เหตุการณ์ Facebook ใช้งานไม่ได้ในช่วงบ่ายของวันนี้ ถือเป็นตัวอย่างที่ดีของ "สถานการณ์จริง" ว่าถ้าช่องทางการสื่อสารผ่านอินเทอร์เน็ตเกิดปัญหาขึ้นแล้วส่งผลกระทบในวงกว้างแค่ไหน และในช่วงที่บ้านเมืองยังไม่กลับสู่ภาวะปกติเช่นนี้ ผลกระทบยิ่งรุนแรงขึ้นทั้งในแง่การสื่อสารที่ส่งหากันไม่ถึง และความหวาดระแวงหรือสงสัยต่อสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นโดยไม่มีคำอธิบายที่ชัดเจนนัก
ในฐานะเว็บไซต์ข่าวไอที Blognone ขอแนะนำเทคนิคสำหรับ "การสื่อสารผ่านอินเทอร์เน็ตในสถานการณ์พิเศษ" ต่อผู้ใช้อินเทอร์เน็ตชาวไทยจำนวน 3 ข้อใหญ่ ดังนี้
สำหรับผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตทั่วไปที่เป็น user ควรเตรียมช่องทางการสื่อสารผ่านอินเทอร์เน็ตไว้มากกว่า 1 ช่องทาง เพื่อเป็นทางเลือกสำรองกรณีช่องทางใดช่องทางหนึ่งมีปัญหาจนไม่สามารถใช้งานได้ และควรนัดแนะหรือเตรียมความพร้อมกับครอบครัว/คนสนิทว่าถ้าช่องทางสื่อสารปกติเกิดปัญหาขึ้น ให้สื่อสารผ่านช่องทางใดแทน เพื่อไม่ให้พลาดการติดต่อระหว่างกัน
โดยปกติแล้ว ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตไทยมักนิยมใช้การสื่อสารผ่าน Facebook และ/หรือ LINE ดังนั้นเราจึงขอแนะนำให้เพิ่มช่องทางอื่นๆ มากขึ้นอีก 1-2 ทาง เช่น Twitter, Google Hangouts, WhatsApp, Skype หรือจะเป็นการสื่อสารทางอีเมลก็ได้เช่นกัน ส่วนการเลือกว่าจะใช้ช่องทางการสื่อสารแบบใดคงขึ้นกับความคุ้นเคยของกลุ่มที่เราจะสื่อสารด้วยเป็นหลัก
อย่าลืมว่าในสถานการณ์ที่ฉุกเฉินและอาจใช้งานอินเทอร์เน็ตไม่ได้ ช่องทางการสื่อสารที่หวังพึ่งได้มากที่สุด (ในแง่การสื่อสารไปยังปลายทางได้) คือโทรศัพท์บ้านและ SMS
ตามปกติแล้ว หน่วยงาน บริษัท ห้างร้าน แบรนด์ ในประเทศไทย มักนิยมสื่อสารผ่าน social network ด้วย Facebook Page เป็นหลัก และฝั่งของผู้บริโภคหรือลูกค้าเองก็มีความคุ้นเคยต่อการติดต่อกับหน่วยงานเหล่านี้ผ่าน Facebook อยู่แล้ว
แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้แสดงให้เห็นว่า Facebook ก็มีความเสี่ยงในการใช้งาน ดังนั้นคำแนะนำของเราคือการ "กระจาย" ช่องทางการสื่อสารผ่าน social network ยี่ห้ออื่นๆ เพื่อกระจายความเสี่ยงที่บางช่องทางจะใช้งานไม่ได้ในบางช่วงเวลา
social network ที่ได้รับความนิยมมีลักษณะการใช้งานที่แตกต่างกันไป หน่วยงานควรพิจารณาเลือกใช้งานตามความเหมาะสมกับสภาพองค์กร
บทความอ่านประกอบ Malaysia Airlines MH370 ตัวอย่างที่ดีของการสื่อสารออนไลน์ในภาวะวิกฤต
นอกจากนี้ เราแนะนำให้หน่วยงานพยายามประชาสัมพันธ์ไปยังกลุ่มเป้าหมายของตัวเองว่า ช่องทางการสื่อสารอื่นนอกจาก Facebook มีอะไรบ้าง โดยอาจสื่อสารผ่านโพสต์ของ Facebook เป็นระยะ, ขึ้นรายการ social ที่มีทั้งหมดบนเว็บไซต์ หรือแสดงข้อมูลที่อยู่ติดต่อผ่าน cover page ของ social network ต่างๆ เพื่อให้เห็นได้ง่าย
แอพแชทยอดนิยมบางตัวไม่ได้ออกแบบให้เน้นเรื่องความเป็นส่วนตัวหรือความปลอดภัยมากนัก สำหรับผู้ใช้ที่ระมัดระวังในแง่ความเป็นส่วนตัวของข้อมูล เราแนะนำใช้แอพแชทที่เข้ารหัสข้อมูลแบบ end-to-end ซึ่งในท้องตลาดมีให้เลือกหลายตัว เช่น
Blognone จะหาโอกาสมานำเสนอรายละเอียดของแอพแต่ละตัวต่อไป
เรายังแนะนำว่านอกจากแอพแชทที่เข้ารหัสแล้ว ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตควรเรียนรู้การใช้เครื่องมือท่องเน็ตที่รักษาความเป็นส่วนตัว เช่น VPN หรือ Tor ซึ่งหาข้อมูลอ่านได้ตามลิงก์ดังต่อไปนี้
เอกสารอ่านเพิ่มเติม: วิธีทางเทคนิคในการหลบเลี่ยงการเซ็นเซอร์