ลองจับ Lumia 630 และ Nokia XL พร้อมบรรยากาศงานเปิดตัว และถามตอบผู้บริหาร

by Be1con
9 May 2014 - 17:04

เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคมที่ผ่านมา ผมและ @nrad6949 ได้เข้าร่วมงานเปิดตัวสมาร์ทโฟน 2 รุ่น (หรือถ้าหากนับรุ่นย่อยก็เป็น 3 รุ่น) จากทางไมโครซอฟท์ ดีไวซ์ ประเทศไทย (หรือโนเกีย ประเทศไทย ภายใต้การบริหารงานของไมโครซอฟท์ประเทศไทย Microsoft Mobile Oy [แก้ไขข้อมูลจากการแกะเทปสัมภาษณ์ใหม่อีกรอบครับ] นั่นแหละครับ) ในงาน Thailand Mobile Expo 2014 Hi-End นะครับ

สำหรับตัว Nokia XL และ Lumia 630 นั้นจะเริ่มวางจำหน่ายแล้ว ตามรายละเอียดของข่าวที่แล้ว ซึ่งตัว Lumia 630 นั้นทางท่าน nrad6949 ได้เขียนไว้แล้วก่อนหน้านี้ ฉะนั้นการลองจับของผมนั้นจะไม่เน้นหนักตัว Lumia 630 แต่จะไปเน้นหนักที่ตัว Nokia XL แทนนะครับ

คำเตือน (เช่นเดิม): ภาพเยอะมาก ๆ และเนื้อหายาวมากนะครับ ระวัง data ของท่านด้วยครับ

แต่ก่อนที่เข้าช่วงการลองจับ ผมขอเล่าบรรยากาศงานก่อนสักเล็กน้อยนะครับ โดยงานรอบนี้พิธีกรประจำงานนี้คือ เจ้าหญิงไอทีในไทยอย่าง คุณซี ฉัตรปวีณ์ นั่นเองครับ

เริ่มต้นงานนั้น คุณซีได้เชิญคุณนนทวัน สินธวานนท์ หัวหน้าฝ่ายส่งเสริมการตลาด และคุณจิรพัฒน์ จันทร์เจิดศักดิ์ หัวหน้าฝ่ายสนับสนุนนักพัฒนา ของไมโครซอฟท์ ดีไวซ์ ประเทศไทย ขึ้นมาแนะนำตัว Lumia 630 และ Nokia XL ก่อนครับ

เริ่มต้นจาก Lumia 630 คุณนนทวันกล่าวว่าตัว Lumia 630 นั้นจะเป็นสมาร์ทโฟน Windows Phone 8.1 ตัวแรก ๆ ที่เราทำการตลาด เน้นไปในตลาดระดับที่ไม่สูงมาก แต่ได้ประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยม เช่น ซีพียูแบบ quad-core, รองรับ microSD สูงสุด 128 GB รวมถึงการใช้งาน 2 ซิม (ในรุ่น 2 ซิม) โดยเริ่มต้นจะวางจำหน่ายตัว Lumia 630 ในรุ่น 2 ซิมก่อน ส่วนรุ่นซิมเดียวจะวางจำหน่ายในอีกไม่นานหลังจากนั้นครับ

ขณะที่ตัว Nokia XL นั้นจะออกแบบมาสำหรับคนที่ชอบเล่นแอพเยอะ ๆ เนื่องจาก Nokia XL นั้นอยู่บนพื้นฐาน Nokia X Platform ที่มีรากฐานมาจาก Android Open Source Project ทำให้ Nokia XL นั้นสามารถเล่นแอพหลักแสนของ Android ได้เต็มประสิทธิภาพ พร้อมกับบริการจากทางไมโครซอฟท์ทั้ง Skype, OneDrive, Nokia MixRadio ฯลฯ ในราคาที่ไม่สูงมาก คือ 5,650 บาทครับ

ทางด้านคุณจิรพัฒน์นั้นพูดถึงในแง่ของนักพัฒนา โดยคุณซีได้สอบถามว่า ทำไมแพลตฟอร์ม Nokia X กับ Windows Phone จึงต้องแยก Store กัน ทำไมถึงไม่รวมไปเลย คุณจิรพัฒน์ก็อธิบายว่า ในแพลตฟอร์มของ Windows Phone นั้นกำลังเชื่อมประสบการณ์การใช้งานทั้งบนโทรศัพท์มือถือ, แท็บเล็ต หรือแม้แต่ PC อยู่ แต่ขณะที่แพลตฟอร์ม Nokia X นั้นจะแยกออกจากกัน เนื่องจากการรองรับแอพที่แตกต่างจากแพลตฟอร์มตระกูล Windows ครับ

