ในช่วงระยะเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมา เราเริ่มเห็นแนวโน้มการพัฒนาของเทคโนโลยีที่หมุนไปสู่แนวโน้มที่จะ "สวมใส่" (Wearable) กันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นจากฝั่งของกูเกิลอย่าง Google Glass ไปจนถึงรองเท้าอัจฉริยะ และบรรดาอุปกรณ์เพื่อสุขภาพอย่าง Fitbit Flex ในบรรดาอุปกรณ์เหล่านี้ "นาฬิกา" น่าจะเป็นสิ่งที่มีความเคลื่อนไหวค่อนข้างมากในรอบปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็น Geak จากประเทศจีน Pebble ที่ได้รับความนิยมอย่างสูง Toq ของ Qualcomm และอื่นๆ อีกมากมาย แต่ต้องยอมรับว่าทั้งหมดนี้อยู่ในระยะช่วงเริ่มต้นเท่านั้น และการจะทำให้ "ดี" นั้นถือเป็นเรื่องยาก ตัวอย่างที่ชัดเจนคือกรณีของ Samsung Galaxy Gear ที่โดนเว็บข่าวในต่างประเทศ (เช่น Gizmodo AU หรือ The Verge)โจมตีอย่างหนักหน่วง และอันที่จริงแล้ว พัฒนาการของนาฬิกาอัจฉริยะเองก็มีมาตั้งแต่ช่วงปี 1970 ดังนั้นต้องถือว่า สำหรับนาฬิกาแล้วยังหาจุดที่ลงตัวไม่ได้ และยังมีพื้นที่ว่างอีกมากในการพัฒนาอุปกรณ์เหล่านี้จนกระทั่งลงตัว ซึ่งน่าจะคงใช้ระยะเวลาอีกสักพักใหญ่
โซนี่เอง ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ผลิตอุปกรณ์เทคโนโลยีต่างๆ ก็พยายามที่จะเข้าสู่ตลาดที่ว่านี้อยู่เสมอ เริ่มต้นด้วย LiveView และ SmartWatch รุ่นแรกที่ไม่ค่อยจะประสบความสำเร็จนัก มาในปีนี้โซนี่ตัดสินใจที่จะส่งรุ่นปรับปรุงของ SmartWatch ซึ่งก็คือ SmartWatch 2 เข้าสู่ตลาด โดยถือเอารูปแบบของการเป็นนาฬิกาที่เป็นส่วนต่อขยายจากโทรศัพท์ มากกว่าที่จะเป็นนาฬิกาซึ่งทำงานได้โดยไม่ต้องพึ่งพาโทรศัพท์มือถือแต่อย่างใด โดยเปิดตัวมาตั้งแต่เดือนมิถุนายน และเพิ่งจะวางขายในช่วงที่ใกล้เคียงกับ Samsung Galaxy Gear จึงมักจะถูกยกขึ้นมาเปรียบเทียบคู่กันอยู่บ่อยครั้งในรีวิวจากต่างประเทศ ส่วนรีวิวนี้จะเจาะลึก Sony SmartWatch 2 และรวมถึงการใช้งานทั่วไปครับ
สำหรับเรื่องของคุณสมบัติของนาฬิกา (ความเร็ว ความถี่ ขนาดหน้าจอ) ผมขออนุญาตที่จะไม่กล่าวถึงในที่นี้นะครับ เพราะเชื่อว่าผู้อ่านสามารถหารายละเอียดเพิ่มเติมได้ไม่ยาก แต่ที่น่าสนใจอันหนึ่งที่ต้องยกขึ้นมาคือ นาฬิกานี้ใช้ Android รุ่นที่ปรับแต่งแล้ว ดังนั้นก็น่าสนใจว่าจะสามารถปรับแต่งได้แบบที่ Galaxy Gear ทำได้ หรือไม่ นอกจากนั้นแล้วยังใช้ได้กับโทรศัพท์มือถือที่ใช้ Android ตั้งแต่รุ่น 4.0 ขึ้นไป สำหรับรุ่นที่ผมซื้อมานี้เป็นรุ่นสายเหล็กครับ ถ้าไม่ชอบใจก็สามารถเปลี่ยนได้โดยใช้สายนาฬิกาที่เป็นมาตรฐานและมีอยู่ทั่วไปได้ทันที
