รีวิว NVIDIA SHIELD: เครื่องเล่นเกมพลังหุ่นเขียว จากค่ายเขียว

by inkirby
28 August 2014 - 14:53

NVIDIA SHIELD เป็นเครื่องเล่นเกมพกพาที่ใช้ระบบปฏิบัติการเป็น Android สำหรับคอเกมของหุ่นเขียวที่ต้องการความแรงจาก NVIDIA Tegra พร้อมประสบการณ์การเล่นแบบมีปุ่มกดติดเครื่องไปด้วย ซึ่งหลังการเปิดตัวไปตั้งแต่ต้นปีที่แล้ว และวางขายไปเมื่อสิ้นเดือนกรกฎาคมของปีที่แล้ว และทาง Blognone มีบทความทดลองจับไปเมื่อตุลาคมปีที่แล้วเช่นกัน ผมมีโอกาสได้เล่นอยู่หลายวันหลายคืน ก็ขอเขียนเป็นรีวิวให้ทุกท่านที่สนใจได้อ่านกันครับ (แม้จะทิ้งช่วงไปนานก็ตาม มาช้าดีกว่าไม่มาครับ ฮา)

สเปกของเครื่อง

  • CPU เป็น NVIDIA Tegra 4 แบบ quad-core ที่ความถี่ 1.9 GHz
  • RAM 2 GB
  • หน้าจอสัมผัสขนาด 5 นิ้ว ความละเอียด 1280x720 (HD)
  • ความจุภายในเครื่อง 16 GB สามารถใส่การ์ด microSD เพิ่มได้

ภายนอก

ตัว SHIELD ภายนอกเป็นพลาสติกสีดำ รูปทรงเหมือนเอายานอวกาศมาปั่นรวมกับ gamepad มีแผ่นโลหะแปะอยู่ด้านบน ด้านหน้ามีสกรีนตัวอักษร SHIELD พร้อมช่องระบายอากาศสีเขียว ซึ่งเป็นสีเอกลักษณ์ของ NVIDIA

แผ่นโลหะด้านบนนั้นแปะอยู่กับตัวเครื่องด้วยแม่เหล็กครับ ข้างในมีแถบรหัสเครื่องแอบอยู่

ผิวพลาสติกของ SHIELD นั้น แม้จะจับง่าย แต่ถ้าเล่นเกมนานๆ แล้วมือมีเหงื่อออกก็แอบลื่นเช่นกัน

ช่องที่อยู่ด้านหลังมีตั้งแต่ใช้สำหรับใส่การ์ด microSD, ต่อ mini HDMI, microUSB, และหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร ไปจนถึงแผงระบายความร้อนแผงใหญ่ ซึ่งร้อนพอสมควรเมื่อเล่นเกมได้สักพัก ข้างซ้ายขวามีปุ่ม shoulder และ trigger ตามแบบฉบับ gamepad ทั่วไป

เปิดบานพับขึ้นมาจะพบจอความละเอียด HD สีสด กับปุ่มอีกเต็มไปหมด

ด้านบนทั้งสองฝั่งเป็นลำโพงครับ

การจัดวางปุ่มต่างๆ ของ SHIELD นั้น เซ็ตปุ่ม ABXY เรียงอยู่ในลักษณะเดียวกันกับ gamepad ของ Xbox แต่ใช้สีที่แตกต่างกัน ตัวแท่ง analog แม้จะจัดวางเหมือนกับฝั่ง PlayStation แต่ตรงส่วนปลายแท่งนั้นบุ๋มลงและให้สัมผัสคล้ายกับฝั่ง Xbox มากกว่าครับ

ส่วนปุ่ม 5 ปุ่มตรงกลาง ประกอบด้วยปุ่มปรับเสียง, ปุ่ม Play สำหรับควบคุมวิดีโอหรือเพลงที่เล่นอยู่ในขณะนั้น,​ ปุ่ม Back และปุ่ม Home ซึ่งเป็นปุ่มที่คุ้นเคยกันดีสำหรับผู้ใช้ Android และปุ่ม NVIDIA สำหรับเข้าสู่ NVIDIA SHIELD Hub ซึ่งจะกล่าวถึงในส่วนถัดๆ ไปครับ

