รีวิว Microsoft Office for iPad - อ่านไทยได้บางฟอนต์ ตัดคำไทยยังไม่ได้

by mk
28 March 2014 - 05:38

ข่าวใหญ่ของวงการไอทีวันนี้คงหนีไม่พ้น Office for iPad ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของไมโครซอฟท์ยุคใหม่ใต้วิสัยทัศน์ Mobile-First Cloud-First

Office for iPad ยังไม่รองรับภาษาไทยเต็มรูปแบบ และยังไม่เปิดให้ดาวน์โหลดจาก App Store ของประเทศไทย แต่เนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์ที่สำคัญและใกล้ตัวผู้ใช้งานด้านไอทีจำนวนมาก Blognone จึงมาลองทดสอบการใช้งานกันแบบพรีวิวว่าเป็นอย่างไรบ้าง เหมาะกับการใช้งานจริงมากน้อยแค่ไหน

คำเตือน: รูปเยอะมากครับ

ชื่อของมันคือ Office for iPad แต่เอาเข้าจริงแล้วมันเป็นแอพแยก 3 ตัวใน App Store ของแอปเปิล อันประกอบด้วย Word, Excel, PowerPoint สามารถดาวน์โหลดแยกได้เป็นรายตัวครับ ดาวน์โหลดได้ฟรีจาก App Store (USA)

ขนาดไฟล์ใหญ่พอสมควรเมื่อเทียบกับแอพบน iOS ทั่วไป (ที่ไม่ใช่เกม) โดย Word มีขนาด 246MB, Excel มีขนาด 221MB, PowerPoint มีขนาด 205MB

ดาวน์โหลดเสร็จแล้วก็เปิดใช้งานได้ตามปกติ เรามาดูรายละเอียดกันรายตัวเลยครับ

Microsoft Word for iPad

แอพที่ผู้ใช้ส่วนใหญ่ใช้งานกันมากที่สุดคือ Microsoft Word เมื่อเรียกแอพขึ้นมาจะเจอกับหน้า splash screen หน้าตาสวยงาม และหน้าจอแนะนำให้เราล็อกอินด้วย Office 365 (สามารถเลือกการใช้งานแบบไม่ต้องล็อกอินได้)

เสร็จเรียบร้อยแล้วเราจะเจอกับหน้าตาเริ่มต้นเหมือน Office รุ่นใหม่ๆ พวก Office 2010 หรือ 2013 โดยจะมีแท็บด้านซ้ายมือ และหน้าจอแสดงเอกสารฝั่งขวามือ

ลองสร้างเอกสารจากเทมเพลตที่มีมาให้ ผลเป็นดังภาพครับ ถ้าเราไม่ล็อกอิน แอพจะแสดงข้อความว่า Read-Only และเตือนให้เราสมัคร Office 365 เพื่อแก้ไขเอกสาร ส่วนหน้าตาของแอพโดยรวมๆ น่าจะพอเห็นภาพว่าใช้อินเทอร์เฟซแบบ Ribbon ผสมแถบเครื่องมือแบบเดิม

บริการกลุ่มเมฆที่เราสามารถเชื่อมต่อได้ ในตอนนี้มี 2 ตัวคือ OneDrive รุ่นปกติ และ OneDrive for Business ซึ่งในรีวิวนี้จะอิงจากการเปิดเอกสารใน OneDrive รุ่นปกตินะครับ

จากการใช้งานพบว่าความรู้สึกจะคล้ายกับ Office Online รุ่นบนเว็บมาก โดยเอกสารทั้งหมดที่เก็บอยู่ใน OneDrive ของเราจะโผล่มาให้เลือกแก้ไขตั้งแต่แรก (ส่วนตอนเซฟ สามารถเลือกได้ว่าจะเซฟลง OneDrive หรือเซฟลง iPad)

ทดสอบภาษาไทย

ทดสอบเปิดเอกสาร Word (.docx) ภาษาไทยที่ผมเก็บไว้ใน OneDrive นะครับ เปิดมาปั๊บเจอของดีเลย ตัวอักษรเป็นสี่เหลี่ยมเกือบหมด (เอกสารเดียวกันนี้เปิดบน Word Online ดูได้สวยงาม)

