ต่อจาก พาทัวร์งาน REMIX 07 ที่สิงคโปร์ ตอนแรก
session ต่อมาจะเป็นเรื่องอนาคตของวงการสื่อ มาดูว่าไมโครซอฟท์มองตลาดโฆษณาออนไลน์อย่างไร จากนั้นพาไปดูฟีเจอร์ใหม่ใน Visual Studio 2008 "Orcas" และปิดท้ายด้วยมุมมองจากบล็อกเกอร์สิงคโปร์
โดย Chris Schaumann, Country Sales Manager - Singapore, Microsoft Digital Advertising Solutions
ผมอยากฟังความเห็นของคนในอุตสาหกรรม (โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศในแถบๆ นี้) ว่ามองเรื่องสื่อดิจิทัลอย่างไร จึงเลือกเข้าห้องนี้ และก็ไม่ผิดหวัง
หัวข้อแรกที่ Chris พูดถึงคือ Future of Advertising โดยเขาบอกว่าสิ่งสำคัญที่สุดที่สื่อดิจิทัลเข้ามาเปลี่ยนแปลงวงการสื่อทั้งมวลก็คือ "timeshift" อธิบายง่ายๆ มันก็คือการทำให้การรับข้อมูลจากสื่อไม่ขึ้นกับ "เวลา" อีกต่อไป อุปกรณ์อย่าง TiVo หรือการดาวน์โหลดข้อมูลผ่าน BitTorrent ทำให้พฤติกรรมการเฝ้ารอดูรายการทีวีตามเวลาที่กำหนดกลายเป็นเรื่องล้าสมัย ในขณะเดียวกันวงการโฆษณาก็ถึงจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ เมื่อคนดูสามารถ "กดข้าม" โฆษณาได้
ใน session นี้มีเรื่องสถิติค่อนข้างเยอะ สถิติชุดแรกที่ Chris ยกมาคือตัวเลขผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตรอบโลก
ผลการสำรวจพบว่าอินเทอร์เน็ตเป็นสื่อที่ช่วยให้ค้นหาข้อมูลของผลิตภัณฑ์หรือบริการได้ดีที่สุด
ในแต่ละวัน เวลาที่ผู้ตอบแบบสอบถามใช้ในการออนไลน์ ก็พอฟัดเหวี่ยงกับใช้ดูทีวี (แถบสีส้ม) แต่จะเห็นว่าอัตราการลงโฆษณาในอินเทอร์เน็ตกับในทีวีต่างกันแบบฟ้ากับเหว (แถบสีฟ้า)
Chris บอกว่านี่เป็นโอกาสธุรกิจที่ว่างอยู่
มูลค่าตลาดซอฟต์แวร์กับตลาดโฆษณาก็ต่างกันแบบเห็นได้ชัด แต่จุดร่วมของทั้งสองอุตสาหกรรมอยู่ที่การโฆษณาออนไลน์ ซึ่งมีมูลค่า 17 พันล้านดอลลาร์ไปปี 2005 และตัวเลขนี้จะขึ้นไปเป็น 35 พันล้านในปี 2008 คิดเป็น 7% ของอุตสาหกรรมรวม
ไมโครซอฟท์เองก็จริงจังกับตลาดนี้ จึงได้เปิด Microsoft Digital Advertising Solutions (ซึ่งเป็นชื่อใหม่ของ MSN เดิม) มาเพื่อจับตลาดนี้โดยเฉพาะ นอกจาก MSN/Windows Live แล้วก็ยังรับผิดชอบโครงการอื่นๆ เช่น Zune หรือ Xbox Live ด้วย
ถัดจากนั้นเค้าก็ยกกรณีศึกษาของจริงมาให้ดู อันแรกเป็นการโฆษณาในเกมของบริษัท Massive ซึ่งเกมใน Xbox หลายเกมได้นำไปใช้แล้ว ค่ายเกมดังๆ ที่เป็นพันธมิตรก็อย่างเช่น Ubisoft (Rainbow Six Vegas), 2K Sports, Atari เป็นต้น
ตัวอย่างที่สองคือ MSN in Concert ที่จับตลาดคนดูคอนเสิร์ตโดยเฉพาะ ทั้งแบบสดและแห้ง (ผมเข้าไปดูในเว็บ MSN in Concert เห็นมีข้อมูลศิลปินเป็นภาษาไทยแล้วด้วย) โครงการใหญ่ของ MSN in Concert คือคอนเสิร์ต Live Earth ซึ่งเป็นคอนเสิร์ตเพื่อสิ่งแวดล้อมโลกต่อจาก Live 8 โดยจะจัดพร้อมกัน 7 ทวีปทั่วโลกในวันที่ 7 กรกฎาคมนี้ (7/7/7) ซึ่ง MSN ได้เป็นสปอนเซอร์หลัก