หน้าตาของกล่องบรรจุพร้อมกับการบอกคุณสมบัติครับ สำหรับของที่อยู่ภายใน นอกจากตัวนาฬิกาแล้ว ก็มีเพียงสาย Micro USB เอาไว้สำหรับชาร์จตัวนาฬิกาเท่านั้นครับ (ซึ่งผมก็ไม่ได้ใช้ ไปใช้ที่ชาร์จโทรศัพท์มือถือที่เป็น Micro USB แทน)
ด้านหน้าเหมือนกับโทรศัพท์มือถือที่ใช้ Android ทั่วไปครับ มีปุ่มย้อนกลับ ปุ่มหน้าหลัก และปุ่มเรียกเมนูขึ้นมา ซึ่งจะใช้งานได้เฉพาะในบางโปรแกรมครับ (ที่เห็นเป็นฟิล์มผมติดกันรอยเองเป็นการชั่วคราวครับ)
ด้านข้างซ้าย คือพอร์ต Micro USB พร้อมฝาปิดไว้สำหรับชาร์จครับ เครื่องที่ผมซื้อมานี้มีปัญหาอยู่พอสมควรกับฝาปิดนี้ เพราะถ้าดันหรือปิดไม่ถูกจังหวะ ก็จะปิดไม่สนิท ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบกับการกันน้ำของเครื่องอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้นท่านใดที่มีแผนจะซื้อ อาจจะต้องสำรวจในจุดนี้ด้วยนะครับ (ส่วนตัวผมไม่มีปัญหาครับ ถ้าจะต้องปิดฝาให้ถูกจังหวะ เลยไม่ได้ขอเปลี่ยนครับ)
ด้านข้างขวาเป็นปุ่มขนาดใหญ่ที่ใช้รูปแบบการออกแบบเหมือน Xperia Z และรุ่นต่อๆ มา ซึ่งต้องถือว่าเป็นแนวคิดของการออกแบบที่ดี เพราะเมื่อมาอยู่บน SmartWatch 2 แล้ว ทำให้กดปุ่มเรียกใช้งานต่างๆ ได้ง่าย ไม่ต่างจากนาฬิกาทั่วไปครับ
ด้านหลังที่บอกรายละเอียดต่างๆ และจุดเชื่อม NFC ครับ
ขนาดโดยรวมเมื่อใส่กับข้อมือ
เนื่องจากผมใช้ Xperia Z การเชื่อมต่อระหว่างนาฬิกากับโทรศัพท์จึงแค่เอามือถือไปแตะด้านหลังนาฬิกาเท่านั้น ก็สามารถใช้งานได้ทันทีโดยไม่ต้องตั้งค่าอะไรเพิ่มเติม ยกเว้นว่าจะต้องดาวน์โหลดโปรแกรม SmartWatch 2 เพิ่มเติมจาก Google Play เท่านั้น เมื่อเชื่อมต่อได้แล้วก็จะสามารถทำงานได้ทันที ทั้งนี้บนโทรศัพท์มือถือของเราจะแสดงไอคอนตลอดเวลาว่า เรากำลังใช้ SmartWatch 2 อยู่ครับ
เมื่อเลือกเข้าไปจากไอคอนใน Notification Panel ก็จะพบการตั้งค่าโปรแกรมต่างๆ และแสดงว่าในนาฬิกาเรามีโปรแกรมอะไรอยู่บ้างครับ ทั้งนี้สามารถจะโหลดมาเพิ่มเติมได้ตามสะดวกครับ เพียงแค่กด Search for applications แล้วเลือกตัวเลือกโปรแกรมที่อยากได้ ตัวเครื่องก็จะกระโดดไปค้นหาให้จากใน Play Store ทันที
ตัวอย่างในการใช้งานก็เช่น การตั้งปลุก การตรวจสอบรายการโทรศัพท์ รายชื่อคนติดต่อ และพยากรณ์อากาศเป็นต้นครับ
