ในบ้านเรา บริการอย่าง Uber ที่เป็นลักษณะรถแท็กซี่หรู อาจจะยังไม่มีคู่แข่งที่ชัดเจนมากนัก (ของไทยชัดเจนสุดคงเป็น GrabTaxi) แต่ที่ต่างประเทศ Uber เองก็มีคู่แข่งคนสำคัญอย่างเช่น Lyft หรือ Gett ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นคือ Uber ใช้วิธีการที่ CNN Money เรียกว่าเป็นวิธีการ "สกปรก" ซึ่งก็คือการเรียกใช้บริการคู่แข่ง แล้วสั่งยกเลิกเป็นจำนวนมาก หรือการใช้บริการระยะทางสั้นๆ ที่มีกำไรต่ำมากๆ แทน
CNN Money อ้างรายงานของ Lyft ว่า พนักงานหรือเจ้าหน้าที่ของ Uber จำนวน 177 คน ได้ใช้วิธีการเรียกรถแล้วยกเลิกเป็นจำนวนมากถึง 5,560 ครั้ง ตั้งแต่เดือนตุลาคมของปีที่แล้ว โดยมีหลักฐานว่า พนักงานบางคนของ Uber ซึ่งใช้หมายเลขโทรศัพท์เดียวกันแต่แยกบัญชีกัน กระทำการในลักษณะดังกล่าวนี้ เป็นจำนวนถึง 300 ครั้ง ตั้งแต่ปลายพฤษภาคมจนถึงต้นมิถุนายน เมื่อรวมกับบัญชีผู้ใช้อื่นที่ผูกอยู่กับหมายเลขโทรศัพท์เดียวกัน จะทำให้หมายเลขโทรศัพท์เดียว มียอดการยกเลิกสูงถึง 1,524 ครั้ง ในช่วงเวลาเดียวกัน
นอกจากนั้นแล้ว ยังใช้วิธีการนั่งรถในระยะทางใกล้ๆ ซึ่งทำกำไรต่ำด้วย ทำให้กำไรของ Lyft ที่จะได้มีน้อยลง และคนขับรถเองยังต้องเสียค่าน้ำมันและระยะเวลาในการไปถึงเป้าหมาย ก่อนจะโดนยกเลิก ซึ่งทำให้เป็นภาระและต้นทุนในการดำเนินงานด้วย รวมไปถึงการส่งข้อความข่มขู่คนขับตอน Gett เปิดใหม่ๆ ว่า การทำงานให้กับคู่แข่งด้วยนั้นเป็นสิ่งต้องห้าม ซึ่งในภายหลังทาง Uber ออกมาระบุว่านโยบายคืออนุญาตให้ทำงานกับบริษัทอื่นได้
ด้าน Lyft ออกมาระบุว่าสิ่งที่ Uber ทำถือเป็นสิ่งที่แย่และสร้างผลกระทบให้กับอุตสาหกรรมและวงการโดยรวม ส่วน Uber ออกมาแก้เกี้ยวว่าสิ่งที่ตนเองทำ เป็นการสร้างผู้ประกอบการบนแพลตฟอร์มของตัวเอง
ที่มา - CNN Money