และแล้วก็มาถึงโทรศัพท์รุ่นปลายปีที่หลายคนรอคอยอย่างตระกูล Galaxy Note ที่รุ่นนี้เป็นรุ่นที่ 3 เข้าไปแล้ว และรุ่นนี้ก็เป็นรุ่นที่ซัมซุงตั้งใจให้มันเป็นของใหม่สำหรับตระกูล Galaxy ด้วยการออกแบบตัวเครื่องแบบใหม่ที่ดูแล้วมันจะลดความรู้สึกที่เป็นพลาสติกลง และดูดีขึ้นกว่าเดิม
Galaxy Note 3 เครื่องนี้ ซัมซุงส่งมาให้ผมเล่นนานราวๆ เดือนกว่าครับ ประสบการณ์ตลอดหนึ่งเดือนที่ผมได้มานั้น จะมีอะไรบ้าง ลองพิจารณาดูได้เลยครับ
Galaxy Note เดิมมันเป็นมือถือขนาดใหญ่อยู่แล้ว แต่กับ Note 3 นั้น เอาจริงๆ ขนาดมันก็ไม่ได้ใหญ่กว่า Note 2 ครับ แค่รู้สึกว่าตัวเครื่องยาวกว่าเดิมนิดๆ หน่อยๆ ส่วนมิตินอกนั้น จะเหมือน Galaxy S4 แบบไม่ผิดเพี้ยนครับ
ด้านหน้าตัวเครื่องประกอบไปด้วยเซ็นเซอร์ปรับแสง ลำโพงหลัก ไฟ Notification กล้องหน้า หน้าจอขนาด 5.7 นิ้ว ปุ่ม Home และปุ่มคำสั่ง Menu และ Back ซึ่งสองปุ่มนี้ "สามารถใช้ S Pen กดคำสั่งได้แบบ Note 8.0 ด้วยครับ"
ด้านหลังประกอบไปด้วย กล้องหลักขนาด 13 ล้านพิกเซล ไฟแฟลช และช่องเสียบ S Pen ด้านล่างครับ
ขอบบนเป็นที่อยู่ของพอร์ตหูฟัง และ IR Blaster
ขอบล่างประกอบไปด้วยลำโพงหลัก พอร์ต Micro USB 3.0 ซึ่งสามารถใช้สาย USB 2.0 ได้โดยเสียบตรงพอร์ตข้างซ้าย และไมโครโฟนหลัก
ขอบซ้ายเป็นที่อยู่ของปุ่มเปิด/ปิดเครื่อง
ขอบขวาเป็นที่อยู่ของปุ่มปรับเสียง
Galaxy Note 3 เครื่องนี้มาพร้อมกับ Android 4.3 ครับ แต่ครอบทับด้วย TouchWiz Nature UX 2.0 แบบเดียวกับ Galaxy S4 เป๊ะ ดังนั้นในแง่การใช้งานต่างๆ จึงไม่ต่างจาก Galaxy S4 มากนัก เพราะความสามารถที่มีอยู่บน Galaxy S4 นั้น ใน Note 3 เรียกได้ว่ามีครบเช่นกัน เว้นเสียแต่ว่าบางความสามารถถูกถอดออกไป และแทนที่ด้วยความสามารถของ Note แทน
ความเร็วของ S Pen นั้น ในซอฟต์แวร์ตัวนี้ถือว่าปรับได้ค่อนข้างคงที่แล้ว เพราะปากกาสามารถใช้งานได้เร็วเท่ากับ Note 8.0 เขียนได้ไวตามมือของผู้ใช้ และไม่ค่อยมีจังหวะหน่วงของเส้นให้เห็นมากเหมือนตอน Note 1 และ Note 2 แล้วครับ
ส่วนลูกเล่นอื่นๆ นั้น เรียกได้ว่าแทบจะยกความสามารถของ Galaxy S4 มาครบ ดังนั้นคงไม่ต้องรีรันซ้ำอีกครั้งนะครับ
กล้องหลักของ Note 3 นั้น แทบจะยกความสามารถของ Galaxy S4 มาอีกแล้ว สามารถถ่ายภาพได้เร็วพอๆ กับ Galaxy S4 และแทบไม่เห็นความแตกต่างเมื่อเทียบกับ Galaxy S4 เลย
แต่ที่ปรับปรุงให้มีดีขึ้น คงจะมีแค่เรื่องของการถ่ายภาพแสงน้อย ที่ Galaxy S4 ยังทำได้ไม่ดีเท่านั่นเองครับ
ป.ล. รีวิวรอบนี้ผมไม่ได้ออกไปถ่ายรูปมากนัก ด้วยเหตุความไม่สงบของบ้านเมือง จึงต้องขออภัยล่วงหน้ามา ณ ที่นี้ด้วยครับ
หลายคนที่เห็น Galaxy Note เชื่อว่าคนที่ไม่เคยใช้จะพูดได้ว่า มันใหญ่ไปหรือเปล่า จะถือมือเดียวไหวหรอ คำตอบก็คือ มันสามารถใช้งานได้เหมือนโทรศัพท์ปกติเครื่องหนึ่งเลยครับ ขนาดมันไม่ได้ใหญ่เวอร์เหมือน Xperia Z Ultra ที่แทบจะใช้งานมือเดียวไม่ได้ แต่ Note 3 สามารถใช้งานด้วยมือเดียวได้แบบไม่มีปัญหามากนัก
