Cinnamon 2.0 ออกแล้ว ไม่จำเป็นต้องพึ่ง GNOME อีกต่อไป

Cinnamon เป็นระบบเดสก์ท็อปที่พัฒนาแยกมาจาก GNOME Shell ที่พยายามทำให้หน้าตา และการใช้งานคล้ายคลึงกับ GNOME 2.x แต่เมื่อมาถึงรุ่น 2.0 Cinnamon ไม่ได้เป็นเพียงแค่หน้ากาก (frontend) ครอบ GNOME เอาไว้เหมือนกับ Unity หรือ GNOME Shell แต่เป็น DE ตัวใหม่อีกตัวหนึ่งโดยสมบูรณ์เทียบเท่ากับ GNOME และ KDE

แม้ว่า Cinnamon จะยังใช้เทคโนโลยีของ GNOME และใช้ GTK อยู่ แต่ Cinnamon ก็มีแบ็คเอ็นด์ ไลบรารี่ และเดมอนของตัวเอง จึงทำให้ไม่จำเป็นต้องติดตั้ง GNOME เพื่อใช้งานอีกต่อไป

Cinnamon 2.0 มีสิ่งที่ปรับปรุงเพิ่มเติมเข้ามาดังนี้

• เพิ่มความสามารถของการเรียงหน้าต่างแบบไทล์
  • สามารถเปลี่ยนขนาดหน้าต่างได้
  • เรียงเป็น 4 หน้าต่างได้โดยลากหน้าต่างไปยังมุมทั้งสี่
  • แสดงการแจ้งเตือนหากลากหน้าต่างเข้าไปยังขอบ และมุมของหน้าจอ
• ตั้งเสียงเอฟเฟคของแต่ละเหตุการณ์แยกกันได้
• แทนที่ User Accounts ของ GNOME ด้วย Users and Groups ของ Cinnamon เอง
• เพิ่ม User Applet เข้ามา
• แทนที่ blueman ด้วย cinnamon-bluetooth
• ปรับปรุงประสิทธิภาพสำหรับแอพที่ทำงานแบบเต็มหน้าจอ
• Nemo (พัฒนามาจาก Nautilus) กลายเป็น file manager หลักของ Cinnamon ซึ่งตอนนี้สามารถพรีวิวไฟล์ได้ และแสดงข้อมูลใน list view มากขึ้น
• ส่วนการปรับปรุงอื่น ๆ ดูได้จากที่มา

Cinnamon 2.0 จะมาพร้อมกับ Linux Mint 16 (Petra) ที่จะปล่อยออกมาปลายเดือนพฤศจิกายนนี้ และจะ backport ไปยัง LMDE และ Linux Mint 13 LTS ในภายหลัง

สำหรับชาว Ubuntu สามารถติดตั้ง Cinnamon 2.0 ได้จาก PPA ของ Cinnamon ในเร็ว ๆ นี้ แต่ถ้าไม่อยากรอ สามารถทดลองใช้รุ่น nightly ได้จาก Nightly PPA สำหรับ Arch Linux สามารถติดตั้งได้จาก official repo ของ Arch Linux ส่วนคนที่ใช้ดิสโทรอื่น รอ repo ของแต่ละ distro โดยอ่านรายละเอียดการติดตั้ง Cinnamon ได้จากหน้าดาวน์โหลด

ที่มา: Web Upd8, Segfault (Linux Mint)