ทิศทางอย่างหนึ่งในตลาดรถยนต์ช่วงรอบปีหลังๆ คือการเชื่อมต่ออุปกรณ์พกพาเข้ากับแผงคอนโซลหน้าของรถยนต์ (ที่มักเรียกกันว่า infotainment system) ส่วนวิธีการเชื่อมต่อของรถยนต์แต่ละค่ายนั้นก็แตกต่างกันไป
ค่าย Ford มีแพลตฟอร์มเทคโนโลยีชื่อ Ford SYNC มาสักระยะหนึ่งแล้ว และช่วงหลังๆ ก็ต่อยอดแพลตฟอร์ม SYNC โดยเพิ่มฟีเจอร์ชื่อ AppLink ให้แอพบนมือถือสามารถลิงก์กับรถยนต์ได้ผ่านสาย USB หรือ Bluetooth (รายละเอียดอ่านได้จากข่าวเก่า Ford Focus 2012)
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ผมได้รับเชิญจาก Ford ประเทศไทยให้ไปร่วมงานแถลงข่าวที่งาน Computex 2014 ที่ไทเป โดย Ford ประกาศข่าวสำคัญว่าจะเปิดฟีเจอร์ AppLink ให้กับลูกค้ารถยนต์เพิ่มอีก 3 ประเทศคือ ไต้หวัน นิวซีแลนด์ และประเทศไทย!
ย้อนความกันอีกรอบครับ Ford AppLink เป็นฟีเจอร์ที่ทำให้เราสามารถเชื่อมแอพใดๆ ก็ได้บนสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต ให้ใช้งานผ่านอินเทอร์เฟซของรถยนต์ Ford ได้ (จะกดปุ่มจากแผงคอนโซลหน้าหรือจะสั่งงานด้วยเสียงพูดก็ได้ หน้าตาของแอพเวอร์ชันคอนโซลก็ตามภาพด้านล่าง) โดยที่การประมวลผลทั้งหมดยังอยู่บนอุปกรณ์พกพาของเรา
AppLink จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับการทำงานภายในแอพเลย ทำหน้าที่เป็นตัวเชื่อมให้เราสั่งงานแอพ (บางตัวที่รองรับฟีเจอร์นี้) โดยไม่ต้องดูหน้าจอโทรศัพท์ ช่วยให้การใช้งานแอพขณะขับรถปลอดภัยมากขึ้น
ผู้บริหารของ Ford ให้สัมภาษณ์ว่า AppLink ออกแบบมาเพื่อคนขับเป็นหลัก เพราะต้องมีสมาธิกับท้องถนนตลอดเวลา โดย Ford เลือกใช้แนวทางการเชื่อมกับแอพบนอุปกรณ์พกพา แทนการสร้างแอพที่รันบนแผงคอนโซลหน้ารถยนต์ เพราะมองว่านักพัฒนาแอพทำงานง่ายขึ้น แก้โค้ดแอพเดิมเพียงเล็กน้อยให้รองรับ AppLink เท่านั้น ไม่ต้องลงทุนสร้างแอพตัวใหม่บนแพลตฟอร์มของ Ford อีกทีหนึ่ง
นักพัฒนาแอพที่สนใจเชื่อมกับ AppLink สามารถเข้าไปดาวน์โหลด SDK ได้จาก Ford Developer Program (ต้องลงทะเบียนก่อน) เพื่อพัฒนาแอพก่อนส่งให้ Ford ตรวจอนุมัติและให้คำแนะนำเพิ่มเติมว่าฟีเจอร์ที่เหมาะกับการใช้ในรถยนต์ควรมีอะไรบ้าง
ตอนนี้ AppLink SDK รองรับแอพบน Android 2.1 และ iOS 5.0 ขึ้นไป การเชื่อมต่อกับรถยนต์ต้องผ่านสาย USB (กรณี iOS) หรือ USB/Bluetooth (กรณี Android) ส่วน Windows Phone นั้นทาง Ford บอกว่ายังติดปัญหาทางเทคนิคที่ต้องแก้ไขร่วมกับไมโครซอฟท์อยู่ครับ
แอพที่ Ford มองหาแบ่งออกเป็น 3 หมวดหมู่ใหญ่ๆ คือ
ประเทศแถบนี้ที่ AppLink เปิดให้บริการแล้วคือจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งก็มีแอพดังๆ หลายตัวรองรับแล้ว ดังภาพข้างล่าง
Ford บอกว่าแอพตระกูลโซเชียลสามารถใช้กับ AppLink ได้ แต่ Ford จะพยายามจำกัดฟีเจอร์บางอย่างเพื่อให้การขับขี่ปลอดภัยมากขึ้น เช่น ห้ามโพสต์ข้อมูล สามารถอ่านโพสต์ของคนอื่นได้อย่างเดียว เพื่อไม่ให้เสียสมาธิระหว่างการขับรถยนต์
ส่วนการสั่งงานด้วยเสียงภาษาไทยนั้นคงต้องรอกันไปก่อน เบื้องต้น Ford SYNC ยังรองรับเฉพาะเสียงภาษาอังกฤษ และภาษาหลักๆ ของโลกตะวันตกเท่านั้น
นักพัฒนาไทยที่สนใจสามารถลองสร้างแอพเชื่อมกับ AppLink ได้ก่อนเลย ส่วนกำหนดเวลาที่แน่นอนสำหรับประเทศไทยต้องรอทาง Ford ประกาศรายละเอียดอีกทีหนึ่งครับ (Ford บอกว่าถ้าเป็นบริการรายใหญ่ในประเทศไทย จะเข้าไปเจรจาทางธุรกิจโดยตรง อย่างที่ทำมาแล้วกับการเจรจาให้ Spotify รองรับ AppLink ในหลายประเทศ)
ปิดท้ายด้วยคลิปสาธิตการใช้งาน AppLink ในรถยนต์จริงๆ โดยเจ้าหน้าที่ของ Ford ครับ อันนี้เป็นการสั่งงานด้วยเสียงพูดและ Ford SYNC ก็ตอบกลับมาเป็นเสียงพูดเช่นกัน