[อัพเดต] Microsoft เปิดตัว Windows Phone 8.1 อย่างเป็นทางการ

และการรอคอยก็สิ้นสุด เมื่อ Microsoft เปิดตัว Windows Phone 8.1 อย่างเป็นทางการ

Joe Belfiore ผู้บริหารของ Microsoft เผยสิ่งใหม่บน WP8.1 ดังนี้

• Action Center (notification center แบบแพลตฟอร์มของค่ายอื่น)
• ฟีเจอร์ Show more tiles เพื่อให้แสดงผลไทล์ 3 คอลัมน์บน Start screen
• ตั้งภาพพื้นหลังไทล์เป็นภาพที่ผู้ใช้ต้องการ
• Cortana ระบบผู้ช่วยส่วนตัวแบบลักษณะเดียวกับ Siri ของ Apple ที่ Belfiore บอกว่า ยิ่งผู้ใช้ค้นหาผ่านมันเท่าไรมันก็ยิ่งเรียนรู้ผู้ใช้มากขึ้นเท่านั้น Cortana มีทั้งฟีเจอร์ Inner Circle และ Quiet hours ตามข่าวลือก่อนหน้านี้ Cortana ยังเดาจากสถานที่ที่ผู้ใช้ไปที่นั่นบ่อย เพื่อระบุเป็นบ้านหรือที่ทำงานให้โดยอัตโนมัติ (ผู้ใช้สามารถแก้ไขค่านี้ได้) สามารถโทรออกผ่าน Skype และรองรับการสั่งการร่วมกับแอพ third-party อย่างการเพิ่มรายการโทรทัศน์ลง Hulu Plus เป็นต้น
• Universal search รองรับการค้นหาสิ่งต่างๆ อะไรก็ได้เหมือนกับ Windows 8.1
• Skype ถูกผนวกเป็นส่วนหนึ่งของระบบปฏิบัติการมากขึ้น โดยระหว่างคุยโทรศัพท์ผู้ใช้สามารถสลับไปวิดีโอคอลล์ได้เลย
• คีย์บอร์ดแบบ Swype
• IE11 พร้อมฟีเจอร์ InPrivate browsing และ Reading Mode
• สนับสนุน Bluetooth LE

ในส่วนของฟีเจอร์ด้านองค์การนั้น Microsoft ระบุว่า WP8.1 รองรับ Enterprise VPN และการเข้ารหัสอีเมล S/MIME

ในส่วนของนักพัฒนานั้น Microsoft ทำ API ชุดใหม่เพื่อการปรับแต่ง lock screen โดยเฉพาะ โดยได้โชว์ผลงาน lock screen ของ Rudy Huyn ผู้พัฒนาแอพ third-party ของบริการชื่อดังอย่าง Vine, Instagram และ Snapchat นอกจากนั้นยังมี API ใหม่อื่นๆ อีก ทั้งสำหรับการแก้ไขวิดีโอ หรือ geofencing ที่ใช้กำหนดขอบเขตของพิกัด เป็นต้น

Microsoft ยืนว่า WP8.1 จะรองรับแอพบน WP8 แต่นักพัฒนาสามารถอัพเกรดแอพเป็นรุ่นสำหรับ WP8.1 เพื่อใช้ฟีเจอร์ใหม่หรือ "universal Windows app" แอพเดียวรันทั้งบน Windows และ WP ได้

Microsoft ยังเปิดตัวคู่ค้าฮาร์ดแวร์รายใหม่ Micromax (เป็นตามข่าวก่อนหน้านี้) และ Prestigio พร้อมทั้งโชว์มือถือที่อยู่ในระหว่างการพัฒนาจากทั้งสองค่ายด้วย

Belfiore กล่าวว่า บริษัทจะเปิดให้ใช้ Cortana รุ่นเบต้าในสหรัฐก่อน เมื่อหมดช่วงเบต้าแล้วจะขยายไปยังประเทศอื่นต่อไป ส่วนการปล่อยอัพเดต WP8.1 ให้มือถือเก่านั้นจะเริ่มในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

ที่มา: CNET, The Verge