มีรายงานจาก China Times ว่าสองบริษัทคอมพิวเตอร์ยักษ์ใหญ่ของไต้หวันอย่าง เอเซอร์ และ เอซุส เตรียมที่จะควบกิจการกันเอง ทั้งนี้ก็เพื่อหนทางอยู่รอดของทั้งสองบริษัท ท่ามกลางสภาวะความไม่แน่ไม่นอนของโลกไอทีที่ปัจจุบันไม่ได้ผูกขาดกับ Windows และอินเทลแล้ว
โดย Johnny Shih ประธานบอร์ดของเอซุส ให้ความเห็นว่าขณะนี้พวกเขามองว่าการควบรวมกิจการ น่าจะเป็นไปได้พอสมควรแล้ว หลังจากที่ก่อนหน้านี้บริษัทลงทุนและหากำไรได้ด้วยตนเอง (ต้องไม่ลืมว่านอกจากคอมพิวเตอร์ เอซุสยังขายชิ้นส่วนแบบ DIY อยู่ด้วย) แต่พอมาในช่วงสองปีนี้ ยอดขายเมนบอร์ดที่เป็นรายได้หลักของบริษัท กลับลดลงอย่างน่าใจหายแบบปีต่อปี เอซุสจึงตัดสินใจเปิดไลน์อุปกรณ์พกพาเพิ่ม เพื่อหาทางรอดให้บริษัท
ส่วนด้าน Stan Shin ประธานของเอเซอร์ระบุว่า บริษัทเองก็เพิ่งเปิดรับความเห็นเรื่องการควบรวมกิจการเช่นกัน เพราะการทำเช่นนี้ จะทำให้บริษัทมีแนวทางการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มมากขึ้นจากเทคโนโลยีของทั้งสองบริษัท ในเมื่อโอกาสเติบโตบริษัทมันเข้ามาใกล้แล้ว ทำไมเราถึงจะไม่จำเป็นที่จะต้องคว้าโอกาสนี้เอาไว้ครับ
อย่างไรก็ตาม พอมีข่าวนี้ออกไป ปรากฎว่าหุ้นของทั้งสองบริษัทดีดตัวขึ้นเล็กน้อย กล่าวคือหุ้นของเอซุสมีมูลค่าเพิ่มขึ้น 1.69% และฝั่งเอเซอร์เพิ่มขึ้น 0.5% ครับ
ที่มา - Unwired View