รายงาน: iPhone 6 อาจจะใช้จอภาพความละเอียดที่ 1704x960

by toandthen
14 May 2014 - 15:57

เว็บ 9to5Mac ได้ออกมารายงานว่าแอปเปิลอาจจะเลือกเปลี่ยนความละเอียดจอภาพของไอโฟนอีกครั้ง โดยคราวนี้อาจจะใช้ความละเอียดที่ 1704x960 โดยความละเอียดนี้อาจจะถูกเรียกว่าโหมด 3x ซึ่งต้องแสดงกราฟิกที่ความละเอียดสูงกว่าไอโฟนรุ่นแรก 3 เท่า

ในบทความ ทางเว็บบอกว่าแอปเปิลจะเลือกเปลี่ยนความละเอียดของหน้าจอทุก ๆ สองปี หากเริ่มนับตั้งแต่สมัยไอโฟน 3G เป็นต้นมา ครั้งแรกที่แอปเปิลเปลี่ยนความละเอียดหน้าจอคือตอนเปิดตัว iPhone 4 (ที่เปลี่ยนมาใช้ Retina Display) และอีกครั้งคือตอนเปิดตัว iPhone 5 ที่มีการเปลี่ยนอัตราส่วนหน้าจอให้ยาวกว่าเดิม

ครั้งที่แอปเปิลเลือกเปลี่ยนมาใช้ iPhone 4 แอปเปิลเรียกโหมดการแสดงผลกราฟิกบน Retina Display ว่า 2x scaling mode (pixel-doubling) ซึ่งตรงจุดนี้ นักพัฒนาจะต้องเพิ่มกราฟิกใหม่ที่มีความละเอียดมากกว่าเดิมสองเท่า เพื่อที่จะทำให้การแสดงผลบน Retina Display ที่มีความละเอียด 326 พิกเซลต่อนิ้วสามารถทำได้คมขึ้น

ตอนนี้ในปี 2014 แอปเปิลกำลังจะทำการเปลี่ยนความละเอียดของจอภาพไอโฟนอีกครั้ง ทางเว็บ 9to5Mac เชื่อว่าแอปเปิลจะใช้วิธีเดิมที่เคยทำสมัยตอนเปลี่ยนจาก iPhone 3GS มาเป็น Retina Display บน iPhone 4 นั่นก็คือการเพิ่ม 3x scaling mode หรือโหมด pixel-tripling ขึ้น ซึ่งหมายความว่ากราฟฟิกต่าง ๆ จะต้องถูก scale จากจอภาพ Retina Display ปัจจุบัน 150%

เว็บ 9to5Mac อ้างว่า ความละเอียดจอภาพใหม่ของ iPhone 6 น่าจะเป็น 1704x960 เพราะนั่นคือขนาดหน้าจอ 568x320 (ความละเอียดฐานจาก iPhone รุ่นแรกที่อัตราส่วน 16:9) เอามาคูณ 3 ทั้งแนวตั้งและแนวนอน และหากดูจากภาพหลุดต่าง ๆ แล้ว เชื่อว่าแอปเปิลไม่ได้เปลี่ยนอัตราส่วนกว้างยาวของจอภาพไปเป็นอัตราส่วนอื่น

ความละเอียด 1704x960 จะทำให้ iPhone 6 รุ่น 4.7 นิ้ว มีความละเอียดจอภาพอยู่ที่ 416 พิกเซลต่อนิ้ว ส่วนรุ่น 5.5 นิ้วจะอยู่ที่ 355.60 พิกเซลต่อนิ้ว ทำให้แอปเปิลสามารถเรียกจอภาพเหล่านี้ว่าเป็นจอ Retina Display ได้อยู่ เพราะหากใครจำได้ สตีฟ จ็อบส์เคยบอกว่าจอภาพมือถือจะถูกเรียกว่า Retina Display ได้ ต้องมีความละเอียดพิกเซลต่อนิ้วเกิน 300

ทางเว็บบอกว่ามีความเป็นไปได้สูง ที่แอปเปิลจะเลือกให้หน้า Home Screen กับ UI ส่วนหลักของตัว iOS เช่น Notifications Center แสดงผลคมชัดขึ้นและใหญ่ขึ้นบนจอภาพของ iPhone 6 แต่ UI ส่วนอื่น ๆ เช่นในแอพพลิเคชัน อาจจะมีการปรับเปลี่ยน UI เพื่อให้สามารถใช้สอยพื้นที่ที่เพิ่มขึ้นมาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งนั่นก็หมายความว่าแอปเปิลและนักพัฒนาแอพ iOS จะต้องเจอกับปัญหา fragmentation เต็ม ๆ

อย่างไรก็ตาม รายงานฉบับนี้ยังบอกอีกว่า ปัญหา fragmentation และปัญหาการปรับเปลี่ยนกราฟิกบน iOS สามารถแก้ไขได้ง่ายกว่าเดิมมาก หลังจากที่แอปเปิลพยายามผลักดันให้นักพัฒนาหันมาออกแบบแอพพลิเคชันสไตล์ flat ซึ่งเน้นการใช้กราฟิกที่เป็น vector ต่างจากการออกแบบแบบ “สมจริง” แบบเดิม ที่มีการใช้กกราฟิกประเภท raster มาก

รายงานนี้จะจริงหรือไม่ เชื่อว่าเราอาจจะคงต้องรอการประกาศอย่างเป็นทางการที่งาน WWDC ที่จะมีขึ้นในเดือนหน้านี้ หรือไม่ก็อาจจะต้องรอถึงช่วงไอโฟนเปิดตัวเลยก็ได้

ที่มา - 9to5Mac

Blognone Jobs Premium