EMC ประกาศวิสัยทัศน์ "Federation" ใช้ 3 บริษัท 4 แบรนด์ ทำตลาดไอทียุคหน้า

by mk
22 August 2014 - 07:57

EMC ถือเป็นบริษัทใหญ่อีกแห่งในโลกไอทีองค์กร ถึงแม้ว่าแบรนด์อาจไม่ดังเท่ากับ IBM, HP, Dell, Oracle เพราะ EMC ไม่ได้ขายฮาร์ดแวร์เซิร์ฟเวอร์เหมือนบริษัทข้างต้น แต่ในแง่สินค้าอื่นๆ ก็ถือว่าครบครัน ตั้งแต่สตอเรจที่เป็นรากเหง้าของบริษัทตั้งแต่แรก รวมถึงบริษัทในเครืออย่าง VMware, RSA และบริษัทใหญ่น้อยอีกมากที่ถูก EMC ไล่ซื้อกิจการในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

ล่าสุดในงาน EMC World 2014 ช่วงกลางปีนี้ EMC ประกาศวิสัยทัศน์ใหม่ชื่อ EMC Federation หรือการสร้าง "สมาพันธ์" ของบริษัทและแบรนด์ในเครือทั้งหมด แยกกันทำตลาดไอทีในแต่ละส่วน เพื่อรองรับโครงสร้างพื้นฐานทางไอทียุคหน้าที่กำลังเปลี่ยนแปลง

แพลตฟอร์มไอทียุคที่สาม

มุมมองของ EMC คือโลกไอทีองค์กรกำลังเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง โดยยุคแรก แพลตฟอร์มไอทีคือการรวมศูนย์การประมวลผลไปที่เมนเฟรม และล็อกอินไปใช้งานผ่านเทอร์มินัล ส่วนยุคที่สองเป็นการกระจายศูนย์ไปใช้สถาปัตยกรรมแบบ client-server

ส่วนแพลตฟอร์มไอทียุคที่สาม (3rd platform) คือสถาปัตยกรรมทางไอทีที่ทุกอย่างอยู่บนกลุ่มเมฆ อุปกรณ์มีความหลากหลาย ผู้ใช้งานมีเป็นจำนวนมาก ตัวสถาปัตยกรรมกลับมาเป็นการรวมศูนย์แต่ทุกอย่างกลายเป็น "สิ่งเสมือน" (virtualized) แทน

ข้อมูลเชิงสถิติก็แสดงให้เห็นชัดเจนว่า สถาปัตยกรรมทางไอทีแบบใหม่กำลังเติบโตมาก ในขณะที่สถาปัตยกรรมไอทีแบบดั้งเดิมโตช้าลง องค์กรเองก็ลดค่าใช้จ่ายด้านนี้ลง

เพื่อเป็นการรับมือสภาพการณ์ของวงการไอทีที่เปลี่ยนไป และตอบโจทย์ได้ทั้งแพลตฟอร์มยุคที่ 2 และ 3 ทำให้ EMC ต้องจัดโครงสร้างองค์กรใหม่ ปรับวิธีคิด-วิธีมองโลกไอทีใหม่

EMC Federation

แบรนด์ต่างๆ ของ EMC จะถูกปรับลดลงเหลือแค่ 4 แบรนด์ คือ EMC, Pivotal, RSA และ VMware เท่านั้น เพื่อให้เข้าใจง่ายและลดความสับสนของลูกค้า

ส่วนในแง่องค์กร จะถูกแบ่งออกเป็นบริษัทลูก 3 บริษัท แต่ละบริษัทมี CEO แยกจากกัน และทำตลาดไอทีองค์กรคนละระดับ (layer) กัน คือ Pivotal, VMware และ EMC II (อันหลังคือตัว i สองตัว ไม่ใช่เลขสอง)

  • EMC II หรือ EMC Information Infrastructure จะเน้นตัวโครงสร้างพื้นฐานที่เป็นฮาร์ดแวร์ เน้นสตอเรจ และแพลตฟอร์มการเก็บข้อมูลระดับล่าง (software-defined storage)
  • VMware อยู่ตรงกลาง ทำตัวเป็นมิดเดิ้ลแวร์ วิสัยทัศน์คือเป็น software-defined data center (SDDC) ทุกอย่างในศูนย์ข้อมูลจะต้องถูก virtualized และจัดการได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นหน่วยประมวลผลหรือเครือข่าย
  • Pivotal แอพพลิเคชันระดับสูงทั้งหมด โดยเฉพาะงานสาย big data และ analytics จะถูกทำตลาดภายใต้แบรนด์ Pivotal ใต้วิสัยทัศน์ software-defined enterprise