สังเกตว่าภาพข้างบนเลือกฟอนต์เป็น Calibri ซึ่งเป็นค่าดีฟอลต์ ลองเปลี่ยนเป็นฟอนต์อื่นๆ ดูพบว่ามี Cordia New ให้เลือก เปลี่ยนแล้วก็แสดงผลภาษาไทยสวยงาม สระไม่ลอย

การตัดคำภาษาไทย

ทีนี้ลองดูเรื่องการตัดคำบ้าง ผมสร้างเอกสารทดสอบบน Word Online ที่ตัวหนังสือติดกันเป็นพรืด (ตัดคำได้สวยงามบน Word Online) แล้วลองมาเปิดไฟล์เดียวกันบน Word for iPad พบว่ายังมีปัญหาการตัดคำครับ

ในเอกสารยังทดสอบเรื่องฟอนต์เพิ่มเติม โดยเลือก 2 ฟอนต์สุดฮิตของคนไทยคือ Cordia New (ช่วงบน) และ Angsana New (ช่วงล่าง) ผลคือ Cordia New แสดงผลได้ถูกต้อง แต่ Angsana New กลายเป็นฟอนต์ตัวอื่นแทน

ฟอนต์ภาษาไทย

มาดูฟอนต์ที่มีให้เลือกใน Word for iPad กันบ้างครับ มันแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มคือ

  • Theme Fonts ฟอนต์ที่มากับธีมเอกสาร
  • Office Compatible Fonts ฟอนต์ของ Office เอง
  • iOS Fonts ฟอนต์ของระบบ iOS

ฟอนต์ภาษาไทยที่มากับ Office for iPad เท่าที่หาเจอมี Angsana New (ที่ไม่มีให้เลือกเสมอไป), Cordia New (มีให้เลือกตลอด), Courier New, Tahoma

ส่วนฟอนต์ของ iOS ก็สามารถใช้ฟอนต์ Thonburi ได้

ลองเลือก Tahoma แสดงผลได้ถูกต้อง ส่วน Thonburi ผลออกมาพออ่านออกแต่ก็เละๆ

ผลสรุปก็คืออ่านไทยได้เป็นบางฟอนต์ แต่ตัดคำภาษาไทยไม่ได้ครับ พอถูไถแต่ยังไม่สมบูรณ์ (เขายังไม่ออกเวอร์ชันที่รองรับภาษาไทยนี่เนอะ)

ฟีเจอร์ของ Word

หมดจากการทดสอบภาษาไทย ลองมาดูการทดสอบฟีเจอร์กันบ้าง จากการใช้งานพบว่าไมโครซอฟท์ไม่ใช้อินเทอร์เฟซแบบ Ribbon ตัวเต็มเพราะเปลืองที่ แต่ใช้วิธีแสดงเป็น drop-down menu เมื่อกดปุ่มแทน

ตัวเลือกมาตรฐานด้านการจัดฟอร์แมตก็มีครบ เช่น Styles และตัวหนาตัวเอียง เอฟเฟคต์อักษรต่างๆ

การแทรกตารางและวัตถุต่างๆ ในเอกสาร

ใส่ตารางได้ สไตล์ของตารางมีเท่ากับ Office ตัวเต็ม

ใส่รูปทรงต่างๆ ลูกศร แผนภาพ และ break ก็มีครบถ้วน

การกำหนดฟอร์แมตเอกสาร

กำหนด Layout ได้ รองรับ column และ orientation แต่ส่วนของขอบเอกสาร เลือกได้เฉพาะที่มีมาให้ ไม่สามารถกำหนดตัวเลขเองได้

รองรับ header, footer และ page numbers ในตัว เพียงแต่อาจไม่มีสไตล์ให้เลือกหลากหลายนักเมื่อเทียบกับ Word ตัวเต็ม

การตรวจสะกดและรีวิวเอกสาร

ฟีเจอร์ตรวจสอบตัวสะกด ไม้บรรทัด และการนับคำ

ฟีเจอร์ด้านการรีวิวเอกสารและ track changes ก็มีให้ใช้ครับ

Microsoft Excel for iPad

อันดับต่อไปลองเล่น Excel กันบ้างครับ หน้าตาเริ่มต้นคล้ายกันคือมี splash screen และเทมเพลตมาตรฐานให้เลือกใช้งาน

