หนังสือพิมพ์ The New York Times สัมภาษณ์ Brian Krebs เจ้าของบล็อก Krebs on Security ที่เป็นแหล่งข้อมูลหลักของการโจมตีครั้งสำคัญหลายครั้ง เขาไม่ได้มีวุฒิด้านคอมพิวเตอร์โดยตรง แต่ได้ทำงานในห้องจดหมายที่หนังสือพิมพ์ The Washington Post มาตั้งแต่ปี 1995 และเริ่มสนใจที่จะเขียนบทความด้านเทคโนโลยีมาตั้งแต่ปี 1998
จากนั้นในปี 2001 คอมพิวเตอร์ของเขาติดเวิร์มจึงเป็นจุดเริ่มต้นของความสนใจในโลกใต้ดินของคอมพิวเตอร์ เขาเริ่มมีบล็อกด้านความปลอดภัยของตัวเองบน Washington Post ในปี 2005 หลังจากนั้นเขาเริ่มเข้าไปอ่านฟอรั่มของแฮกเกอร์, เรียนเขียนโปรแกรม, และเรียนภาษารัสเซียด้วยตัวเอง
ทุกวันนี้เขารู้จักกับกลุ่มแฮกเกอร์รัสเซียหลายกลุ่มโดยตรง หลายครั้งที่กลุ่มเหล่านี้ส่งข้อมูลของฝ่ายตรงข้ามมาให้กับเขาเพื่อกำจัดคู่แข่ง หลายครั้งพยายามล็อบบี้เขาไม่ให้รายงานเรื่องของกลุ่มตัวเอง กระบวนการสืบเพื่อเขียนข่าวของเขาทำให้บรรณาธิการค่อนข้างกังวลเพราะเขาสัมพันธ์กับกลุ่มอาชญากรรมโดยตรง
ในปี 2009 Washington Post ขอให้เขาขยายประเด็นข่าวบนบล็อกของเขาให้ครอบคลุมนโยบายไอที เขาไม่ยอมเปลี่ยนและลาออกจากงานมาตั้งบล็อก Krebs on Security ของตัวเอง
กลุ่มแฮกเกอร์หลายกลุ่มพยายามแข่งกัน "ล้อเล่น" กับ Krebs ด้วยวิธีการแรงๆ หลายอย่าง มีคนหนึ่งปลอมตัวเป็นเขาเพื่อเปิดวงเงินกู้ 20,000 ดอลลาร์ บางคนแฮกบัตรเครดิตมาบริจาคเงินนับพันดอลลาร์เข้าบัญชี บางกลุ่มช่วยจ่ายค่าเคเบิลทีวีให้เขาด้วยบัตรเครดิตที่ถูกขโมยมา วันหนึ่งเขาถูกแกล้งรายงานว่ามีการฆาตกรรมในบ้านทำให้ถูกหน่วยสวาทบุกบ้าน หลังจากนั้นไม่กี่เดือนมีซองเฮโรอีนส่งมาที่บ้านของเขา
เมื่อเดือนธันวาที่ผ่านมา เขามีแหล่งข่าวจากธนาคารระบุแจ้งว่าได้ซื้อหมายเลขบัตรเครดิตล็อตใหญ่จากกลุ่มแฮกเกอร์ และพบว่าบัตรเครดิตทั้งหมดมีจุดร่วมคือใช้งานที่ห้าง Target จากนั้นเขาร่วมมือกับธนาคารแห่งหนึ่งติดต่อซื้อหมายเลขบัตรเครดิตด้วยตัวเองและพบว่าหมายเลขเหล่านี้ก็มีจุดร่วมคือมีการใช้งานที่ห้าง Target เช่นกัน การประติดประต่อเรื่องนี้ทำให้สรุปได้ว่าห้าง Target ถูกขโมยหมายเลขบัตรเครดิตจำนวนมาก Krebs ติดต่อห้าง Target และรายงานข่าวนี้ออกไป ทางห้างยืนยันข่าวนี้หนึ่งสัปดาห์ต่อมา การสืบสวนเพิ่มเติมทำให้พบว่าห้างร้านและเครือโรงแรมขนาดใหญ่มีช่องโหว่เช่นกัน
เมื่อเขาได้รับจดหมายแจ้งเตือนว่าหมายเลขบัตรเครดิตถูกขโมยจากห้าง Target เขาถึงกับหัวเราะ
ที่มา - The New York Times