มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ซีอีโอ Facebook เปิดเผยอย่างเป็นทางการว่า ทีม Connectivity Lab ของบริษัทกำลังพัฒนาแพลตฟอร์มเชื่อมต่อการสื่อสารทั้งภาคพื้นดิน ในอากาศ และระดับวงโคจรโลก เพื่อขยายโครงข่ายให้บริการอินเทอร์เน็ตภายใต้ Internet.org
Connectivity Lab ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานใน NASA และผู้เชี่ยวชาญเทคโนโลยีบนห้วงอากาศ-อวกาศ (aerospace) อาทิ Ascenta บริษัทที่เชี่ยวชาญในการออกแบบและผลิตอากาศยานที่บินในระดับสูงและทนทานต่อการใช้งานเป็นเวลานาน ทีมงานจากบริษัทนี้เคยพัฒนาบอลลูนยักษ์บินได้รอบโลกโดยไม่หยุดพัก Breitling Orbiter และรุ่นแรกๆ ของอากาศยานไร้คนขับใช้พลังงานแสงอาทิตย์ที่บินได้ไกลที่สุดในโลก Zephyr
แนวทางของทีมนี้คือพัฒนาโซลูชันให้บริการอินเทอร์เน็ตตามขนาดและสภาพพื้นที่ของชุมชนนั้น โดยชุมชนชานเมือง (suburban) ที่มีข้อจำกัดด้านภูมิศาสตร์ก็จะใช้อากาศยานใช้พลังงานแสงอาทิตย์ที่บินในระดับสูงและทนทานต่อการใช้งานเป็นเวลานานทำการบินติดต่อกันหลายเดือน ส่วนชุมชนที่มีผู้อาศัยไม่หนาแน่นก็จะใช้ดาวเทียมโลกสมวาร (geosynchronous satellite) ที่มีเส้นทางวงโคจรที่เวียนมาซ้ำรอยเดิมเป็นรูปเลข 8
สำหรับระบบการสื่อสาร ทีมงานกำลังศึกษาความเป็นไปได้ที่จะใช้ FSO (free-space optical communication) หรือการใช้แสงอินฟาเรดที่มองไม่เห็นรับส่งข้อมูล
อนึ่ง ยังไม่มีการยืนยันว่า Facebook เจรจาซื้อ Titan Aerospace ผู้ผลิต UAV มาสานต่อโครงการ Internet.org สำเร็จหรือไม่
ที่มา: Internet.org ผ่าน Neowin