ส่วนทางด้านไฮไลท์ของตัว Windows Phone 8.1 นั้น คุณจิรพัฒน์ได้แบ่งเป็น 4 หมวดใหญ่ ๆ คือ

  • Personal หรือการเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้มากขึ้น
  • Windows เชื่อมประสบการณ์การใช้งานระหว่างสมาร์ทโฟนกับ Windows 8.x
  • Delighter หรือการปรับปรุงประสบการณ์การใช้งาน เช่น Action Center หรือแม้แต่ Word Flow
  • Business ที่ช่วยเสริมให้ธุรกิจเดินหน้าได้ดีขึ้น

(สังเกตจากตอนเดโมตัว Windows Phone 8.1 คุณจิรพัฒน์ใช้ตัว Lumia 630 ในการเดโม และใช้ Miracast ในการฉายภาพครับ)

นอกจากนี้ คุณจิรพัฒน์ยังได้แนะนำตัว Nokia Treasure Tag ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่สามารถหาสิ่งของต่าง ๆ ผ่านเทคโนโลยีบลูทูธ และ NFC รวมถึงสามารถระบุพิกัดล่าสุดของสิ่งของดังกล่าวผ่านแผนที่บน HERE Maps และใช้ LiveSight หาตัว Treasure Tag ได้ด้วย!

หมายเหตุ: ผมแอบไปลองเล่นตอนช่วงงาน workshop ที่จัดขึ้นที่สำนักงานใหญ่ไมโครซอฟท์ประเทศไทยมาเรียบร้อยแล้ว ทางผู้บริหารของโนเกียบอกมาว่า ตัว Treasure Tag สามารถใช้เป็นชัตเตอร์ถ่ายภาพได้ด้วย ซึ่งถือว่าเจ๋งมาก ๆ ส่วนการใช้จริงจะเป็นอย่างไร อีกไม่กี่วันผมจะเขียนรีวิวให้อีกทีนะครับ

นอกจากนี้คุณจิรพัฒน์ยังได้พูดถึงแอพพลิเคชันอื่น ๆ ในทั้ง 2 แพลตฟอร์มอย่างเช่น LINE บน Windows Phone ที่สามารถซื้อสติ๊กเกอร์ได้แล้ว รวมถึงเกม LINE บนแพลตฟอร์ม Nokia X เป็นต้นครับ

ส่วนเรื่องแขกรับเชิญขอไม่พูดอะไรมากแล้วกันนะครับ เอาแค่ภาพมาฝากแค่นั้นครับ ในงวดนี้แขกรับเชิญก็คือคุณ ท็อป จรณ โสรัตน์ กับคุณเดียร์น่า ฟลีโป ครับ

ตอนนี้ได้เวลามาลองจับตัว Lumia 630 กับ Nokia XL กันดีกว่าครับ เริ่มต้นที่ตัว Lumia 630 จากการลองจับมา พบว่าไซส์เล็กกว่าตัว Lumia 720 พอสมควร แต่ถ้าเทียบกับ Lumia 520 กับ Lumia 620 แล้ว บอกสั้น ๆ ว่าใหญ่กว่าครับ

ส่วนตัว Nokia XL นั้น ฟีลลิ่งเมื่อจับครั้งแรก รู้สึกว่าตัว Nokia XL ใช้วัสดุที่ค่อนข้างใกล้เคียงกับตัว Nokia X กับ Lumia 630 ค่อนข้างมาก ขณะที่ไซส์นั้นแอบใหญ่กว่าตัว Lumia 925 ที่ผมใช้ถ่ายภาพชุดนี้พอสมควร ถือว่าถนัดมือเลยก็ว่าได้ครับ (อาจจะเป็นเพราะว่าผมมือใหญ่ไป หรือไม่ก็อาจจะชินกับการใช้ตัว Lumia 1520 ไปแล้วก็ได้ครับ)

