เมื่อวานนี้ทางอินเทลได้จัดงาน Intel Mobility Roadshow เพื่อแนะนำถึงทิศทางของอินเทลในตลาดโมบายในขณะนี้ตลอดจนถึงในอนาคตในอีกประมาณ 3-6 เดือนข้างหน้า (ลองอ่านยุทธศาสตร์นี้ได้จากข่าวเก่าครับ) ซึ่งผมได้มีโอกาสเข้าร่วม (เดี๋ยวจะนำมาลงในภายหลังครับว่าพูดถึงอะไรกันบ้าง) และแน่นอนว่านำเอาบรรดาผลิตภัณฑ์จากคู่ค้า (partner) มาแสดงด้วย ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ Acer Aspire Switch 10 ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อสิ้นเดือนเมษายนที่ผ่านมาด้วย
ผมจึงไม่พลาดโอกาสที่จะลองจับและลองใช้งานเป็นระยะเวลาสั้นๆ ครับ สเปคหาอ่านได้จากข่าวเก่าครับ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เราลองมาดูเครื่องกันครับ
ตัวเครื่องเมื่อเปิดฝาครับ ครั้งแรกที่เห็น ต้องยอมรับว่าค่อนข้างคล้ายกับ Iconia W510/W511 (ที่คุณ icez เป็นคนรีวิว) ที่ใช้อยู่ เพียงแต่รู้สึกว่าดูดีขึ้นเล็กน้อย
ตัวหน้าจอของเครื่อง (คือตัวแท็บเล็ต) ดูแล้วแทบไม่ต่างจาก W510 ถ้ามองในระยะไกล (และไม่มีสติ๊กเกอร์แปะไว้บอกว่าเป็น Aspire Switch 10) แต่ข้อดีอันแรกที่เห็นชัดเจนคือย้ายลำโพงที่เคยอยู่ข้างเครื่องสมัย W510 มาด้านหน้าแล้ว
แป้นพิมพ์ ซึ่งปรับปรุงไปพอสมควร แต่โดยรวมก็ยังไม่ทิ้งเค้าลางเดิมของ W510 มากนัก ผมลองพิมพ์คร่าวๆ ดูแล้ว ให้ความรู้สึกไม่ต่างกันเท่าไหร่ และถ้าสังเกตให้ดี แป้นแถวสุดท้ายด้านบนหดเล็กลงไปมาก อาจจะทำให้คนทำงานอย่างโปรแกรมเมอร์ ที่ต้องพึ่งพาแป้นพิมพ์ที่มีคำสั่งแถวบน ทำงานกันลำบากเล็กน้อย
ตัวเครื่องเวลาเปิดใช้งานแบบโน้ตบุ๊ก จะยกตัวขึ้นมาเล็กน้อยเพื่อให้ได้องศา แบบเดียวกับ Sony VAIO Pro ที่มีขาอยู่ตรงฐานจอ
ฝาหลังเป็นสีเงิน มีโลโก้เอเซอร์แปะตรงกลาง ไร้กล้องหลังและสติ๊กเกอร์ทั้งหลายครับ ให้ความรู้สึกที่หรูหราอยู่พอตัว
ด้านล่างของตัวแป้นพิมพ์ยังคงรูปแบบเหมือนเดิมจาก W510 ไม่ผิดเพี้ยนครับ ส่วนด้านขวามือก็เป็นลักษณะที่คล้ายกัน เพียงแต่ว่าย้ายที่ชาร์จขึ้นมา และเปลี่ยนหัวให้เป็นแบบกลมครับ
ด้านซ้ายมือมีปุ่มเปิดปิดเครื่อง ปรับเสียง และก็ช่องเสียบหูฟังครับ
ความหนาของเครื่องเมื่อประกบกับแป้นพิมพ์ที่เอาการอยู่
แม้ว่าจะคล้ายๆ ตัวรุ่นพี่อย่าง Iconia W510 ค่อนข้างเยอะ แต่สิ่งหนึ่งที่เปลี่ยนไปในทางบวกอย่างชัดเจน (และทำให้ผมดีใจจนซาบซึ้ง) นั่นก็คือ หากจะแยกระหว่างแป้นพิมพ์กับตัวแท็บเล็ตแล้ว สิ่งที่ผมจะต้องทำมีเพียงการ "ดึง" ออกครับ ใช้แรงไม่มาก และเป็นวิธีเดียวกับ Surface ซึ่งหาไม่ได้จาก W510 (ที่ต้องเลื่อนปุ่มปลดล๊อคก่อน แล้วค่อยดึงตัวเครื่องออกมาจากฐานแป้นพิมพ์)
ตัวพอร์ตที่เชื่อมกับแป้นพิมพ์นั้นคล้าย Surface เอามากๆ (ทำให้ผมนึกถึงแท็บเล็ตต้นแบบที่เปิดตัวในงาน Computex ปีที่แล้ว)
เมื่อเป็นเช่นนี้ย่อมทำให้ Aspire Switch 10 มีลูกเล่นเป็นท่าต่างๆ เพิ่มมากขึ้นจากเดิมด้วยเช่นกัน (แบบเดียวกับ Lenovo Yoga) เช่น Tent Mode หรือ Display Mode
เท่าที่ได้ลองใช้เครื่อง ก็พบว่าประสบการณ์โดยรวมๆ ยังคล้ายๆ กับการใช้ Iconia W510 อยู่ ไม่ได้ต่างกันมาก ทั้งสัมผัสแป้นพิมพ์ หรือน้ำหนักที่ถือเมื่อรวมแป้นพิมพ์ (ซึ่งถือว่าค่อนข้างหนัก) อย่างไรก็ตาม ประสิทธิภาพของเครื่องนั้นมีมากขึ้นกว่าเดิม ตอบสนองงานพื้นฐานทั่วไปได้ดี (แม้ว่าอาจจะไม่ได้เร็วมากๆ ก็ตาม)
สิ่งที่เห็นเป็นรูปธรรมชัดเจนที่สุดจากการลองใช้ในระยะเวลาสั้นๆ คือวิธีการเปลี่ยนการยึดเครื่องจากเดิมที่ต้องเลื่อนปุ่มแล้วดึงออก มาเป็นใส่ลงไปตรงๆ ให้ตรงช่องและแท่น ซึ่งสิ่งที่ได้ไม่เพียงแค่ความสะดวกรวดเร็วอย่างเดียว แต่ยังได้ลูกเล่นในการทำงานที่มากกว่าเดิม
ผมยังไม่มีโอกาสได้ถามถึงราคาและวันวางจำหน่าย เข้าใจว่าเป็นเพราะความใหม่มากๆ ด้วยส่วนหนึ่ง แต่เมื่อทางอินเทลประเทศไทย นำเครื่องเข้ามาจัดแสดงแล้ว ผมคาดว่าอาจจะใช้เวลาไม่นานนักจากนี้ ก่อนที่เครื่องจะวางตลาดในประเทศครับ