เปิดตัวที่เยอรมนีไปเพียงสัปดาห์กว่าๆ Galaxy Note 3 ก็บินมาถึงเมืองไทย ให้ได้ลองจับลองเล่นกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
พูดถึงสเปคกันคร่าวๆ Galaxy Note 3 รุ่นขายในประเทศไทยจะเป็นโมเดล 3G ซึ่งมีสเปคหลักๆ ดังนี้ครับ (สเปคเต็มดูได้จากข่าวเก่า)
เกริ่นมาพอสมควรก็ลองจับเครื่องจริงกันเลย เนื่องจากมีเวลาจำกัดมาก จึงจะพูดถึงแค่ส่วนของฮาร์ดแวร์ กล้อง และมีซอฟต์แวร์นิดหน่อยครับ
ฮาร์ดแวร์
ด้านหน้าของ Galaxy Note 3 จะเหลี่ยมกว่ารุ่นก่อนหน้าพอสมควร ปรับปุ่มโฮมเล็กและยาวขึ้น พื้นผิวกระจกด้านมีลายด้วย! ดูเผินๆ แล้วเหมือนจับ Galaxy S II มาขยายมากๆ
พลิกมาด้านล่าง จะพบกับพอร์ต micro USB 3.0 ที่ช่วยให้ส่งข้อมูลได้ไวขึ้น ตัวพอร์ตจะยาวกว่า micro USB ปกตินิดหน่อย และยังใช้กับสาย micro USB แบบเดิมได้อยู่ ข้างกันเป็นลำโพงที่ย้ายมาจากด้านหลัง และช่องเสียบ S Pen
ส่วนด้านบนมีพอร์ต 3.5 มม. อยู่โดดเดี่ยว ไม่ได้ถ่ายมาครับ T__T
ด้านข้างของ Galaxy Note 3 ทำลายให้เหมือนกับขอบสมุดโน้ต ฝั่งขวามีปุ่มเปิดเครื่อง ฝั่งซ้ายมีปุ่มปรับเสียงครับ
พลิกมาดูด้านหลังจะพบกับฝาหลังพลาสติกพิมพ์ลายเสมือนหนังเช่นเดียวกับลายเย็บด้านข้าง ตรงนี้สีขาวจะสัมผัสลื่นๆ ออกพลาสติก แต่เครื่องสีดำจะให้ความรู้สึกหนืดมือ และนุ่มกว่าครับ
ด้านบนของฝาหลังเป็นกล้องความละเอียด 13 เมกะพิกเซล พร้อมแฟลช LED ความแรงสูง ตัวกล้องจะนูนขึ้นมาจากฝาหลังนิดหน่อยประมาณ 1 มม.
แกะฝาหลังออกมาจะพบกับแบตเตอรี่ก้อนมหึมา 3200 mAh ช่องเสียบซิม และ micro SD ตัวฝาหลังแม้จะบาง แต่ก็เหนียวและคืนรูปได้ไวตามแนวทางของซัมซุง
ประสบการณ์ใช้งาน
จากการใช้งานสั้นๆ ความรวดเร็วในการใช้งาน Galaxy Note 3 ลื่นไหลหายห่วง ตัวอินเทอร์เฟซในส่วนกราฟิก-อนิเมชันพยายามทำให้รู้สึกเหมือนกับสมุดโน้ตมากขึ้น (ตั้งแต่หน้าล็อกเลย) เช่นเดียวกับฝั่งฮาร์ดแวร์ที่พยายามทำให้เหมือนสมุดโน้ตมากๆ ก็นับเป็นกิมมิกที่พยายามอัพเกรดพลาสติกให้ดูพรีเมียมขึ้นได้ (แต่ยังไม่ค่อยอินแฮะ)
ทางฝั่ง S Pen มีการปรับปรุงให้ใช้งานได้หลากหลายขึ้น ชูจุดเด่นมาได้ชัดเจนขึ้น เมื่อดึงออกจากที่เก็บ ตัวเครื่องจะเปิด Air Command ที่รวมฟีเจอร์หลักทั้งห้ามาทันที ตัวที่น่าสนใจสุดน่าจะเป็น Action Memo ที่สามารถเขียนโน้ตด่วนและเอาไปใช้งานได้ทันที แต่มีข้อจำกัดอยู่บ้าง เช่นเขียนได้ทีละเบอร์ เป็นต้น
ตัวปากกา S Pen นอกจากจะใช้สัมผัสหน้าจอแทนนิ้วได้แล้ว ยังใช้กดปุ่ม menu และปุ่ม back ได้ด้วย
แบตเตอรี่ของ Galaxy Note 3 ทำมาได้อึดตามคาด จากการลองเล่นอย่างหนักและต่อ 3G ตลอดเวลามากกว่า 5 ชั่วโมง แบตเตอรี่ยังเหลือเกินครึ่ง การใช้งานทั่วไปน่าจะพ้นครึ่งวันได้สบายๆ ครับ
ยังมีฟีเจอร์อื่นๆ ของ Galaxy Note 3 อีกเยอะมาก ถ้ามีโอกาสได้รีวิวเครื่องจะไล่ลองให้ครบครับ (ใครสนใจฟีเจอร์ไหนเป็นพิเศษก็บอกได้)
คุณภาพกล้อง
กล้องของ Galaxy Note 3 จัดการภาพถ่ายตอนกลางวันได้หายห่วง ดูในจอสีจะออกสด แต่ดูในจอคอมจะซีดลงนิดหน่อย
ลองถ่ายตอนกลางคืนพบว่าทำผลงานได้ดีพอตัว ระบบกันสั่นทำงานเห็นผลจริง แม้จะน่ารำคาญตรงที่เป็นซอฟต์แวร์ทำให้ถ่ายรัวไม่ได้ก็ตาม
ลองถ่ายแบบไม่เปิดแฟลชภาพออกมาสว่างใช้ได้ แลกกับความคมชัดที่ลดลง สีจะออกมาอมฟ้านิดหน่อย
พอเปิดแฟลชถ่ายแล้ว ภาพออกมาดูดีกว่าที่คิด คม และสีตรง แต่ก็ต้องลองทดสอบกับวัตถุที่ระยะไกลขึ้นว่าจะยังทำผลงานได้ดีอยู่หรือไม่ครับ
สำหรับราคาของ Galaxy Note 3 เปิดมาแล้วที่ 23,500 บาท มีขายสองสี ดำและขาว เปิดให้จอง 18-24 นี้ครับ