ในยามที่ตลาดเกมยุคใหม่เริ่มแข่งขันกันหนัก บรรดาผู้ผลิตเกม รวมถึงบริษัทพัฒนาเครื่องเกมต่างก็พาเหรดกันยัดฟีเจอร์ใหม่ๆ เข้ามา ฟีเจอร์ที่ถูกพูดถึงบ่อยสุดคงหนีไม่พ้นระบบออนไลน์ ซึ่งดูแล้วเจ้าที่ล้าหลังในตอนนี้คงหนีไม่พ้นนินเทนโด ด้วยความที่มักจะเปิดตัวเครื่องเกมมาก่อนใครเสมอๆ
แต่ดูเหมือนในอนาคตอันใกล้นี้นินเทนโดคงหันมาเน้นกับระบบออนไลน์มากขึ้นแล้ว หลังจากนาย Reggie Fils-Aime ประธานนินเทนโดสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์กับ IGN เกี่ยวกับทิศทางระบบเชื่อมต่อของเครื่องเกมในเครืออย่าง Wii U และ 3DS ซึ่งครอบคลุมไปถึงระบบการเล่นออนไลน์ และการซื้อเกมผ่านระบบออนไลน์ด้วย
Fils-Aime บอกว่าระบบการเล่นออนไลน์นั้นสำคัญเสมอ แม้ว่าบางเกมของนินเทนโดเองจะไม่มีฟีเจอร์ดังกล่าวก็ไม่ได้หมายความว่านินเทนโดไม่ได้สนใจฟีเจอร์ออนไลน์แต่อย่างใด แต่เป็นเพราะว่าเราได้เลือกชนิดของเกมที่หากใส่ฟีเจอร์ออนไลน์เข้าไปแล้วจะทำให้ตัวเกมมีประสบการณ์เล่นที่ดีขึ้นจริงๆ โดยยกตัวอย่างเกม Super Mario 3D World ที่เตรียมขายปลายปีนี้ว่าทีมพัฒนาออกแบบเกมมาให้เล่นหลายคนแบบที่ผู้เล่นอยู่ในห้องเดียวกัน เพื่อให้ได้ประสบการณ์คล้ายกันกับในตัวเกม (Fils-Aime ใช้คำว่า in-the-same-room multiplayer experience) จึงยังไม่ใส่ระบบการเล่นออนไลน์เข้ามา
ส่วนเรื่องการซื้อเกมผ่านผ่านระบบออนไลน์นั้น Fils-Aime บอกว่าทางนินเทนโดเห็นความสำคัญของส่วนนี้ที่กำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากการปูทางระบบโดยเครื่อง 3DS ที่มีเกมอย่าง Animal Crossing: New Leaf ทำยอดขายออนไลน์ไปได้ถึง 30% จากทั้งหมด (ที่ปาเข้าไปเกือบจะห้าล้านชุดแล้ว) และเมื่อถูกถามว่าทำไมทางนินเทนโดบอกว่าให้ความสำคัญกับการซื้อเกมออนไลน์ แต่เครื่องเกมกลับให้หน่วยความจำมาน้อยมาก อย่าง Wii U ตัวสูงสุดก็มีเนื้อที่เพียง 32GB เท่านั้น Fils-Aime บอกว่าหน่วยความจำมีแต่จะถูกลงเรื่อยๆ เราเลือกที่จะขายเครื่องที่มีเนื้อที่พอให้ใช้งานได้สบายๆ ส่วนใครที่ต้องการเนื้อที่เพิ่มก็ให้ซื้อฮาร์ดดิสก์แยกมาต่อเพิ่มเองจะคุ้มค่ากว่า
สรุปจากบทสัมภาษณ์ของ Fils-Aime สั้นๆ คือนินเทนโดเห็นความสำคัญของระบบออนไลน์ แต่จะเลือกใช้เมื่อเห็นว่ามันจำเป็นจริงๆ ส่วนระบบซื้อเกมออนไลน์ก็กำลังดันอยู่ครับ
ที่มา - IGN