จากความคืบหน้าจากเมื่อประมาณหกเดือนก่อน ที่ว่ากระทรวงยุติธรรมยื่นข้อเสนอเพื่อแก้ไขความเสียหายจากการผูกขาดอีบุ๊กของแอปเปิล โดยสาระสำคัญอันหนึ่งคือจะต้องให้แอปเปิลต้องจ้างเจ้าหน้าที่ตรวจสอบการผูกขาดและต้องอนุญาตให้ศาลเข้ามาตรวจสอบนโยบายต่อต้านการผูกขาดของแอปเปิลอีกด้วย กลับมามีประเด็นกันหน่อยแล้วครับ เมื่อแอปเปิลอุทธรณ์ไม่ผ่าน
เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ศาลแขวงเลือกให้คุณ Michael Bromwichไปปฏิบัติหน้าที่ตรวจสอบการผูกขาดอีบุ๊กภายในบริษัทแอปเปิล
ประเด็นมีอยู่ว่า เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา แอปเปิลได้ร้องต่อศาลว่า คุณ Bromwich ได้ดำเนินการสืบสวนอย่างสะเปะสะปะ รบกวนการดำเนินธุรกิจ(โดยการสัมภาษณ์ผู้บริหารระดับสูงหลายคน) พยายามเข้าถึงเอกสารที่นอกเหนือขอบเขตการทำงาน สุ่มเสี่ยงต่อการเปิดเผยข้อมูลอันเป็นความลับ และอาจจะทำให้เกิดความเสียหายแก่แอปเปิลมากจนไม่สามารถทดแทนได้แม้ว่าแอปเปิลจะชนะคดีก็ตาม และขอให้ยุติการตรวจสอบจากบุคคลภายนอกเสีย
ศาลชั้นต้นได้ปฏิเสธคำร้องในเดือนมกราคม โดยให้เหตุผลว่า ท่าที่แอปเปิลมีต่อผู้ตรวจสอบภายนอกได้ยิ่งเน้นให้เห็นถึงความจำเป็นในใช้ผู้ตรวจสอบภายนอก ในเมื่อผลคำร้องต่อศาลชั้นต้นไม่เป็นผล แอปเปิลจึงอุทธรณ์ไปที่ศาลอุทธรณ์สหรัฐ
ซึ่งวันนี้ผลตัดสินออกมาว่า ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ให้แอปเปิลยังต้องจ้าง Bromwich เพื่อทำหน้าที่ต่อ เพียงแต่อนุญาตให้ Bromwich ตรวจสอบนโยบายในระดับบริษัทและตรวจสอบความพยายามของบริษัทในการกระจายนโยบายไปสู่พนักงานอย่างมีประสิทธิภาพ แต่ไม่อนุญาตให้ Bromwich ไปสอบสวนระดับพนักงานว่าได้ปฏิบัติตามกฎหมายต่อต้านการผูกขาดหรือไม่
ในทางเทคนิคแล้ว แอปเปิลยังมีทางเลือกโดยการอุทธรณ์ไปยังศาลสูงสหรัฐได้อีกเพื่อจะลุ้นให้ลดระดับความเข้มข้นในการบังคับใช้การตวจสอบภายในได้อีก ซึ่งนั้นก็จะทำให้มหากาพย์อีบุ๊กยังไม่จบง่าย และทำให้บริษัทจ่ายเงินกรณีเยียวยาความเสียหายคดีอีบุ๊กช้าลงไปอีก ซึ่งวงเงินอยู่ที่ 840 ล้านเหรียญ
ป.ล. สำหรับค่าใช้จ่ายที่ทางบริษัทที่ปรึกษา Bromwich Group เรียกเก็บจากแอปเปิลจากการดำเนินการไปเพียงสองสัปดาห์แรกของการเข้าไปตรวจสอบก็แพงหูฉี่ อยู่ที่ 138,432.40 เหรียญ ตกชั่วโมงละ 1700 เหรียญ (หรือประมาณวินาทีละ 15 บาท)