รีวิว MacBook Pro with Retina display 15 นิ้ว (Late 2013)

by inkirby
17 November 2013 - 15:37

หลังจากที่ Apple เปิดตัว MacBook Pro with Retina display ไปตั้งแต่ช่วงกลางปีที่แล้ว ก็เรียกได้ว่าเป็นการเปิดตัวที่สร้างความฮือฮาในเรื่องการจับเอาหน้าจอความละเอียดสูงมาใส่ไว้ในโน้ตบุ๊กที่สามารถหาซื้อได้ง่ายในท้องตลาดเลยทีเดียว จนมาถึงวันนี้ Apple ก็ได้ออกรุ่นอัพเกรดสเปกเป็นรุ่นที่ 3 ซึ่งสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปจากรุ่นที่ 2 นั้นมีหลายอย่าง ตั้งแต่การใช้ CPU รหัส Haswell/Crystalwell, เปลี่ยนจาก SSD ระบบ SATA ไปเป็น PCIe, ใส่พอร์ต Thunderbolt 2, และเพิ่มอายุการใช้งานของแบตเตอรี่


ในที่สุด ผมเองได้มีโอกาสหาซื้อมาใช้งาน ก็เลยตั้งใจจะมาเขียนรีวิวแบ่งปันประสบการณ์ให้ได้อ่านกันครับ

สเปกของเครื่อง

รุ่นที่ผมจะนำมารีวิวในวันนี้เป็นรุ่น ME294TH/A ซึ่งมีสเปกดังนี้ครับ


  • หน้าจอ 15 นิ้ว ความละเอียดที่ 2880x1800
  • CPU: Intel Core i7-4850HQ (Crystalwell) วิ่งที่ความเร็ว 2.3 GHz
  • RAM: 16 GB DDR3L 1600 MHz
  • Integrated GPU: Intel Iris Pro Graphic 5200
  • Discrete GPU: NVIDIA GeForce GT 750M พร้อม 2GB GDDR5
  • SSD: 512 GB PCIe
  • Wireless: IEEE 802.11ac รองรับ 802.11a/b/g/n และ Bluetooth 4.0

ดีไซน์ของตัวเครื่องก็ยังคงเป็นดีไซน์เดิมตามรุ่นพี่ของมันเอง หน้าตาไม่ต่างจากเดิมแม้แต่น้อย ด้านบนเป็นโลโก้ของ Apple ที่สว่างขึ้นเมื่อไฟของจอภาพติดขึ้น

ด้านซ้าย ไล่จากซ้ายไปขวาจะเป็นพอร์ต MagSafe 2 สำหรับอแดปเตอร์ชาร์จไฟขนาด 85 วัตต์ (รุ่น 13 นิ้วจะเป็น 60 วัตต์)​ ถัดมาเป็นพอร์ต Thunderbolt 2 จำนวน 2 พอร์ต ต่อด้วยพอร์ต USB 3.0 และพอร์ตหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร โดยถ้าหากเป็นรุ่น 13 นิ้ว จะมีรูไมค์ 2 รูเล็กๆ เรียงต่อกันจากพอร์ตหูฟังด้วยครับ สำหรับรุ่น 15 นิ้วนั้น ไมค์จะอยู่เหนือลำโพงด้านในตัวเครื่องครับ

ด้านขวา ไล่จากขวาไปซ้ายเช่นกันจะเป็นช่องสำหรับการ์ด SDXC ตามด้วย HDMI และ USB 3.0

เปิดฝาพับขึ้นมา หน้าตาด้านในก็ไม่ต่างอะไรจากรุ่นก่อนเช่นกัน จอภาพก่อนติดฟิล์มนั้นสามารถลดแสงสะท้อนได้ดีพอสมควร (แต่พอติดฟิล์มกันรอยแล้วก็สะท้อนมากอย่างที่เห็นครับ...) คีย์บอร์ดเป็นสีดำมีไฟใต้คีย์บอร์ดให้ Trackpad ขนาดเท่าๆ กับ MacBook รุ่นอื่นๆ (ยกเว้นรุ่น Air 11 นิ้วที่เล็กกว่าชาวบ้านเขา) มีช่องลำโพงขนาบข้างคีย์บอร์ดสองข้าง

