แอปเปิลรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2 ประจำปี 2014 ของปีการเงินบริษัทสิ้นสุดวันที่ 29 มีนาคม มีรายได้รวม 45,646 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 4% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปี 2013 กำไรสุทธิ 10,223 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 15% และอัตรากำไรขั้นต้น 39.3% ขณะที่ปีก่อนอยู่ที่ 37.5% โดยรายได้จากนอกอเมริกาคิดเป็น 66% ของรายได้รวม
ซีอีโอ Tim Cook กล่าวว่าไตรมาสที่ผ่านมายอดขาย iPhone ยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง รวมทั้งรายได้จากส่วนธุรกิจบริการก็ทำสถิติใหม่เช่นกัน
ไตรมาสที่ผ่านมาแอปเปิลสร้างกระแสเงินสดจากการดำเนินงานถึง 13,500 ล้านดอลลาร์ และคืนเงินให้ผู้ถือหุ้นอีก 21,000 ล้านดอลลาร์ ผ่านเงินปันผลและการซื้อหุ้นคืน ทำให้โครงการคืนผู้ถือหุ้นรวมตอนนี้ใช้เงินไปแล้วถึง 66,000 ล้านดอลลาร์
เนื้อหาเพิ่มเติมจากช่วงประชุมกับนักวิเคราะห์มีดังนี้
* ยอดขาย iPhone ทั้งสามรุ่นเติบโตอย่างแข็งแกร่ง มีส่วนแบ่งเพิ่มขึ้นประเทศเกิดใหม่ และทำสถิติใหม่ในกลุ่มประเทศ BRIC โดยอินเดียและเวียดนามมีการเติบโตระดับเกินสองเท่าตัว ญี่ปุ่นเติบโตมากกว่า 50% จีนก็ทำสถิติใหม่
* ธุรกิจซอฟต์แวร์และบริการอินเทอร์เน็ตเติบโตระดับตัวเลขสองหลัก มีบัญชี iTunes แล้วมากกว่า 800 ล้านบัญชี และ iTunes ทำเงินถึง 2,600 ล้านดอลลาร์
* Angela Ahrendts จะเริ่มงานกับแอปเปิลในสัปดาห์หน้า
* iPad ที่ขายในไตรมาสที่ผ่าน 2 ใน 3 เป็นลูกค้าใหม่
* iPhone ที่ขายในไตรมาสที่ผ่าน ครึ่งหนึ่งเป็นลูกค้าใหม่
* iPad ครองส่วนแบ่งกว่า 95% ในตลาดแท็บเล็ตเพื่อการศึกษา และมีบริษัทใน Fortune 500 ถึง 98% ใช้ iPad
* Office บน iPad ช่วยให้ iPad เข้าถึงตลาดองค์กรได้มากขึ้นไปอีก
* ซื้อกิจการบริษัทต่างๆ 24 แห่งในช่วง 18 เดือนที่ผ่านมา
* iOS 7 มีส่วนแบ่งผู้ใช้งาน 87%
* มีเงินสด 156,000 ล้านดอลลาร์ ลดลง 8,300 ล้านดอลลาร์ โดยจ่ายเงินปันผลออกไป 2,700 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสที่ผ่านมา
* เตรียมเพิ่มอัตราเงินปันผล เพิ่มจำนวนหุ้นซื้อคืน เพื่อสร้างประโยชน์แก่ผู้ถือหุ้นมากที่สุด
* บริษัทจะแตกหุ้น 7 ต่อ 1 ในเดือนมิถุนายน
* แอปเปิลไม่คิดเรื่องไล่ซื้อกิจการอย่างใหญ่โตแบบกูเกิลหรือ Facebook แต่ต้องการทำในสิ่งที่เหมาะสมกับเวลา แอปเปิลไม่ใช่บริษัทแรกที่ขายเครื่องเล่น MP3, สมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ต แต่เป็นบริษัทที่นำเสนอสินค้าเหล่านี้ได้ประสบความสำเร็จมากเป็นรายแรกทั้งสิ้น
* Apple TV ไม่เป็นงานอดิเรกแล้วเพราะมันทำเงินกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ ส่วนประเด็น Fire TV นั้น จะเห็นว่าคอนเทนต์สู้กับ Apple TV ไม่ได้เลย
ราคาหุ้นแอปเปิลปรับตัวขึ้นถึงเกือบ 8% หลังรายงานผลประกอบการครับ
ที่มา: Business Insider และแอปเปิล