ส่วนสำคัญก็คือ หน้าจอและการใช้งานกลางแจ้งครับ สำหรับหน้าจอแม้ว่าจะเล็ก และความละเอียดต่ำพอสมควร แต่ก็ถือว่าไม่เลวร้ายจนเกินไป เมื่อเอาไปใช้งานกลางแจ้ง ผมพบว่าหน้าจอแทบจะเหมือนกับ EInk แทบจะทุกประการ คือ สีสันต่างๆ ที่มีอยู่ในหน้าจอ ลดลงไปจนแทบจะเป็นขาวดำ แต่ยังคงให้รายละเอียดที่ชัดเจนอยู่ และการสะท้อนแสงก็เหมือนกับนาฬิกาทั่วไปปกติ จุดนี้ผมถือว่า Sony แก้ปัญหาได้ดีมาก
อีกสองเรื่องสำคัญก็คือ อายุแบตเตอรี่ และการกันน้ำ ซึ่งสำหรับอายุแบตเตอรี่ต้องถือว่าทำได้ดีมาก เพราะแม้จะเปิด Bluetooth ตลอดเวลา เพื่อเชื่อมต่อกับโทรศัพท์ และอ่านข้อความต่างๆ บ้าง อายุที่ได้คือประมาณสี่วันเศษๆ ถือว่าน่าประทับใจมาก ส่วนเรื่องการกันน้ำ อย่างที่ผมบอกไปแล้วว่าเครื่องที่ผมได้มานั้นมีปัญหากับฝาปิดอยู่บ้าง แต่ผมก็เผลอใส่ไปล้างมือด้วยอยู่บ่อยครั้ง และก็พบว่าไม่มีปัญหาอะไรแต่ประการใดครับ น้ำไม่เข้า ทุกอย่างปกติครับ ทั้งนี้ไม่แนะนำให้ใส่ไปอาบน้ำนะครับ โอกาสที่น้ำจะเข้าเครื่องอาจจะมีสูงอยู่
แต่ปัญหาสำหรับชาวไทยอย่างเราก็คือ SmartWatch 2 ไม่สามารถอ่านภาษาไทยได้ครับ ดังนั้นคนที่ซื้อมาอาจจะต้องทำใจสักนิดในเรื่องนี้ และหวังว่าทางโซนี่จะออกมาแก้ปัญหานี้ในรุ่นถัดไปครับ
หากถามว่า SmartWatch 2 น่าซื้อหรือไม่ในตอนนี้ คำตอบของผมก็คือขึ้นกับแต่ละคนว่ามีจุดประสงค์ในการใช้งานอย่างไร โดยส่วนตัวแล้วผมอยากอ่านอีเมล์คร่าวๆ เร็วๆ และเอาไว้เตือนนัดบ้าง ซึ่ง SmartWatch 2 ตอบโจทย์ผมได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตามต้องบอกว่า ยังมีพื้นที่ว่างอีกเยอะสำหรับ SmartWatch 2 ในการปรับปรุงและพัฒนา ตลอดจนถึงสารพัดโปรแกรมที่จะสามารถใช้งานบนนาฬิกาครับ
ถ้าอยากซื้อเพราะเอามาเป็นเครื่องประดับ (นาฬิกาย่อมเป็นเครื่องประดับไปในตัวครับ) ต้องถือว่า SmartWatch 2 ดูดีอยู่พอสมควรทีเดียว และถ้าจะหาซื้อมาใส่เพื่อเพิ่มความดูดี อันนี้ก็คงอยู่ที่แต่ละท่านด้วย แต่ถ้าหวังว่า SmartWatch 2 จะทำงานได้สารพัดอย่างแบบที่ Galaxy Gear ทำได้ หรือหวังแบบนาฬิกามือถือ อาจจะต้องผิดหวังครับ เพราะในที่สุดแล้วก็จะต้องใช้คู่กับโทรศัพท์มือถืออยู่ดีครับ แถมคุณสมบัติก็ไม่ได้เป็นอะไรมากกว่าจอที่สองครับ
ถ้ายังไม่แน่ใจว่า เหมาะสมกับท่านผู้อ่านหรือไม่ ส่วนตัวผมแนะนำว่ารอดูปีหน้าที่สมรภูมิของอุปกรณ์สวมใส่ได้เหล่านี้ จะทวีความเข้มข้นมากขึ้นเรื่อยๆ ครับ