ด้านหน้าเรียบ ๆ ไม่มีอะไรมาก มีกล้องหน้า, ลำโพงสนทนา, หน้าจอ 5 นิ้ว และก็ปุ่ม back ส่วนวิธีการออกจากแอพสามารถตั้งได้ว่าจะออกจากการใช้นิ้วปัด หรือถ้าหากไม่สะดวกก็ใช้นิ้วกดปุ่ม back รัว ๆ ได้ ส่วนด้านข้างขวา ไม่มีอะไรมากนอกจากปุ่มปิดเครื่อง กับปุ่มปรับระดับเสียง

แม้ว่า Nokia XL จะรองรับ 2 ซิมก็ตาม แต่ทว่า ซิมที่สองนั้นจะใช้ได้แค่ 2G เท่านั้น (ตามภาพด้านล่างนี้ครับ)

ด้านซ้าย ไม่มีปุ่ม เรียบสนิทดี

ด้านบนมีช่องเสียบหูฟังครับ

ด้านล่างมีช่องต่อ microUSB (ข่าวร้ายคือ ไม่ได้ถ่ายแบบที่ไม่ได้เสียบไว้ครับ)

คราวนี้มาถึงช่วงถามตอบกับผู้บริหารของไมโครซอฟท์ ดีไวซ์ ประเทศไทยกันแล้วนะครับ โดยในงวดนี้ผมจะโฟกัสไปที่คำถามที่เกี่ยวกับชีวิตของบริษัทหลังเสร็จสิ้นดีลไมโครซอฟท์นะครับ (คำถามแรกอันนี้ผมเรียบเรียงเองครับ แต่คำถามหลัง ๆ นี้ผมอาศัยย่อจากที่แกะเทปมาครับ)

Q: นโยบายขององค์กรตอนนี้เป็นอย่างไร
A: ตอนนี้นโยบายขององค์กรจะเน้นไปในส่วนของ device & service ตามยุทธศาสตร์ของไมโครซอฟท์ครับ

Q: แล้วสถานะของแบรนด์มือถือยี่ห้อ "NOKIA" เป็นอย่างไรบ้างหลังจากดีลเสร็จสิ้น
A: คือต้องบอกอย่างนี้นะคะว่าทางไมโครซอฟท์ได้ license ในการใช้แบรนด์ "NOKIA" เป็นระยะเวลา 10 ปี ฉะนั้นในแง่ของการที่ interface ระดับ consumer เองยังเหมือนเดิม และก็อยากให้ได้ยินภาพในแง่ after sell service เราก็ยังคงเหมือนเดิม ฉะนั้นก็จะเปลี่ยนแปลงในแง่ขององค์กร

Q: อย่างที่ทราบกันว่าตอนนี้ทางไมโครซอฟท์ได้เปลี่ยนชื่อแผนก device & service ของโนเกียได้เปลี่ยนชื่อเป็น Microsoft Mobile แล้ว ไม่ทราบว่าตอนนี้ไมโครซอฟท์ได้โยกการบริหารงานในส่วน Surface มาด้วยหรือเปล่าครับ
A: ในระยะยาวตอนนี้ยังไม่ได้กำหนดอะไรนะคะ เท่าที่ทราบตอนนี้คือ เราได้เข้าไปอยู่ในส่วนงานของ Microsoft Devices ซึ่งเขาก็มีทีมอยู่เดิมอยู่แล้ว คือในระดับโลกเราจะคุมการขาย Surface ด้วย Xbox ด้วย แต่ในระดับประเทศ การดำเนินงานยังมาไม่ถึง

Q: ทีนี้ก็อยากจะทราบว่ามีแนวโน้มไหมที่จะนำ Xbox One มาขายในไทย
A: ตอนนี้ยังคงอยู่กับทางไมโครซอฟท์เดิมอยู่นะคะ ต้องถามกับเขา (ไมโครซอฟท์เดิม) ก่อนนะคะ ตอนนี้ยังเหมือนเดิมทุกอย่าง ยังดูแลสิ่งที่มีอยู่เหมือนเดิม คือตามแผนการคือ จะรวมทีมทั้ง 2 จะใช้เวลาในการรวม 18-24 เดือน เพราะฉะนั้นจะค่อย ๆ เกิดขึ้น แล้วตอนนี้เรายังดำเนินการทุกอย่างเหมือนเดิมอย่างที่ทำมาอยู่

