ไมโครซอฟท์จัดงานประชุมกับนักวิเคราะห์ทางการเงิน อธิบายแผนการและสภาพธุรกิจของบริษัทหลายอย่าง
ประเด็นสำคัญที่สุดที่ทุกคนอยากรู้ย่อมเป็นเรื่องซีอีโอคนใหม่ ซึ่งบัลเมอร์บอกว่ายังอยู่ระหว่างกระบวนการสรรหาโดยบอร์ด (เช่นเดิม) เขายังเล่าเรื่องส่วนตัวว่ารู้สึกแปลกๆ เล็กน้อยที่ประกาศเกษียณอายุไปแล้วแต่ยังไม่มีผู้สืบทอด และหลังจากเกษียณไปแล้วเขาจะยังถือหุ้นไมโครซอฟท์ 4% โดยยังไม่คิดขายออกไปในระยะอันใกล้นี้ และทรัพย์สินของเขา 70% มาจากไมโครซอฟท์
บัลเมอร์ยังบอกใบ้ (รึเปล่า?) ว่าบอร์ดแนะนำให้เขาไปคุยกับผู้บริหารขององค์กรอื่นๆ เพื่อหาคนที่เหมาะสมมาสืบทอดอำนาจ แต่เขาลองไปคุยดูแล้วก็พบว่าผู้บริหารคนในของไมโครซอฟท์เก่งกว่ามาก
ประเด็นอื่นๆ ที่น่าสนใจ
- แยกส่วนรายได้ตามกลุ่มลูกค้า ลูกค้าองค์กร 55%, ผู้ผลิตพีซี 19%, ตลาดคอนซูเมอร์และธุรกิจออนไลน์ 20%, ลูกค้า SME 6%
- แยกส่วนรายได้ตามฝ่าย (business unit) อันดับหนึ่งคือ Office 32%, Server and Tools 26%, Windows ตกมาอันดับสาม 25%, Entertainment and Devices 13%, Bing และบริการออนไลน์ 4%
- แผนการปรับเปลี่ยนองค์กรเป็น devices and services ไม่ได้แปลว่าไมโครซอฟท์จะผลิตอุปกรณ์เองทั้งหมด
- บัลเมอร์บอกว่าตามแผนนี้ลูกค้าสามารถใช้ services ของไมโครซอฟท์ได้โดยไม่ต้องใช้ devices ของไมโครซอฟท์ (เช่น Office 365 หรือ Skype) และยอมรับว่าไมโครซอฟท์ยังทำ devices ได้ไม่ดีนัก
- การทำ Surface ช่วยให้ไมโครซอฟท์สร้าง Windows 8.1 ได้ดีขึ้น เพราะมีประสบการณ์ตรงจากการทำฮาร์ดแวร์เอง
- Office 365 เติบโตเร็วมาก ปีงบประมาณที่ผ่านมาโต 350% ตอนนี้ทำรายได้ปีละ 1.5 พันล้านดอลลาร์แล้ว แถมชิงลูกค้ากลับมาจาก Google Apps ได้ถึง 440 องค์กร
- Outlook.com มีลูกค้าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และ SkyDrive มีผู้ใช้ 250 ล้านคน
- สมาชิก Xbox Live ในสหรัฐเป็นผู้หญิง 40% ซึ่งเป็นสัดส่วนที่เปลี่ยนจากสมัย Xbox Live ออกใหม่ๆ มาก
- ไมโครซอฟท์กำลังเร่งขยายช่องทางจัดจำหน่ายสินค้าของตัวเองอย่างมาก ในสหรัฐมีร้านย่อยที่เปิดในร้าน Best Buy กว่า 200 ร้านแล้ว และใช้แผนเดียวกันในอังกฤษโดยจับมือกับห้าง Dixon's
- เราจะได้เห็นแท็บเล็ต Windows RT ที่ใช้ ARM อีกมาก
- Windows Phone มีแอพยอดนิยมของแพลตฟอร์มอื่น 49 จาก 50 แอพแล้ว (ขาดแอพที่คุณก็รู้ว่าอะไร)
ที่มา - AllThingsD