บริษัทลูกทั้งสามจะดำเนินการภายใต้ EMC บริษัทแม่ ส่วน RSA ที่เป็นผลิตภัณฑ์ด้านความปลอดภัยจะแทรกอยู่ในทุกส่วน และดำเนินงานในฐานะแผนกหนึ่งของ EMC บริษัทแม่ (ไม่ได้แยกออกมาเป็นอีกบริษัท)

ภายใต้โครงสร้างนี้ Joe Tucci ซีอีโอและประธานของ EMC กลายเป็นบิ๊กบอส คุมบริษัทลูกทั้งหมดอีกทอดหนึ่ง ศักดิ์ของ EMC II, VMware และ Pivotal จะเท่ากันหมด

ส่วนของ EMC II จะยังเน้นการขายสตอเรจที่เป็นฮาร์ดแวร์ ซึ่งก็มีให้เลือกหลายรุ่นหลายระดับ และแพลตฟอร์มสตอเรจเสมือน ViPR (ข่าวเก่า EMC เปิดตัว ViPR แพลตฟอร์มสำหรับ Software-Defined Storage) ที่ช่วยให้ศูนย์ข้อมูลมองสตอเรจจากแหล่งต่างๆ เป็นผืนเดียวกันได้ บริหารจัดการง่ายขึ้น

VMware มีเป้าหมายคือแปลงศูนย์ข้อมูลแบบเดิมๆ ให้เป็น software-defined data center โดยแบ่งชั้นของการทำงานเป็นซีพียูเสมือน (vSphere), สตอเรจเสมือน (ใช้ ViPR จาก EMC II), เครือข่ายเสมือน (NSX) แล้วนำทั้งหมดมาทำเป็นกลุ่มเมฆ (vCloud) ที่ใช้งานได้ทั้งการเป็น private cloud (องค์กรซื้อซอฟต์แวร์ไปทำเอง) และ public cloud (VMware ขายโซลูชันให้ศูนย์ข้อมูลทำ) เมื่อนำมาต่อเชื่อมกันเป็น hybrid cloud จึงจัดการง่าย เพราะเทคโนโลยีทั้งสองฝั่งเหมือนกันหมด

Pivotal เป็นเรื่องของการจัดการข้อมูลระดับสูง เน้นการนำข้อมูลมาทำ big data วิเคราะห์เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในเชิงธุรกิจ

RSA ชื่อเสียงด้านความปลอดภัยโด่งดังอยู่แล้ว ก็จะทำทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัย ตั้งแต่การตรวจสอบการล็อกอิน ไปจนถึงการประเมินหาจุดโหว่ในระบบความปลอดภัยขององค์กร

เมื่อนำผลิตภัณฑ์และบริการทั้งหมดในเครือมาเรียงกันเป็นเลเยอร์ ก็จะได้ออกมาเป็นแผนภาพด้านล่างครับ

  • เริ่มจากระดับฮาร์ดแวร์เป็นหน้าที่ของ EMC II ในฝั่งสตอเรจ และ VMware ในฝั่งอุปกรณ์อื่นๆ
  • จากนั้นพอมาเป็นการทำศูนย์ข้อมูล ก็ใช้โซลูชันของ VMware เป็นหลัก
  • ระดับของการเชื่อมข้อมูลและแอพพลิเคชั่น (fabric) ให้เป็นบริการของ Pivotal
  • ระดับของแอพพลิเคชัน หลากหลายตามที่องค์กรต้องการใช้ ซึ่ง RSA อยู่ในส่วนของ Security Analytics
  • สุดท้าย ระดับของผู้ใช้งาน (end user) ก็สามารถใช้ผลิตภัณฑ์สายรีโมทและ MDM ของ VMware ได้ด้วย (เช่น AirWatch ซอฟต์แวร์ด้าน MDM ที่ถูก VMware ซื้อไป)

รายละเอียดเพิ่มเติมดูได้จาก เอกสารนำเสนอของ EMC ครับ

Blognone Jobs Premium