ข้อติของ Note 3 คงมีแค่สองเรื่อง คือช่องใส่ S Pen ค่อนข้างหลวมง่าย บางครั้งตัวเครื่องรัน Air Command เองโดยอัตโนมัติ ในขณะที่ยังไม่ได้ถอด S Pen ออกมา และอีกเรื่องคือความสามารถที่ซ้ำซากจำเจเกินไป ถ้ามองในฐานะคนที่ใช้ Galaxy S4 มาก่อน อาจจะเป็นข้อดีตรงที่ไม่ต้องปรับตัวมาก เพราะความสามารถพื้นฐานค่อนข้างเหมือนกัน แต่ในมุมมองของคนที่เคยอ่านรีวิว S4 มา แต่มาใช้ Note 3 เป็นเครื่องแรก อาจจะอุทานได้ว่า Note 3 เนี่ย ความสามารถไม่ได้หนีไปกว่า S4 เลยด้วยซ้ำไปครับ
จุดที่แย่ที่สุดของ Galaxy Note 3 หลายๆ คนคงจะทราบกันมาแล้วก็คือ ความสามารถระหว่างรุ่นไม่เท่ากัน คือต้องบอกว่ารุ่นที่ขายในบ้านเราเป็นรุ่น Exynos (SM-N900) มีฟีเจอร์ที่ผิดคาดไปจากรุ่น Snapdragon (SM-N9005) นั่นคือมันไม่สามารถถ่ายวิดีโอ 4K ได้ ความอิ่มของสี Snapdragon ทำได้ดีกว่า และเรื่องการรองรับเครือข่าย LTE ที่ Exynos ไม่สามารถทำได้ แต่ในข้อเสียมันก็มีข้อดีอยู่บ้าง นั่นก็คือ Exynos เป็น Octa Core แบบ big.Little ใช้ GPU ที่ดีกว่า Adreno 330 และมีชิปเสียงที่ดีกว่า ดังนั้นอาจจะมองได้ว่าข้อดีเหล่านี้ สามารถทดแทนความสามารถที่เสียไปของรุ่น Snapdragon ได้บ้างไม่มากก็น้อยครับ
ส่วนเรื่อง Benchmark สำหรับ Note 3 ด้วยข่าวที่เราเห็นกันแล้วอย่างการโกงคะแนนกัน ดังนั้นจึงขออนุญาตไม่ทดสอบในเรื่องนี้นะครับ
แบตเตอรี่ของ Note 3 มีขนาด 3200 มิลลิแอมป์ ใช้งานแบบสบายๆ แทบไม่อยากเชื่อว่าอยู่ได้นานวันเกือบสองวันเลยครับ แต่ถ้าเล่นเกมติดๆ กัน ถอดเช้าเย็นก็ต้องเสียบชาร์จแล้วครับ ดังนั้นอาจจะมองได้ว่า มันอาจจะดูใช้งานได้วันต่อวันเหมือนเดิมนั่นแหละครับ แต่ถ้าทิ้งไว้เฉยๆ แบบไม่ได้ใช้อะไร ก็สามารถใช้งานได้นานพอตัวเหมือนกัน ซึ่งข้อนี้เป็นข้อดีที่ซัมซุงใช้เทคโนโลยีใหม่จาก Qualcomm นั่นเองครับ
ผมเชื่อว่า คนเมือง เห็นว่าทรูมี 4G ก็อยากใช้ 4G กัน แต่จากประสบการณ์ที่ผมเคยลอง 4G มา บอกได้คำเดียวว่า "ยังไม่ประทับใจเท่าที่ควร" แต่กับ 3G ผมเชื่อว่า Galaxy Note 3 เครื่องนี้ก็ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่เท่าไหร่ สามารถใช้งานได้แบบชิลๆ แบบไม่ต้องแคร์ 4G ก็อยู่ได้ และด้วยลูกเล่นที่แทบไม่หนีจาก Galaxy S4 จึงทำให้ยังมีความง่ายในตัวพอสมควร ซึ่งถ้าใครอยากได้โทรศัพท์จอใหญ่ๆ แต่ไม่ได้ใหญ่เวอร์มากนัก Galaxy Note 3 ก็ถือว่าเป็นตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจพอตัวครับ
ป.ล. จริงๆ ซัมซุงไทยให้ Galaxy Note 10.1 (2014 Edition) มาให้เล่นพร้อมกันด้วย และตั้งใจว่าจะเขียนรวมกัน แต่กลัวว่ามันจะยาวเกินไป ดังนั้นรีวิวนี้ขอรีวิวเฉพาะ Note 3 ไปก่อนนะครับ ^^