เทียบขนาดความหนากับรุ่น 13 นิ้วธรรมดาให้ดูเล็กน้อย จะเห็นว่าบางกว่าพอสมควรครับ

ประสิทธิภาพ

เห็นว่าหลายๆ คนเป็นห่วงเรื่องประสิทธิภาพของการ์ดจอที่ติดมากับเครื่อง ผมจึงลองใช้ Cinebench เพื่อทดสอบประสิทธิภาพของ GT 750M กับ Iris Pro มาให้ดูครับ

ผลคะแนนของ Cinebench ออกมาว่าตัว GT 750M นั้นได้คะแนน OpenGL เกือบสองเท่าของ Iris Pro ครับ (53.57 fps ต่อ 27.80 fps) ส่วนคะแนน CPU ที่ติดมาด้วยนั้น ผมไม่เข้าใจว่าทำไมพอเลือกใช้ GT 750M ถึงได้คะแนนมากกว่าเล็กน้อย (599 ต่อ 577 คะแนน)

ส่วนความเร็วของ SSD ที่เป็น PCIe นั้น ผมใช้ Blackmagic Disk Speed Test เพื่อทดสอบความเร็วในการเขียนและอ่าน ผลคือได้ความเร็วการเขียนและอ่านที่ 707.6 MB/s และ 731.1 MB/s ตามลำดับครับ (HDD ทั่วไปทำความเร็วได้ราว 60-100 MB/s)

แบตเตอรี่

Apple แจ้งไว้บนหน้าเว็บไซต์ว่ารุ่น 15 นิ้วนั้นสามารถใช้งานได้นานสูงสุด 8 ชั่วโมงก็จริง แต่เท่าที่ผมใช้งานเองแล้ว (ใช้งานทั่วไป เข้าเว็บบ้าง เขียนโค้ดบ้าง) ได้อยู่ที่ราวๆ 6-9 ชั่วโมงครับ ค่อนข้างแกว่งซึ่งขึ้นอยู่กับโปรแกรมและเว็บที่เปิดใช้งานอยู่ แต่ก็ถือว่าประทับใจครับ

Windows และเกม

Windows ที่ผมใช้อยู่คือ Windows 8.1 ซึ่งสามารถใช้งานได้กับจอภาพนี้ได้ตามปกติ โดยระบบจะตั้งเป็น HiDPI อัตโนมัติ ซึ่งโปรแกรมทั่วๆ ไปก็ขยายหน้าจอเองและได้ภาพคมชัดเป็นปกติครับ แต่จะมีบางโปรแกรมเช่น Google Chrome ที่คิดว่าคงยังไม่รองรับ HiDPI และมีอาการภาพแตกจนเห็นได้ชัดครับ

ผมแบ่งพื้นที่ลง Windows 8.1 ไว้เพื่อการเล่นเกมโดยเฉพาะครับ (ฮา) เกมเท่าที่ลองเล่น ถ้าเป็นเกมเก่าไม่มากที่ออกมาช่วง 2-3 ปีที่แล้ว ส่วนใหญ่ตั้งความละเอียดที่ 2880x1800 ก็เล่นได้ที่ 30-60 fps ครับ (ขึ้นอยู่กับการตั้งค่ารายละเอียดอื่นๆ) ส่วนเกมออกใหม่ๆ อาจจะพอเล่นที่ 2880x1800 ได้บ้าง แต่แนะนำว่าให้ลองลดความละเอียดลง เช่น 1920x1200 หรือ 1680x1050 ก็จะได้ความลื่นไหลเพิ่มขึ้นมาอีกเยอะครับ (2880x1800 ต่างกับ 1680x1050 ตั้ง 3 ล้านพิกเซลเชียวนะครับ!)