ตัวอย่างสุดท้ายคือแคมเปญ Kimewaza ที่จัดร่วมกับ Nike ญี่ปุ่น เหตุผลของทาง Nike คือสโลแกน "Just Do It" เริ่มจะสิ้นมนต์ขลังที่มีมาแต่เดิม Nike จึงอยากจะตอกย้ำสโลแกนนี้ใหม่โดยใช้วิธีทางออนไลน์ จึงออกมาเป็นแคมเปญ Kimewaza (แปลว่า "killer move") ให้ทางบ้านส่งคลิปแอคชันของตัวเองเข้ามา และคลิปที่ได้รับเลือกจะกลายเป็นโฆษณา "Just Do It" อันใหม่ของ Nike
Kimewaza จัดร่วมกับ Microsoft Digital Advertising Solutions ใช้เวลา 42 วันมีคนส่งผลงานเข้ามา 400 ชิ้น และมีผู้เข้ามาชมคลิปกว่า 230,000 ก็ถือเป็น buzzword ชั้นดี ใครอยากดูโฆษณาที่ตัดต่อคลิปทางบ้านมาฉายทีวีก็ดูได้จาก หน้า Kimewaza (ข้อมูลที่ Microsoft Digital Advertising Solutions)
โดย Steve Marx, Technical Evangelist, Microsoft Corporation
อันนี้น่าจะถูกใจแฟนๆ ขา developer มากที่สุด เพราะผมไปตามติดดูว่ามีอะไรใหม่ๆ เจ๋งๆ ใน Visual Studio "Orcas" บ้าง ซึ่งก็ไม่ผิดหวัง
ออกตัวไว้ก่อนว่าผมไม่ใช่นักพัฒนาสาย .NET อาจจะเขียนอธิบายได้ไม่รู้เรื่องเท่าไร ถ้าผิดยังไงรบกวนแก้ด้วยนะครับ
อย่างแรกคือ Visual Web Developer ที่ผสานกับ ASP.NET AJAX (Atlas เดิม) อย่างเต็มที่ ฟีเจอร์ที่เจ๋งคือสามารถลาก stylesheet แบบที่เป็น inline (ฝังในไฟล์ HTML) ออกมาเป็น .css ได้โดยตรง
เดโมที่โชว์ใช้พลังของคอนโทรลใหม่ 2 ตัวที่มาใน ASP.NET 3.5 ได้แก่ asp:ListView และ asp:DataPager (รายละเอียด)
ที่เคยได้ยินมานานแล้วแต่เพิ่งมาเห็นด้วยตาตัวเองคือ LINQ (Language Integrated Query) ซึ่งเป็นการเพิ่มวิธี query หาข้อมูลคล้ายๆ กับคำสั่ง SQL
ใครนึกหน้าตาไม่ออกลองดูตัวอย่าง (โค้ดมาจาก Wikipedia)
var q = from o in db.Orders, c in db.Customers
where o.Quality == "200" && (o.CustomerID == c.CustomerID)
select new { o.DueDate, c.CompanyName, c.ItemID, c.ItemName };
ลองนึกภาพตามว่าถ้า LINQ แพร่หลาย วิธีการเขียนโปรแกรมแบบเดิมๆ โดยเฉพาะการวน while หรือ for loop เพื่อ select ข้อมูลบางอย่างออกมาจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างแน่นอน
เมื่อรวม LINQ กับฟีเจอร์ทำนองเดียวกับ Active Record (แบบเดียวกับของ Ruby on Rails) ก็จะได้ความสามารถที่ทรงพลังยิ่งขึ้น จากเดิมที่เราต้อง join table เข้าด้วยกันก่อนค่อยมา query หาข้อมูล ถ้าใช้ LINQ ค้นหาข้อมูลจาก 2 table ขั้นตอนที่ว่ามาจะถูกทำให้เองโดยอัตโนมัติเสมือนว่า table ถูก join เข้าด้วยกัน
ถัดมาเป็นเรื่องของ ASP.NET AJAX ซึ่งเนื้อหาจะซ้ำกับที่พูดในงาน MSDN Seminar ที่เพิ่งผ่านมาซะเยอะ คร่าวๆ มีหัวข้อดังนี้
session สุดท้ายก่อนกลับเมืองไทย เข้าไปฟังบรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านเว็บของภูมิภาคเค้าคุยกัน ที่จดมาก็มีประเด็นสั้นๆ ดังนี้
ผมได้ติดต่อกับ Panelist สองคนในวงสนทนาเพื่อขอสัมภาษณ์ลง Blognone คอยติดตามอ่านได้
สุดท้ายขอขอบคุณไมโครซอฟท์ประเทศไทยอีกครั้งที่ให้โอกาสไปเปิดหูเปิดตา พบกันคราวหน้าเมื่อชาติต้องการครับ