ลองถือขึ้นมาเทียบกับขนาดมือชายวัยกลางคนครับ ขนาดไม่ใหญ่มาก แต่หนักเอาเรื่องอยู่เหมือนกันครับ

Benchmark

“Tegra 4 มันจะแน่สักแค่ไหน” - มิตรสหายหลายท่าน

ก่อนจะขึ้นเรื่องเกมในเครื่อง หลายๆ คนเคยถามผมว่า มันใช้ Tegra 4 แล้วมันจะแรงได้ขนาดไหน เนื่องจากผมไม่ได้ลองจุดนี้เท่าไหร่ ได้ลองแค่เพียง AnTuTu X Benchmark เลยมีผลคะแนนมาให้ชมกันแค่แอพเดียวครับ

แม้ว่าคะแนนจะไม่สูงมาก แต่ด้วยความละเอียดจอที่ HD ธรรมดา ก็สามารถเล่นเกมได้ลื่นๆ ไม่มีปัญหาครับ

NVIDIA SHIELD Hub

NVIDIA SHIELD Hub เป็นศูนย์รวมของเกมสำหรับ SHIELD ครับ มีอยู่หลายๆ ส่วนด้วยกัน

Shop คือส่วนที่ NVIDIA คัดสรรเกมมาสำหรับเครื่อง SHIELD โดยเฉพาะครับ ซึ่งสามารถเลือกซื้อและดาวน์โหลดมาเล่นได้ตามสะดวกเหมือนบน Google Play Store ครับ

My PC Games คือส่วนสำหรับสตรีมเกมจากเครื่อง PC ที่มี GPU รหัส GTX รุ่น 650 ขึ้นไป หรือโน้ตบุ๊กที่มี GPU รหัส GTX รุ่น 600M ขึ้นไปครับ (รุ่น GTX 600M จะใช้ได้แค่รุ่นที่เป็นสถาปัตยกรรม Kepler บางรุ่นเท่านั้นครับ)

GRID คือส่วนสำหรับการสตรีมเกมจากเซิร์ฟเวอร์ของ NVIDIA เองมาเล่นบน SHIELD ครับ แต่อินเทอร์เน็ตบ้านๆ ที่ผมใช้งานอยู่ไม่สามารถเล่นได้เนื่องจาก latency เกินครับ... (ถึงแม้ในรูปจะแสดงว่ามันแย่ที่ Wi-Fi router ก็ตาม)

การใช้งานจริง

เท่าที่ผมได้ลองเล่นเกมทั้งบน SHIELD Hub และ Google Play Store ดูหลายๆ เกมนั้น ไม่มีเกมไหนมีปัญหาบน SHIELD ครับ เล่นได้ลื่นดี เกมที่รองรับการใช้ gamepad เล่นอยู่แล้วจะรู้สึกได้รับประสบการณ์ที่ดีเลยทีเดียว แต่สำหรับบางเกมที่ไม่ได้รองรับ gamepad ในตัว NVIDIA ก็มีวิธีการ map ปุ่มเข้ากับการแตะจอมาให้ครับ

ซึ่งถึงแม้จะใช้ได้กับบางเกมที่การควบคุมไม่ยุ่งยากนัก บางเกมยังต้องใช้นิ้วเอื้อมไปจิ้มจอที่หน้าจอในบางหน้าที่ไม่สามารถใช้ปุ่มได้จริงๆ แต่ก็สามารถทำให้เกมบางเกมเล่นได้อรรถรสมากขึ้นได้ครับ (ใครจะเอามือจิ้มจอเล่นกันในเมื่อมีปุ่ม gamepad ขวางอยู่ตรงกลางแบบนั้น จริงมั้ยครับ?)