อ้อ แต่ผมมีเรื่องอยากบอกอยู่ 2 เรื่องครับ คือบน Windows นั้นเราไม่สามารถตั้งความละเอียด 1440x900 ได้ (ซึ่งมันควรจะได้ เพราะมันคือการตั้งความละเอียดให้เป็นจอดั้งเดิมก่อนเป็น Retina display) และถ้าใช้รุ่นที่เป็นการ์ดจอ NVIDIA แบบผม บน Windows จะมองไม่เห็น Iris Pro ครับ…

เสียงรบกวนและความร้อน

ถึงแม้ Apple จะบอกว่า ในเครื่องจะมีพัดลมที่ออกแบบมาเป็นพิเศษจะช่วยลดเสียงรบกวนจากพัดลมที่ทำงานอยู่ได้ และมีช่องระบายอากาศที่ดึงจากข้างตัวเครื่องจะช่วยเรื่องความร้อนได้ดี แต่จากการใช้งาน ผมรู้สึกว่าเสียงพัดลมนั้นเงียบลงจริงแต่ไม่มาก พัดลมในรุ่นเก่ามันได้ยินเสียงชัดเวลาดัง แต่ตัวพัดลมใหม่นี้เสียงจะออกแนวทุ้มๆ อู้ๆ ซึ่งก็ยังดังอยู่บ้าง เรื่องความร้อนเวลาใช้งานหนักๆ มันก็ยังร้อนที่ตัวเครื่องอยู่ดี โดยเฉพาะบริเวณคีย์บอร์ดช่วงบนๆ และขอบช่องระบายอากาศบริเวณบานพับ การวางมือนานๆ นั้นทำได้ยาก แต่ข้อดีของการใช้อะลูมิเนียมเป็นโครงสร้างหลักคือมันหายร้อนเร็วเมื่อเครื่องเลิกทำงานหรือเล่นเกมหนักๆ ครับ

โลกของจอความละเอียดสูงยังไม่ราบรื่นนัก

แม้ว่าตัวระบบปฏิบัติการในปัจจุบันจะถูกปรับแต่งมาให้รองรับกับหน้าจอความละเอียดสูงแล้ว ไม่ว่าจะเป็น OS X เองหรือ Windows ก็ตาม แต่ก็ใช่ว่าทุกเว็บไซต์หรือทุกโปรแกรมจะรองรับหน้าจอความละเอียดสูงทั้งหมด สิ่งที่ผมเจอคือบางเว็บไซต์หรือโปรแกรมนั้นอาจมองดูแย่กว่าการใช้งานบนจอความละเอียดปกติด้วยซ้ำ ซึ่งในจุดนี้คงต้องรอให้เว็บไซต์หรือโปรแกรมเหล่านั้นมีการปรับปรุงให้รองรับหน้าจอความละเอียดสูงเสียก่อนครับ (ส่วนตัวคาดว่าน่าจะรองรับกันมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะอุปกรณ์ส่วนใหญ่ในปัจจุบันก็มีจอที่มีความละเอียดสูงขึ้นเรื่อยๆ ครับ)

สรุป

ชอบ

  • จอคมชัดสมราคาคุย
  • สเปกดีแต่น้ำหนักเบา
  • SSD แรงสะใจ
  • ลำโพงเสียงโอเค ไมค์ตัดเสียงรบกวนได้พอใช้

ไม่ชอบ

  • พัดลมยังคงดัง แม้จะลดลงไปบ้าง
  • เวลาเครื่องร้อนจะรู้สึกได้ง่ายมาก

แม้ Apple เองจะเป็นผู้นำเอาจอภาพความละเอียดสูงมาใส่ไว้ในโน้ตบุ๊กเป็นยี่ห้อแรก แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่ายี่ห้ออื่นๆ นั้นจะทำบ้างไม่ได้ (อย่างเช่น Chromebook Pixel ที่ความละเอียดจอภาพสูงกว่าเสียอีก) และถึงแม้จะมีหลายๆ ยี่ห้อเริ่มหันมาทำโน้ตบุ๊กที่มีจอภาพความละเอียดสูงแล้ว ก็ยังบอกไม่ได้ว่าเหล่าเว็บไซต์และแอพพลิเคชั่นต่างๆ จะรองรับกันสมบูรณ์เมื่อใด

สำหรับเจ้าเครื่องนี้ ผมมองว่ามันเป็นโน้ตบุ๊กที่ดีที่สุดเท่าที่ Apple เคยทำมา ด้วยภาพรวมของการออกแบบ สเปก และฟีเจอร์ต่างๆ ที่จับมาใส่เอาไว้ด้วยกัน ทำให้กลายเป็นอุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพสำหรับใช้งานได้หลากหลายจริงๆ แม้จะยังมีราคาค่อนข้างสูงก็ตามครับ

Blognone Jobs Premium