สัมภาษณ์ทีมงาน Wellograph บริษัทไทยผู้พัฒนาแพลตฟอร์มสมาร์ทวอทซ์ของตัวเอง

by advertorial
3 March 2014 - 02:16

ปีที่ผ่านมาข่าวคอมพิวเตอร์แบบสวมใส่ได้ออกมาจำนวนมาก จากทั้งบริษัทขนาดใหญ่ เช่น กูเกิล, ซัมซุง ไปจนถึงรายใหม่ๆ ที่เพิ่งเข้ามาในตลาดอย่าง Pebble มาถึงตอนนี้ เมื่อต้นปีที่ผ่านมาก็มีบริษัทใหม่ๆ เปิดตัวสินค้าอีกจำนวนมาก รวมถึงสินค้ารุ่นใหม่ๆ ในงาน MWC แต่ในจำนวนนี้ที่คนจำนวนมากอาจจะไม่ทันสังเกต หนึ่งในจำนวนนั้นคือ Wellograph ที่เพิ่งเปิดตัวในงาน CES เมื่อต้นปีนั้นเป็นบริษัทคนไทย (แถมมารับสมัครงานใน Blognone นานแล้ว!)

ซีอีโอของ Wellograph นั้นก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นดร.สารสิน บุพพานนท์ ผู้ก่อตั้งบริษัท Atiz Innovation ที่เราเคยสัมภาษณ์ไปเมื่อหลายปีก่อน รอบนี้เรากลับมาคุยกับทีมงาน Wellograph กัน

ตัว Wellograph นั้นทางบริษัทเรียกมันว่า The Wellness Watch จุดเด่นของมันคงเป็นความสามารถในการวัดอัตราการเต้นหัวใจ และการเคลื่อนไหวได้ตลอดเวลาผ่านเซ็นเซอร์การเคลื่อนไหวแบบ 9 แกน การใช้งานพื้นฐานที่เรานึกออก น่าจะเป็นแนวทางเดียวกับ Fitbit แต่ Wellograph วางตำแหน่งตัวเองไว้เป็นสินค้าระดับบนกว่า ตัวมันเองมีซีพียูประสิทธิภาพดีพอสมควร หน้าจอ LED กินพลังงานต่ำ สายหนังแท้ และโครงสร้างโลหะทั้งตัว พร้อมกระจกหน้าปัดคริสตัสแซฟไฟร์กันรอย ทำให้ราคาของ Wellograph ที่ประกาศออกมาที่ประมาณ 300 ดอลลาร์

ถึงตอนนี้ก็มาพูดคุยกับทีมงาน Wellograph กันเลยครับ

ทำไมถึงเลือกทำนาฬิกาเป็นหลัก แทนที่จะเป็นสินค้า wearable ตัวอื่น เช่น แว่นตา หรือเสื้อผ้า

มีสองเหตุผลหลักครับ อย่างแรกคือนาฬิกาเป็นอุปกรณ์ที่เราใช้ติดตัวกันตลอดเวลาอยู่แล้ว สำหรับผู้ชายอาจจะเป็นเครื่องประดับเลยก็ว่าได้ และคนจำนวนมากก็ซื้อนาฬิการาคาสูงมาใช้งาน ขณะที่อุปกรณ์แบบอื่นเอาเข้าจริงแล้วเราไม่อยากใส่กันตลอดเวลา อย่างแว่นตาที่หลายคนใช้คอนแทคเลนส์หรือลงทุนไปทำเลสิคแทนที่จะใส่แว่น เพราะมันไม่สะดวก

อย่างที่สองคือเราสามารถเก็บข้อมูลจากข้อมือได้หลายอย่าง เช่น อัตราการเต้นของหัวใจ หรือจำนวนก้าวเดิน รวมไปถึงการแสดงผลก็สามารถแสดงบนหน้าจอผู้ใช้ยกขึ้นมาดูได้สะดวก

ฮาร์ดแวร์ภายในเป็นอย่างไร

ภายในของ Wellograph ใช้ไมโครคอนโทรลเลอร์ 16 บิต และอุปกรณ์วัดสัญญาณชีพที่พัฒนาขึ้นมาเฉพาะของเราเอง ส่วนการเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือใช้ Bluetooth 4.0 LE และหน้าจอแบบ e-paper กินพลังงานต่ำ

ซอฟต์แวร์ภายในพัฒนาเองทั้งหมดรึเปล่า เปิดให้นักพัฒนาภายนอกเข้าไปพัฒนาแอพพลิเคชั่นไหม

