการขยายพื้นที่ให้บริการได้เร็วกว่าแผนเดิม บริษัทได้ปรับเป้าหมายผู้ใช้งาน 3G 2100MHz นี้เป็น 10-12 ล้านเลขหมายภายในสิ้นปี
ดีแทค
ดีแทคในไตรมาสที่สองมีรายได้รวม 24,549 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.5% โดยเติบโตจากรายได้ของการให้บริการ 10.7% และเติบโตถึง 37.2% จากการขายเครื่องโทรศัพท์ โดยเฉพาะกลุ่มโทรศัพท์ 3G มีกำไรสุทธิ 2,936 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.8% ซึ่งเป็นผลกระทบจากค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายที่สูงขึ้นมากในการขยายเครือข่าย
ในส่วนของจำนวนผู้ใช้งานสิ้นสุดไตรมาสสองอยู่ที่ 27.2 ล้านเลขหมาย เพิ่มขึ้น 622,901 เลขหมาย ส่วน ARPU อยู่ที่ 259 บาท ลดลง 0.9% แต่รายได้ส่วนบริการเสริมซึ่งรวมทั้งบริการ 3G ด้วยยังคงเติบโตต่อเนื่อง
สำหรับเป้าหมายในครึ่งปีหลังของดีแทคนั้น จะยังคงลงทุนขยาย 3G 2100MHz ให้ครอบคลุมประชากร 50% ภายในสิ้นปี ขณะที่ 3G บน 850MHz ที่วางไว้ก่อนหน้านี้ได้ครอบคลุมทั่วประเทศไปแล้ว รวมกับความถี่ 1800MHz ทั้งหมดสามเครือข่ายจึงทำให้ดีแทคมีแบนด์วิทกว้างที่สุดในประเทศไทย
ทรูโมบาย (ทรูมูฟ ทรูมูฟเอช และฮัทช์ CDMA)
กลุ่มทรูโมบายมีรายได้รวม 14,848 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.7% โดยเป็นการเติบโตจากบริการทรูมูฟ เอชที่มีลูกค้ารายเดือนเพิ่มสูงขึ้น และรายได้จากส่วนบริการที่ไม่ใช่เสียง ก็เติบโตถึง 50.5% คิดเป็น 3,300 ล้านบาท แต่บริษัทยังขาดทุนสุทธิ 2,946 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากค่าเสื่อมราคา ค่าตัดจำหน่าย และดอกเบี้ยจ่ายที่เพิ่มขึ้น
จำนวนลูกค้าทรูมูฟ เอชเพิ่มขึ้นเป็น 3.9 ล้านเลขหมาย เพิ่มขึ้น 678,000 ราย ส่วน ARPU ลดลงเป็น 467 บาท ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้านี้ที่ 491 บาท ซึ่งมาจากฐานลูกค้าใหม่มีกลุ่มที่มีการใช้งานน้อย และมีลูกค้าระบบเติมเงินเพิ่มขึ้น