Blognone 3 ปี

by lew
16 August 2007 - 09:56

ใครจะรู้ว่าสามปีที่แล้ว เมื่อนิสิตวิศวคอมพิวเตอร์คนนึงที่นั่งหงุดหงิดกับหนังสือพิมพ์รายวันจะได้สร้างอะไรที่แตกต่างได้อีกอย่างหนึ่งในสังคมไทย จนมาวันนี้ที่ Blognone มีคนอ่านกว่า 7000 คนต่อวันนับว่าเป็นความสำเร็จที่น่ายินดีอย่างหนึ่งที่น่าภูมิใจต่อตัวผมเอง ต่อมาร์คที่ร่วมกันทำเว็บนี้มา และต่อสมาชิกทุกท่านที่ร่วมสร้างเว็บนี้ให้เป็นชุมชนที่แข็งแกร่ง

ปีที่สามนับว่าเป็นปีที่มีการเปลี่ยนแปลงในชุมชน Blognone อย่างชัดเจน และเป็นปีที่สิ่งที่ผมเขียนไว้ตั้งแต่วันแรกที่เริ่มแนวคิดของ Blognone ได้ก่อตัวขึ้นเป็นรูปเป็นร่างอย่างชัดเจนที่สุด ด้วยปริมาณงานเขียนที่เข้ามาจากนักเขียนที่หลากหลาย การมีส่วนร่วมในการตรวจสอบคุณภาพบทความอย่างจริงจัง และการเสนอแนวคิดที่แตกต่างมากขึ้นทำให้ถึงตอนนี้เราอาจจะเรียก Blognone ว่าเป็นชุมชนที่สมบูรณ์อีกแห่งหนึ่งในโลกไซเบอร์ของไทย

ความเข้มแข็งของชุมชนที่เริ่มจะสร้างและเสนออะไรหลายๆ อย่างที่ผมไม่เคยคิดถึง หรืออาจจะคิดถึงแต่ไม่เคยคิดว่าจะลงมือทำเช่นการนำเสนอข่าววิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีใน Blognone ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีมากในช่วงหลังนี้ ไม่นับข่าวที่ไม่อยู่ในแนวทางที่ผมสนใจอีกมากที่เหล่าสมาชิกช่วยกันนำเสนอเข้ามา

แต่แม้ความสำเร็จที่ได้รับจะมากขึ้นอย่างชัดเจน ตัวผมเองก็ยังมีอะไรอีกหลายๆ อย่างที่ผมมองไปข้างหน้าว่าเราน่าจะสร้างมันขึ้นมาได้ในทางใดทางหนึ่งนอกจากการเป็นชุมชนที่รวมตัวกันเขียนข่าวไอที เช่น แนวคิดการสร้างคลังความรู้แบบกึ่งถาวร ที่มุ่งสร้างบทความหรือแนวทางในเชิงเทคนิคที่ให้ความรู้ได้ในระยะยาวโดยไม่ล้าสมัยไปเสียก่อนในเวลาอันสั้น หรือจะเป็นการสร้างศูนย์กลางเพื่อเป็นจุดแลกเปลี่ยนระหว่างกัน

คลังความรู้แบบกึ่งถาวรเป็นแนวคิดที่มีมานานแล้วของผม แต่ยังไม่เคยนึกรูปแบบที่จริงจังออกมาได้ว่าจะทำออกมาในรูปแบบใด แต่โดยแนวคิดแล้วมันคือการรวมพลังการสร้างขุมความรู้ที่มีอยู่มากมายในอินเทอร์เน็ต แต่มีคนจำนวนมากเข้าไม่ถึงมันด้วยข้อจำกัดทางภาษา หรือโอกาสอื่นๆ เราอาจจะลดการใช้พลังงานจำนวนมากในการทุ่มเทสร้างความรู้เหล่านี้ด้วยการแปลความรู้เหล่านี้จากภาษาอื่นๆ

สิ่งที่ผมได้เห็นหลังจากที่สร้าง Blognone มาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้วนั่นคือเราเป็นศูนย์รวมนักศึกษาด้านไอทีที่ใหญ่มากอย่างไม่น่าเชื่อจนผมอกสงสัยไม่ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าคนเหล่านี้ได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันและกันอย่างที่ไม่เคยมีมากก่อน จากมุมมองผมที่โครงงานระดับปริญญาตรีนั้นควรตอบสนองต่อภาคอุตสาหกรรมของประเทศเช่นเดียวกับหลักสูตรที่ต้องเอาใจตลาดแรงงานในระดับหนึ่ง โครงงานในระดับปริญญาตรีบ้านเรานั้นไม่ได้มีการผลักดันออกมาเป็นสินค้าในเชิงอุตสาหกรรมได้เท่าใหร่นัก โดยที่ผมไม่ได้โทษตัวนักศึกษาไปทั้งหมด เพราะเราขาดการแลกเปลี่ยน เราขาดความรู้ว่างานใดมีคนทำไปเพียงใดแล้ว และเราไม่รู้ว่าเราจะรู้เรื่องเหล่านั้นได้อย่างไร จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเรามีงาน Conference ในระดับปริญญาตรีได้คนเหล่านี้ได้มาพบกัน แลกเปลี่ยนกัน และรับรู้ความก้าวหน้าของกันและกัน ตลอดจนมีฐานข้อมูลเปิดที่ให้คนรุ่นหลังได้เข้าถึงความรู้เหล่านี้ได้อย่างเสรี

ผมไม่รู้ว่าความฝันที่ยิ่งใหญ่เหล่านี้จะเป็นไปได้หรือไม่ เช่นเดียวกับที่สามปีก่อนผมไม่เคยรู้ว่าผมจะทำเว็บข่าวเว็บหนึ่งไปได้ไกลแค่ไหน

แต่เช่นเดียวกับ Blognone ที่ยึดหลักลองเร็ว แก้เร็ว ปรับเร็ว วันหนึ่งเราอาจจะพบทางที่เราไม่คาดคิดก็เป็นได้

Blognone Jobs Premium