ลองสร้างเอกสารตามเทมเพลตขึ้นมา 1 ไฟล์ แสดง Gantt chart ได้สวยงาม รองรับการแสดงเอกสารได้หลายแผ่นงาน (sheet)

การแก้ไขเอกสารมีคีย์บอร์ดแบบตัวเลขให้ใช้ และตัวช่วยเติมสูตรคำนวณด้วย

ทดสอบการใช้งานสูตร

เห็นมีสูตรที่คนไทยขาดไม่ได้ BAHTTEXT() โผล่ขึ้นมา เลยทดสอบหน่อยครับ ใช้งานได้ตามปกติไม่มีปัญหาอะไร

การใส่กราฟและชาร์ท

ใส่กราฟและชาร์ทได้เหมือน Office รุ่นเต็ม เท่าที่ลองดูคร่าวๆ ชาร์ทที่มีให้เลือกก็ไม่ต่างกันมาก

ฟีเจอร์อื่นๆ

ฟีเจอร์อื่นๆ ด้านการแสดงผล เลือกได้ว่าจะแสดงอะไรบ้าง รวมถึง Freeze Row/Column ได้ด้วยเลย (ถ้าเลือกฟอนต์เป็น Thonburi จะเละเหมือนกันครับ)

Microsoft PowerPoint for iPad

ส่วนของ PowerPoint จะบังคับให้แสดงผลเฉพาะในแนวนอนเพียงอย่างเดียว (Word/Excel ทำได้ทั้งสองแนว) หน้าตาตอนเริ่มต้นก็มีเทมเพลตให้เลือกมากมายเช่นกัน

ทดลองสร้างเอกสารจากเทมเพลต จะเห็นว่าหน้าตาก็คล้ายกับ PowerPoint ตัวเต็มที่มีรายการสไลด์ด้านซ้ายมือ และตัวสไลด์หลักทางขวามือ

การแก้ไขเอกสารเก่า

ทดลองเปิดสไลด์เก่าๆ พบว่าแสดงผลได้สวยงามดี สามารถแก้ไขรูปวาด (shape) ได้โดยตรง จับหมุนหรือย้ายตำแหน่งได้

Transition

รองรับ Transition ที่ระดับตัวแผ่นสไลด์ แต่ยังไม่รองรับ Animation ของวัตถุในสไลด์ครับ มีให้เลือก Transition เยอะเลย

ทดสอบเปิดเอกสารภาษาไทย

ทดสอบภาษาไทยด้วยวิธีเดียวกันคือ สร้างเอกสารภาษาไทยบน PowerPoint Online แล้วลองมาเปิดใน PowerPoint for iPad

ผลคืออ่านไทยได้แต่ฟอนต์เละครับ กลายเป็น Tahoma หมดเลย

สรุป

Office for iPad งานออกมาเนี้ยบกว่าที่คิด สวยงาม รวดเร็ว อ่านไฟล์เอกสารแทบไม่เพี้ยนเลย (เท่าที่ทดสอบ) ฟีเจอร์เยอะในระดับที่ใกล้เคียงกับ Office Online หรือบางจุดน่าจะเยอะกว่าด้วยซ้ำ เชื่อมโยงกับ OneDrive ทำให้สะดวกในการแก้ไขและแลกเปลี่ยนไฟล์

จุดด้อยตอนนี้คงเป็นว่ายังไม่รองรับภาษาไทยเต็มรูปแบบ (แต่ก็อยู่ในระดับที่ "อ่านได้") อันนี้คงต้องรอกันต่อไปว่าไมโครซอฟท์จะออกรุ่นภาษาไทยช้าเร็วแค่ไหน

ในระยะยาวแล้วผมคิดว่าถ้าต้องใช้งานเอกสาร Office เยอะๆ และไม่มีไลเซนส์ขององค์กร การลงทุนซื้อสมาชิก Office 365 น่าจะคุ้มอยู่ครับ เพราะใช้ได้ทั้งบนพีซี แมค แท็บเล็ต มือถือ ออนไลน์ ครบทุกอย่างเลย (ยุทธศาสตร์ของไมโครซอฟท์คือไม่ขายแอพ แต่พยายามให้เราไปซื้อสมาชิก Office 365 ที่มีสิทธิประโยชน์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แทน)

Blognone Jobs Premium