วันนี้บริษัทไฟเบอร์ออปติกส์ TE Connectivity จัดงานสัมมนาที่เซ็นทรัลลาดพร้าว หนึ่งในแขกของเวทีสัมมนามี ดร.ศักดิ์ เสกขุนทด ผู้อำนวยการสำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (EGA) ซึ่งเปรียบเสมือนหน่วยงาน CIO ของรัฐบาลไทย ดร.ศักดิ์ ได้ให้ข้อมูลเรื่องเซิร์ฟเวอร์ของหน่วยงานภาครัฐไทยดังนี้ครับ
- ศูนย์ราชการที่ ถ.แจ้งวัฒนะ มีศูนย์ข้อมูล (data center) ของหน่วยงานรัฐต่างๆ รวมกัน 23 ศูนย์ มีเซิร์ฟเวอร์มากกว่า 400 ตัว ทุกศูนย์แยกกันบริหารอย่างอิสระ งบประมาณต่างคนต่างขอ ทำให้งบของแต่ละศูนย์อาจน้อยและบริหารจัดการได้ไม่ดีนัก
- EGA พยายามเข้ามาผลักดันให้เกิดการบูรณาการกัน ซึ่งนโยบายของกระทรวงไอซีทีก็ไปในทิศทางนี้เช่นกัน โดยโครงการ "ศูนย์ข้อมูลกลางของภาครัฐ" จะรวมศูนย์ข้อมูลทั้งหมดเป็นแห่งเดียว และน่าจะอยู่ที่ CAT
- การมีศูนย์ข้อมูลกลางของภาครัฐจะช่วยให้บริหารจัดการง่ายขึ้น และเชื่อมต่อข้อมูลระหว่างหน่วยงานได้ดีขึ้นด้วย เพราะตอนนี้ความต้องการส่งข้อมูลระหว่างหน่วยงานภาครัฐก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากเดิมลิงก์แค่ไม่กี่ Mbps ก็ขึ้นมาเป็นหลักร้อย Mbps แล้ว และถ้าเป็นงานที่มีข้อมูลเยอะๆ อย่างแผนที่ดาวเทียม GIS ก็คงต้องมีลิงก์ระดับ Gbps เชื่อมต่อ
- ระบบสารสนเทศของหน่วยงานภาครัฐตอนนี้ ที่ใหญ่มากๆ มีประมาณ 20 ระบบ เช่น ระบบประกันสุขภาพ ฐานข้อมูลของกระทรวงมหาดไทย ระบบของกระทรวงการคลัง ต่อไปก็จะผลักดันให้รวมศูนย์กันให้หมด แต่ก็ต้องค่อยเป็นค่อยไป
- ปัญหาเรื่องม็อบปิดศูนย์ราชการตอนนี้ ทำให้หลายหน่วยงานต้องสำเนาข้อมูลออกมาทำงานกันข้างนอก ตรงนี้ก็เป็นเหตุจำเป็นให้ต้องมีศูนย์สำรองข้อมูลของหน่วยงานรัฐ (backup site) และศูนย์กู้ข้อมูลช่วงเวลาฉุกเฉิน (disaster recovery) ด้วย
- ปัญหาเรื่องการบริหารจัดการข้อมูลภาครัฐตอนนี้ สิ่งสำคัญคือข้อมูลส่วนตัวของประชาชน ซึ่งติดอยู่ที่ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ที่รอมาเป็นสิบปีแล้วยังไม่ผ่านสภาสักที