ซีพียูที่ใช้เป็นซีพียูเฉพาะที่กินพลังงานต่ำมากทำให้เราต้องออกแบบระบบปฎิบัติการขึ้นใหม่เองเพื่อให้การใช้พลังงานเหมาะสมกับขนาดแบตเตอรี่ เพื่อให้สามารถอยู่ได้นานสองสัปดาห์ ไม่ต้องชาร์จแบตบ่อยๆ ขณะเดียวกันก็มีความสามารถเพียงพอสำหรับฟีเจอร์ที่วางไว้ ส่วนนักพัฒนาภายนอกจะสามารถพัฒนาแอพพลิเคชั่นไปรันบน Wellograph ได้เช่นกันครับ

วางเป้าหมายให้ขายได้มากๆ เหมือน Pebble หรือ Fitbit เลยไหม

เราไม่ได้วางเป้าของเราไว้โดยเทียบกับ Pebble เพราะ Wellograph เอง พรีเมี่ยมกว่า ราคาสูงกว่า เรามีเป้าของเราในใจ ซึ่งค่อนข้างมั่นใจว่าจะได้ตามนั้น ในเชิงตัวเลขยอดขาย ก็มีความเป็นไปได้ที่จะได้ระดับเดียวกันหรือสูงกว่า Pebble เพราะโดยรูปลักษณ์ และประโยชน์ใช้สอยของ Wellograph เองที่ออกแบบให้ทุกคนที่สนใจเรื่องสุขภาพสามารถใช้งานได้ ตั้งแต่วัยรุ่น คนทำงาน กลางคน ไปจนถึงคนสูงอายุ ขณะที่สมาร์ทวอทซ์ส่วนมากจะเน้นความไฮเทคซึ่งจำกัดกลุ่มลูกค้าลงเหลือกลุ่มกีคที่ชอบเทคโนโลยีเป็นส่วนใหญ่

อีกจุดหนึ่งที่เรามั่นใจ เพราะ Wellograph ได้รับความสนใจจากตัวแทนจำหน่ายและร้านค้าปลีกทั่วโลก กลุ่มตัวแทนจำหน่ายที่ขายสินค้าพรีเมี่ยมเช่น Jawbone หรือสินค้าเพื่อสุขภาพอย่าง Fitbit เองก็ต่างสนใจเป็นตัวแทนขาย Wellograph ด้วย

กังวลกับผู้ผลิตรายใหญ่ที่กำลังเข้ามาในตลาดนี้อย่างแอปเปิลหรือกูเกิลไหม

กังวลครับ เพราะเรายังมีทีมงานพัฒนาที่มีขนาดเล็กเมื่อเทียบกับบริษัทใหญ่ๆ ปัจจัยสำคัญที่สุดคือเรื่องคน เราต้องการคนที่มีความสามารถ มีความฝัน อยากที่จะทำอะไรที่ยิ่งใหญ่เกินตัวแบบที่ไม่คิดว่าบริษัทไทย คนไทย จะทำได้ มาร่วมในทีมเพื่อผลักดันผลงานและความคิดของตนให้คนทั่วโลกได้ใช้

ในเชิงจุดขายของสินค้า ความน่าสนใจจะมีความแตกต่างจากสินค้าของแอปเปิลหรือเจ้าใหญ่รายอื่นๆแน่นอนครับ ของเราก็จะมีความล้ำอนาคตในหลายด้านครับ

ทีมงานตอนนี้มีใครบ้าง เข้ามาทำโปรเจคนี้ได้อย่างไร

ทีมงานตอนนี้มีสิบกว่าคนครับ แบ่งหน้าที่กันเหมือนกับบริษัทออกแบบฮาร์ดแวร์ชั้นนำ ที่ต้องมีตั้งแต่นักออกแบบอุตสาหกรรม วิศวกรไฟฟ้า วิศวกรคอมพิวเตอร์ นักคณิตศาสตร์ นักวิทยาศาสตร์ จนถึงนักพัฒนาซอฟต์แวร์ และตอนนี้เองก็กำลังเพิ่มอีกหลายตำแหน่ง เช่น Firmware Engineer, Mobile App Developers, Web Developer เป็นต้น

ทีมงานส่วนมากจะรับเข้ามาใหม่เพื่อทำงานกับโครงการ Wellograph โดยเฉพาะครับ คัดเลือกโดยทีมบริหารทีละคน เราต้องการคนเก่งที่สามารถคิดนอกกรอบและมีความสามารถ นอกจากนั้นเราเลือกจากคนที่มีประสบการณ์ทำงาน หรือมีผลงานโดดเด่น ส่วนทีมงานบางส่วนก็มาจาก Atiz เพราะทาง Atiz เน้นงานออกแบบวิจัยและพัฒนาสินค้าอยู่แล้ว ทีมงานทุกคนมีความสามารถพอที่จะสร้างต้นแบบจากไอเดียของทีมบริหารได้

Blognone Jobs Premium