หนังสือพิมพ์ Washington Post เปิดเผยข้อมูลจากเอกสารชิ้นใหม่ ระบุถึงงบประมาณของงานวิจัย "Penetrating Hard Targets" ที่ทำสัญญาลับกับห้องแล็บฟิสิกส์ของมหาวิทยาลัยแมริแลนด์มูลค่า 79.7 ล้านดอลลาร์
หาก NSA สามารถพัฒนาคอมพิวเตอร์ควันตัมสำเร็จจนใช้งานได้จริง ก้าวต่อไปคือการรันขั้นตอนวิธีของ Shor ที่จะแยกตัวประกอบเฉพาะของตัวเลขออกมาได้อย่างรวดเร็ว โดยกระบวนการแยกตัวประกอบที่ใช้เวลานานเป็นการป้องกันสำคัญของการเข้ารหัส RSA ที่นิยมใช้งานกันโดยทั่วไปทุกวันนี้
Seth Lloyd ผู้เชี่ยวชาญด้านกลศาสตร์ควันตัมจาก MIT ระบุว่าการที่ NSA ลงทุนกับเทคโนโลยีควันตัมไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะสหรัฐฯ ต้องตามเทคโนโลยีของต่างชาติให้ทัน ขณะที่ Scott Aaronson ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านไฟฟ้าและคอมพิวเตอร์ของ MIT ระบุว่าคงยากที่ NSA จะสามารถพัฒนาคอมพิวเตอร์ควันตัมให้ก้าวหน้ากว่าโลกภายนอกโดยไม่มีใครรับรู้
ทุกวันนี้ตัวเลขที่มีการแยกตัวประกอบเฉพาะสำเร็จขนาดใหญ่ที่สุดคือเลขขนาด 768 บิต และใช้เวลารวม 2 ปี ขณะที่การเข้ารหัส RSA ที่ได้รับความนิยมทุกวันนี้มักมีขนาด 1024 บิตไปถึง 2048 บิต และการสร้างคอมพิวเตอร์ควันตัมที่มีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ เป็นเรื่องที่ทำได้ยากกว่าคอมพิวเตอร์ไฟฟ้าทุกวันนี้มาก คอมพิวเตอร์ของ D-Wave ที่วางขายทุกวันนี้มีขนาด 512 qubit และการออกแบบที่ต่างออกไปทำให้ไม่สามารถรันขั้นตอนวิธีของ Shor ได้
ที่มา - Washington Post
"Penetrating Hard Targets" & "Owning the Net": NSA Quantum Computing Projects to Crack Encryption by LeakSourceNews