Q: แล้วในข่าวลือที่ไมโครซอฟท์จะยังคงแบรนด์ "Nokia Lumia" คู่กัน ประมาณ 18 เดือนนี้ มีความเห็นอย่างไรครับ
A: ในแผนระยะยาวจะเป็นอย่างไร เราก็จะประกาศอีกที แต่ตอนนี้เอาเป็นว่าที่รวมกันยังคงเหมือนเดิม

Q: ตอนนี้ภาพรวมตลาดมือถือเป็นอย่างไรบ้าง
A: ก็ต้องบอกว่า มันมีการเปลี่ยนแปลงตลอดทุก ๆ ปีนะคะ ก็เราว่าเทรนด์ของสมาร์ทโฟนยังคงเป็นธีมหลักค่ะ ภาพรวมของปีนี้จะอยู่ในส่วนของสมาร์ทโฟนที่หน้าจอใหญ่, เน้นความต้องการระดับบน ซึ่งในรอบนี้เราจะมาเน้นในส่วนของ affordable smartphone เครื่องประมาณ 3-5 พันบาท และอีกปัจจัยหลัก ๆ ที่จะทำให้ตลาดสมาร์ทโฟนกลับมาคึกคักก็คือ การย้ายลูกค้าจาก 2G มา 3G

Q: ผมได้ข่าวมาว่า ทางไมโครซอฟท์เองได้จับมือกับทางบริษัทแห่งหนึ่งนะครับ (เพิ่งจำชื่อได้ภายหลังก็คือ Netsize ตามข่าวก่อนหน้านี้ครับ) เพื่อจะขยาย operator billing ให้ครอบคลุมประมาณ 160 เครือข่ายทั่วโลกอ่ะครับ ก็คือในไทยจะมีครบทั้ง 3 เครือข่ายเลย ไม่ทราบว่าทางไมโครซอฟท์โมบายล์เองจะเริ่มเปิดขยายเมื่อไรครับ
A: ตอนนี้คุยกันอยู่ทั้ง 3 เจ้า ตอนนี้เราออนไปแล้วเจ้าหนึ่ง (ก็คือ dtac) ใกล้ ๆ อีกเจ้าหนึ่ง (แหล่งข่าววงในระบุว่าเป็น AIS) และก็ไกลกว่านิดอีกเจ้าหนึ่ง (คาดว่าเป็น TrueMove H) นะครับ คือทางโนเกียเองมีความสัมพันธ์กับ operator ต่าง ๆ ทั้งหมด 163 operator ทั่วโลกอยู่แล้วนะครับ เพราะฉะนั้นเขาคง average ความสัมพันธ์กับเราตรงนี้นะครับ

Q: Product line ของเราจะเป็นอย่างไรต่อจากนี้ และจะเน้นส่วนไหนเป็นพิเศษ
A: ยังเหมือนเดิมนะคะ มี Lumia เป็น platform หลัก segment บนขึ้นไป 5 พันขึ้นไป มี X อยู่ตรงกลาง ก็ตอบโจทย์ในแง่ affordable และก็มี Asha ตรงระดับล่าง เป็นกลุ่ม entry first ค่ะ ก็แต่ละ product line ก็เสริมกันให้ครอบคลุมทุกตลาด ส่วนเรื่องเน้นส่วนไหนเป็นพิเศษ จริง ๆ ก็จะตอบโจทย์ movement ของตลาด ถามว่าอันไหนสำคัญกว่ากัน ก็ต้องบอกว่า capture ทั้ง 3 segment หลัก ๆ

Q: การเข้าไปทำโปรโมชั่นกับทาง operator จะมีมากขึ้นหรือเปล่าครับ
A: มีมากอยู่แล้ว ก็คือยังมีมากต่อไป (ฮา) คือเราก็ร่วมกับเขาทุก ๆ ค่าย ทุก segment อยู่แล้ว ก็ขึ้นอยู่กับว่า Lumia ตอนนี้เราก็มีร่วมมือกันไม่ว่าจะเป็น replacement ลูกค้าเก่าก็จะมาซื้อเครื่องอย่างนี้ อย่างที่หลัก ๆ ตอนนี้ก็น่าจะเป็น 3G migration

