หลังกรณี Facebook ซื้อ Oculus ไปสองพันล้านดอลลาร์ ผู้ร่วมลงเงินบน Kickstarter สงสัยว่าทำไมเขาไม่ได้ส่วนแบ่งหุ้น?

by toandthen
30 March 2014 - 04:08

คำถามที่เกิดขึ้นหลังจากที่ Oculus ได้ถูกซื้อกิจการโดย Facebook ที่มูลค่า 2 พันล้านดอลลาร์ก็คือ “ถ้าความสำเร็จนี้เกิดขึ้นได้เพราะการระดุมทุนผ่าน Kickstarter ผู้ร่วมลงทุนควรจะได้หุ้นเป็นค่าตอบแทนหรือไม่?”

Oculus Rift เป็นหนึ่งในโปรเจคที่ระดุนทุนผ่านวิธี crowdfunding ผ่านทาง Kickstarter โดยผู้ที่ร่วมลงทุนด้วยจำนวนเงิน 300 ดอลลาร์จะได้รับ Oculus Rift Virtual Reality (VR) set ไปใช้หนึ่งตัว อย่างไรก็ตามตอนนี้ผู้ลงทุนบางส่วนได้ออกมาบอกว่า ถ้าเกิดการลงทุนผ่านทาง Kickstarter มีการแบ่งกรรมสิทธิในบริษัทด้วย นักลงทุนที่ลงทุนไปคนละ 300 ดอลลาร์ จะได้รับเงินจาก Facebook ที่ซื้อบริษัทไปคนละ 43,500 ดอลลาร์ หรือ 145 เท่าจากจำนวนที่ลงทุนไปในตอนแรก

กรณีนี้ ทำให้เกิดปรากฏการณ์ใหม่ในอุตสาหกรรม crowdfunding นั่นก็คือเว็บ crowdfunding หลายแห่ง เช่น Wefunder, SeedInvest และ Crowdfunder กำลังยื่นเรื่อง กลต. ของสหรัฐ​ (SEC) เพื่อรอการวินิจฉัยว่าการขายหุ้นบริษัทผ่าน crowdfunding สามารถทำได้หรือไม่

อย่างไรก็ตามซีอีโอของ Kickstarter นาย Yancey Strickler ได้ออกมาบอกว่า Kickstarter ไม่ใช่เว็บสำหรับการลงทุน หรือเว็บสำหรับการซื้อสินค้า แต่มันเป็นแพลตฟอร์มที่ทำให้ศิลปินมาสรรหาการสนับสนุนจากแฟน ๆ และผู้ที่สนใจได้ เขายังบอกอีกว่า Kickstarter เป็นแหล่งที่ทำให้คนที่อยากมีส่วนร่วมและได้ลองของใหม่ได้ลอง โดย Strickler ยืนยันว่า ถ้าหาก Oculus มีโปรเจคอีกรอบวันนี้ ก็คงจะมีผู้สนใจมาสนับสนุนอีกอยู่ดี

ขณะเดียวกัน Slava Rubin ซีอีโอของ Indiegogo คู่แข่งโดยตรงของ Kickstarter ได้ออกมาบอกว่า crowdfunding น่าจะมีคำตอบให้กับผู้ที่ต้องการลงทุนจริง ๆ ด้วย และเมื่อไหร่ที่ crowdfunding สามารถเปลี่ยนมาเป็นการลงทุนเพื่อให้ได้กรรมสิทธิในบริษัทจริง เมื่อนั้นอุตสาหกรรมการระดมทุนจะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง และมันจะเกิดขึ้นแน่ ๆ ในอนาคตทางใดทางหนึ่ง

ที่มา - The Verge

Blognone Jobs Premium