หนังสือพิมพ์ Washington Post แสดงเอกสารที่เปิดเผยโดย Edward Snowden แสดงถึงปริมาณการเก็บข้อมูลของ NSA โดยเอกสารนี้แสดงปริมาณการเก็บข้อมูลจากผู้ให้บริการ 4 รายหลัก ได้แก่ ยาฮู, ฮอตเมล, จีเมล, และเฟซบุ๊ก
เฉพาะ Yahoo! Webmessenger บริการเดียวมีการเก็บ 30,000 ถึง 60,000 รายการเชื่อมต่อต่อวัน โดยเป้าหมายที่ถูกจับตาจะถูกปลดออกจากระบบในเวลาประมาณสองสัปดาห์ และรายชื่อผู้ใช้ที่เชื่อมโยงกันทั้งหมดประมาณ 500,000 คนต่อวัน
ในเอกสารแสดงการเข้าดักฟังในระบบ ณ วันที่ 10 มกราคม 2012 แสดงรายการค้นหา 6 รายการ จาก NSA เอง 5 รายการและมี DS-2008 อีกรายการหนึ่งที่น่าจะมาจากหน่วยข่าวกรองของออสเตรเลีย การดักฟังทั้งหมดต้องดักฟังการเชื่อมต่อ 3,257,738 รายการ เข้าดูข้อมูลในทราฟิก 22% ได้รับรายชื่อ 712,366 รายการ โดยแบ่งเป็นข้อมูลอีเมลมาจาก ยาฮู 444,743 รายการ, ฮอตเมล 105,068 รายการ, เฟซบุ๊ก 82,857 รายการ, จีเมล 33,697 รายการ, และผู้ให้บริการอื่น 22,881 รายการ ทั้งหมดเป็นการเก็บในวันเดียว
ข้อมูลจำนวนมหาศาลสร้างปัญหาให้ระบบฐานข้อมูลของ NSA บางครั้งอีเมลของเป้าหมายถูกแฮกเพื่อส่งอีเมลออกไปจำนวนมาก ทำให้ระบบของ NSA ดักจับอีเมลทั้งหมดไว้จนต้องปลดเป้าหมายออกจากระบบเป็นการฉุกเฉิน
รายชื่อเหล่านี้ NSA สามารถดักจับจากจุดดักหลายจุดที่ทำงานอยู่ โดยไม่ต้องได้รับความร่วมมือจากผู้ให้บริการโดยตรง ขณะที่ กูเกิล, ไมโครซอฟท์, และเฟซบุ๊ก ออกมาตอบคำถามของ Washington Post ว่าไม่ได้ให้ความช่วยเหลือใดๆ กับรัฐบาลสหรัฐฯ ในกรณีนี้แล้ว การอาศัยการดักฟังทำให้ระบบของ NSA เก็บอีเมลฉบับเดิมซ้ำไปมาทุกครั้งที่มีผู้เปิดอีเมลดู และบางครั้งก็มีคนส่งอีเมลโดยใส่อีเมลเป้าหมายเอาไว้ด้วย ทำให้ระบบจัดเก็บของ NSA เก็บข้อมูลไปทุกเมลเช่นกัน
Yahoo! เป็นแหล่งใหญ่ของข้อมูลเพราะไม่ได้เข้ารหัสตลอดมา โดยเพิ่งเข้ารหัสเมื่อไม่นานมานี้ ขณะที่แหล่งข่าวของ Washington Post ระบุว่ากูเกิลจงใจเข้ารหัสเว็ลเมลมาตั้งแต่ปี 2010 เพราะรู้ว่า NSA มีโครงการดักฟังนี้
ที่มา - The Washington Post, NSA: Content Acquisition OPtimization