Q: ไม่ทราบว่า ตัวแคมเปญของ Nokia XL กับ Lumia 630 คือจะออกมาเป็นรูปแบบไหนครับ
A: มี 2 แคมเปญแยกกันนะคะ แต่ก็คงจะเริ่มเร็ว ๆ นี้ ตัว 630 ก็จะเริ่มก่อน แล้วก็จะตามด้วย XL นะคะ ก็จะเป็น 2 แคมเปญ คนละ product line กันค่ะ ไม่รวมกัน ในแง่ของการทำตลาดนะคะ เพราะว่าสิ่งที่เราพูดออกไปอาจจะมี selling point ที่แตกต่างกัน และเราก็เลยแยกกัน

Q: ตอนนี้เรามองเรื่องกำลังซื้ออย่างไรบ้าง
A: ก็คือ ต้องบอกว่า ในแง่ของมือถือ พอมันถูกลง จริง ๆ เราว่ามันก็ offset กันนะคะ มือถือถูกลง ราคาถูกลง ฟีเจอร์เยอะขึ้น แต่ถ้าถามเรื่องผลกระทบ เรื่องของการ delay purchase แล้ว ก็อาจจะมีอยู่บ้าง เพราะฉะนั้น Net รวมกันแล้วก็มีบวกลบ เราก็เลยมองว่า impact โดยรวมอาจจะไม่ได้ใหญ่ และรุนแรงมาก

Q: Lumia 930 คือจะวางจำหน่ายภายในเดือนหน้าใช่ไหมฮะ
A: เรายังไม่ได้กำหนดแน่นอนสำหรับประเทศไทยนะคะ คือเราวางไว้ที่ไตรมาสที่ 2 ถ้าเป็นไปตามแพลน

Q: เรามีแผนรับมืออะไรหรือยังคะเกี่ยวกับเรื่องการเมือง
A: การเมือง ก็ต้องบอกว่าเป็นอะไรที่ยาวนานตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมานะคะ สิ่งที่เราคงดูแล ในเรื่องระบบขนส่งไม่มีผลอยู่แล้ว เพราะว่า center ของการขนส่งไม่ได้อยู่ที่ใจกลางเมืองที่ได้รับผลกระทบ และก็ในแง่ของผู้บริโภคเอง ก็อาจจะกระทบในแง่ของช็อปที่อยู่ใน location นั้น ๆ เราเชื่่อว่าภาพรวมนั้น ลูกค้าจะไปซื้อมือถือจากช่องทางอื่นได้อะค่ะ ที่เราก็มีร้านค้ามือถือ, Nokia Shop หลายสาขา

Q: Windows Phone 8.1 ที่มาพร้อมกับเฟิร์มแวร์ Lumia Cyan จะมาในไทยประมาณช่วงเดือนกรกฎาคมหรือไม่ครับ (แบบอัพเกรด)
A: อัพเกรดยังไม่แจ้งอย่างเป็นทางการ แต่หลังจากที่ Lumia 630 ออกมาเนี่ย เราก็เริ่มเทสในออฟฟิศกับรุ่นเดิม ๆ แล้ว อีกไม่นานเกินรอ อัพได้ตั้งแต่ Lumia 520 ขึ้นมาเลย ไม่ทิ้งใครทั้งนั้น

Q: ไมโครซอฟท์มีแผนที่จะยุบรวม Nokia MixRadio เข้ากับ Xbox Music หรือเปล่าครับ
A: ตอนนี้ยังไม่ได้คุยกันครับ คืออย่างที่ทราบกันว่าดีลนี้เพิ่งเสร็จสิ้นไปเมื่อไม่นานมานี้ รายละเอียดตรงนี้ยังไม่ได้ระบุมาครับ

Q: แล้วจะสามารถซื้อเพลงจาก Nokia MixRadio ผ่าน operator billing ในไทยหรือไม่
A: ตรงนี้ยังตอบไม่ได้นะครับ เพราะว่าการซื้อเพลงบน MixRadio นี้นั้นเราได้ดีลกันในบางประเทศนะครับ แล้วแต่ประเทศด้วยครับ

จบการรายงานบรรยากาศงานเปิดตัว Nokia XL และ Lumia 630 อย่างเป็นทางการแล้วนะครับ สำหรับรายงานพิเศษคราวหน้า ผมจะรีวิวตัว Nokia Treasure Tag ที่เปิดตัวไปพร้อมกันอีกทีนะครับ สำหรับวันนี้สวัสดีครับ :-)

Blognone Jobs Premium