ฟีเจอร์ที่ผมชอบอย่างหนึ่งคือ GameStream ที่ทำให้สามารถเอนตัวบนที่นอนและเล่นเกมของ Steam ผ่าน SHIELD ได้โดยแค่เปิดคอมทิ้งไว้ที่อีกมุมห้องครับ ซึ่งฟีเจอร์นี้ใช้ได้ดีมากถ้าหากสัญญาณ Wi-Fi เสถียรและแรงพอ

เกมหลายๆ เกมที่เล่นโดยใช้ gamepad ได้ถือว่าเล่นได้ดีครับ ความหน่วง (lag) ต่ำกว่าที่คิดไว้ แต่ก็มีโผล่มาให้เห็นบ้างเป็นบางครั้งครับ

แต่บางเกมที่จำเป็นต้องใช้คีย์บอร์ดและเมาส์ในการเล่น NVIDIA แนะนำว่า ให้เอา SHIELD ไปต่อขึ้นจอทีวีแล้วหาคีย์บอร์ดและเมาส์ที่เชื่อมต่อผ่าน Bluetooth (เรียกว่า Console Mode) จะสะดวกกว่าครับ ถ้าคิดจะเล่นตรงๆ บน SHIELD อย่าฝืนเลยครับ​ (ฮา)

แอพแนวตั้งล่ะ...?

แทบจะใช้งานไม่ได้เลยครับ แอพหลายตัวที่ถูกล็อกการหมุนหน้าจอให้เป็นแนวตั้งจะบังคับให้เราต้องถือ SHIELD ในแนวตั้งเพื่อใช้งานครับ ซึ่งตรงนี้เราสามารถใช้แอพประเภทล็อกการหมุนหน้าจอได้ (เช่น Ultimate Rotation Control) แต่นั่นก็ทำให้หลายๆ แอพแสดงผลเละไม่เป็นท่าเช่นกันครับ...

แบตเตอรี่?

กินแบตเตอรี่อยู่เหมือนกันครับ ผมทดลองเล่นเกมผ่าน GameStream เป็นเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง พบว่าแบตเตอรี่ลดไปเกือบ 50% ครับ แต่ถ้าเล่นเกมบนตัว SHIELD เองจะอยู่ได้นานกว่านี้ แม้จะไม่มากก็ตาม

สรุป

ชอบ

  • ดีไซน์สวยงาม
  • จับกระชับมือ
  • GameStream

ไม่ชอบ

  • หนัก
  • แบตเตอรี่น่าจะอึดกว่านี้
  • ลื่นเมื่อเหงื่อออก

แม้ปัจจุบัน NVIDIA SHIELD Tablet ที่ใหม่กว่าเปิดตัวออกมาแล้ว และมีข่าวสเปกหลุดของ SHIELD 2 จ่ออยู่ก็ตาม ผมคิดว่า SHIELD รุ่นนี้ก็ยังสามารถตอบโจทย์นักเล่นเกมที่ต้องการเล่นเกมบนอุปกรณ์พกพาได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะผู้ที่อยากเล่นเกมบน Android แบบจริงจัง หรืออยากเล่นเกมที่มีแค่บน PC แต่อยากจะเล่นที่ไหนก็ได้ในบ้าน (แต่ไม่มีหรือไม่ต้องการโน้ตบุ๊ก)

แต่สำหรับผู้ที่ไม่ได้เล่นเกมหนักหน่วง ไม่ต้องการปุ่มสำหรับเล่นเกมโดยเฉพาะ หรือไม่ได้ต้องการจะพกพาเกม PC ไปเล่นบนเตียง (หืม?) แค่โทรศัพท์มือถือ Android ทั่วไปก็อาจจะเพียงพอแล้ว หรือถ้าแค่ต้องการเล่นเกม Android แบบใช้ gamepad ก็สามารถหาซื้อ gamepad ที่เชื่อมต่อผ่าน Bluetooth มาเล่นได้อยู่ดี

แต่ถ้าต้องการความแรง ฟีเจอร์สตรีมเกมมาเล่นบนอุปกรณ์พกพาได้ ในราคาแค่ $199 (ราว 6,400 บาท) แล้ว การปฏิเสธที่จะเลือกซื้อ SHIELD มาไว้ครอบครอง ก็อาจทำได้ยากครับ

ป.ล. ผมไม่ได้ลองฟีเจอร์สตรีมเกมออกนอกบ้านครับ

Blognone Jobs Premium